Advertisement
From: zuar_aree@hotmail.com
To: zuar_aree@hotmail.com
Subject: ผลไม้ไทย 30 ชนิด
Date: Sat, 2 Feb 2008 12:05:36 +0700
ทำลายมะเร็ง-ต้อกระจก-หัวใจกับผลไม้ไทย 30 ชนิด
ปัจจุบันประชากรโลกบริโภคผักและผลไม้น้อยลงจะเห็นได้จากภาวะโรคอ้วนที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะเด็กๆ สำหรับประเทศไทย ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเผชิญกับปัยหาสุขภาพอันเนื่องมาจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงสนับสนุนให้คนไทยหันมารับประทานผัก-ผลไม้สดให้มากขึ้น
โดยผลวิจัยล่าสุดพบมีผลไม้ 30 ชนิด ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี และเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ทำลายอนุมูลอิสสระ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญก่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจและโรคตาต้อกระจกในผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ อนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวกับกับปัญหาสุขภาพด้านการบริโภคของคนไทย สามารถทำปฏิกิริยาโยงใยในร่างกายได้มากมายได้แก่ ก่อให้เกิดการอักเสบ การทำลายเนื้อเยื่อ เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะโรคมะเร็งและโรคหัวใจนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการวิจัยพบว่ามีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่วิตามินอี วิตามินซีและเบต้าแคโรทีน สารทั้ง 3 ตัวนี้ สามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้ โดยวิตามินซี ซึ่งละลายน้ำได้จะทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระในเซลล์ที่เป็นของเหลว ป้องกันการถูกอนุมูลอิสระทำลาย ส่วนวิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน จะช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระได้ วิตามินเอ ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันที่อยู่ในรูปของเบตาแคโรทีน หรือแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีในอาหารธรรมชาติประมาณ 600 กว่าชนิด ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ป้องกันเนื้องอก และมีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพด้านอื่นๆ ได้แก่ ลดความเสี่ยงเกี่ยวกับการเสื่อมของตาเนื่องจากสูงอายุ และต้อกระจก รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิด และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างดี
สารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ มีมากในผักผลไม้หลายชนิด โดยเฉพาะที่มีสีเขียว แดง แสด และเหลือง เช่น ผักใบสีเขียวเข้ม ได้แก่ ผักขม ผักคะน้า ผักตำลึง ผักบุ้ง ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะม่วงสุก มะละกอสุก เป็นต้น วิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำมัน และมีมากในน้ำมันพืชทั่วไป เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น ในผักและผลไม้มีวิตามินอีค่อนข้างน้อย ส่วนวิตามินซีมีมากในผักและผลไม้สดทั่วไป
ผลไม้ที่พบสารเบตาแคโรทีนมากที่สุด 10 อันดับแรก คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มี 873 ไมโครกรัม รองลงมาได้แก่ มะเขือเทศราชินีมี 639 ไมโครกรัม มะละกอสุกมี 532 ไมโครกรัม แคนตาลูปเหลืองมี 217 ไมโครกรัม มะปรางหวาน มี 230 ไมโครกรัม มะยงชิด มี 207 ไมโครกรัม สัปปะรดภูเก็ต มี 150 ไมโครกรัม แตงโม มี 122 ไมโครกรัม ส้มสายน้ำผึ้งมี 101 ไมโครกรัม และลูกพลับมี 93 ไมโครกรัม
ผลไม้ที่มีวิตามินอีสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ขนุนหนัง มี 2.38 มิลลิกรัม มะขามเทศ มี 2.29 มิลลิกรัม มะม่วงเขียวเสวยดิบ มี 1.52 มิลลิกรัม มะเขือเทศราชินี มี 1.34 มิลลิกรัม มะม่วงเขียวเสวยสุก มี 1.23 มิลลิกรัม มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มี 1.1 มิลลิกรัม มะม่วงยายกล่ำสุก มี 0.97 มิลลิกรัม กล้วยไข่ มี 0.47 มิลลิกรัม แก้วมังกรเนื้อสีชมพู มี 0.59 มิลลิกรัม และสตรอเบอรี มี 0.54 มิลลิกรัม
ส่วนผลไม้ที่มีวิตามินซีมากที่สุด 10 อันดับแรก คือ ฝรั่งกลมสาลี่ มี 187 มิลลิกรัม ฝรั่งไร้เมล็ดมี 151 มิลลิกรัม มะขามป้อม มี 111 มิลลิกรัม มะขามเทศ มี 97 มิลลิกรัม เงาะโรงเรียน มี 76 มิลลิกรัม ลูกพลับ มี 73 มิลลิกรัม สตรอเบอรี มี 66 มิลลิกรัม มะละกอแขกดำสุก มี 55 มิลลิกรัม พุทราแอปเปิล มี 47 มิลลิกรัม และส้มโอขาวแตงกวา มี 48 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ ในกลุ่มของกล้วยต่างๆ 24 สายพันธุ์ มีทั้งเนื้อสีขาว สีเหลือง สีเหลืองอมแสด จากการศึกษา พบว่า กล้วยไข่พม่ามีสารเบตาแคโรทีนสูงสุด คือ 528 ไมโครกรัม รองลงมาคือกล้วยงาช้างมี 520 ไมโครกรัม กล้วยไข่โนนสูงมี 397 ไมโครกรัม กล้วยนางพญามี 393 ไมโครกรัม กล้วยไข่มี 271 ไมโครกรัม และกล้วยหักมุกนวลมี 270 ไมโครกรัม
สำหรับผู้ป่วยหรือกลุ่มคนที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำตาล โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานอาจต้องเลือกผลไม้ที่รสไม่หวาน ในอเมริกาได้แนะนำให้ผู้ชายบริโภคแคโรทีนอยด์วันละ 6 มิลลิกรัม ในคนไทยแนะนำให้บริโภค วิตามินอีวันละ 6-15 มิลลิกรัม และวิตามินซีวันละ 40-90 มิลลิกรัม
วันที่ 9 มี.ค. 2552
ตัวนี้เอาอยู่! สำหรับคุณครูที่ทั้ง "ร้อง เล่น เต้น สอน เปิดเพลง" รุ่นนี้เอาอยู่ ลองดู Sherman TS-101 Trolley Speaker Amplifier ลำโพงบลูทูธล้อลาก ขนาด 6.5 นิ้ว กำลังขับ 60W ในราคา ฿1,790 ที่ Shopehttps://s.shopee.co.th/3VUQ2Kf9NU?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 10,546 ครั้ง เปิดอ่าน 7,192 ครั้ง เปิดอ่าน 7,190 ครั้ง เปิดอ่าน 7,181 ครั้ง เปิดอ่าน 7,182 ครั้ง เปิดอ่าน 7,192 ครั้ง เปิดอ่าน 7,184 ครั้ง เปิดอ่าน 7,186 ครั้ง เปิดอ่าน 7,189 ครั้ง เปิดอ่าน 7,179 ครั้ง เปิดอ่าน 7,188 ครั้ง เปิดอ่าน 7,237 ครั้ง เปิดอ่าน 7,205 ครั้ง เปิดอ่าน 7,294 ครั้ง เปิดอ่าน 7,184 ครั้ง เปิดอ่าน 7,204 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,184 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,188 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,205 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,187 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,190 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,208 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,184 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 26,728 ครั้ง |
เปิดอ่าน 36,795 ครั้ง |
เปิดอ่าน 42,071 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,082 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,233 ครั้ง |
|
|