ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

จ็อบส์ ดีบี เผยคนไทยติดหนึ่งในชาติเอเชียที่มีความสุขในการทำงาน และมองโลกในแง่ดี


ข่าวการศึกษา 16 ก.พ. 2560 เวลา 08:55 น. เปิดอ่าน : 6,599 ครั้ง
จ็อบส์ ดีบี เผยคนไทยติดหนึ่งในชาติเอเชียที่มีความสุขในการทำงาน และมองโลกในแง่ดี

Advertisement

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 15 กุมภาพันธ์ 2560 – เมื่อพูดถึงการทำงานคนไทยยังคงมีความสุขในการทำงานอยู่เสมอ และมีความคาดหวังในเชิงบวกต่ออนาคตในการทำงานด้วย กล่าวคือพนักงานส่วนมากเชื่อมั่นว่าชีวิตการงานของตนเองต้องดีกว่าเดิม (#icanbebetter) และพนักงานอีกไม่น้อยเลือกที่จะเปลี่ยนงานมากกว่าทนอยู่กับบริษัทเดิมถ้าพวกเขาไม่มีความสุขในการทำงาน
 
รายงานดัชนีความสุขของพนักงานประจำปี 2016 ที่จัดทำโดยบริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคนทำงานอีกเจ็ดประเทศในเอเชีย คนไทยมีความสุขในการทำงานเป็นอันดับที่สาม โดยการสำรวจนี้จัดทำในฮ่องกง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย
 
นางสาวนพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า รายงานดัชนีความสุขดังกล่าวให้ข้อมูลแก่องค์กรธุรกิจต่าง ๆ เกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลให้พนักงานลาออกหรือยังคงอยู่ในองค์กร ไปจนถึงนโยบายและการพัฒนาระบบต่าง ๆ ที่องค์กรสามารถกำหนดขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมการทำงานที่ดียิ่งขึ้น รายงานดังกล่าวยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะที่เกี่ยวกับงานหรือปัจจัยที่มีผลต่อการเพิ่มหรือลดความสุขในการทำงานอีกด้วย ผู้ตอบแบบสอบถามประกอบด้วยพนักงานระดับต่าง ๆ ตั้งแต่พนักงานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานไปจนถึงระดับหัวหน้างาน ระดับผู้จัดการและผู้บริหารระดับสูงจากทั่วประเทศ โดยแต่ละคนมีอายุงาน ความเชี่ยวชาญและอยู่ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน
 
คะแนนความสุขเฉลี่ยจากผู้ตอบแบบสอบถามคนไทยทั้ง 1,957 คนอยู่ที่ 5.74 (จาก 11 ระดับคะแนน ) ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับที่สามของประเทศที่คนทำงานมีความสุขกับการทำงาน รองจากฟิลิปปินส์ (6.25) และอินโดนีเซีย (6.16) ทั้งนี้ประเทศไทยมีดัชนีความสุขจากการทำงานเป็นอันดับที่สาม ซึ่งวัดจากจำนวนคนตอบแบบสอบถามที่มีทัศนะคติเป็นกลางไปจนถึงมีความสุขกับงาน พบว่าทุก ๆ 100 คน จะมี 61 คนมีทัศนะคติเป็นบวกกับงาน ตามหลังอินโดนีเซียที่ 71 และฟิลิปปินส์เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มนี้ที่ 73 นอกจากนี้การสำรวจนี้ยังสอบถามถึงมุมมองของผู้ตอบแบบสอบที่มีต่อความสุขในการทำงานในอีก 6 เดือนข้างหน้า  พบว่าประเทศไทยอยู่ในระดับกลาง ๆ ที่ระดับ 5.66 เมื่อเทียบกับอีกเจ็ดประเทศ โดยอินโดนีเซียมีดัชนีความสุขระดับสูงสุดในกลุ่มนี้ที่คะแนน 6.58 ตามมาด้วยเวียดนามและฟิลิปปินส์ที่ 6.30 และ 6.18 ตามลำดับ  รั้งท้ายด้วยสิงคโปร์ที่ 4.93 และยังเป็นประเทศเดียวที่ได้คะแนนต่ำกว่า 5.00 ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐาน
 
การสำรวจนี้ยังศึกษาข้อมูลภาพรวมของพนักงานที่มีความสุขที่สุดในประเทศไทย จากผลสำรวจเชิงลึกพบว่า พนักงานที่มีความพึงพอใจต่องานมากที่สุดคือกลุ่มที่ทำงานปัจจุบันมาประมาณ 3-5 ปี โดยเป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในงานบริหาร งานท่องเที่ยว งานโรงแรมงานอาหารและเครื่องดื่ม และงานธุรการงานทรัพยากรบุคคล  และทำงานอยู่ในธุรกิจก่อสร้าง/สถาปัตยกรรม ธุรกิจโรงแรม บริการ/จัดเลี้ยงและธุรกิจการแพทย์/เภสัชกรรม  โดยผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นระดับผู้บริหารระดับสูงขององค์กร อาทิ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการ เป็นผู้มีความสุขที่สุด
 
ในทางตรงกันข้ามพนักงานที่ให้คะแนนความสุขต่ำที่สุดเป็นพนักงานที่เพิ่งเริ่มงาน (ส่วนใหญ่ทำงานในองค์กรมาน้อยกว่า 1 ปี) ในสายงานขนส่ง งานไอทีและงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ ในธุรกิจประกันภัยธุรกิจสารเคมี/พลาสติก/กระดาษ/ปิโตรเคมีและธุรกิจยานยนต์  โดยตำแหน่งงานที่มีความสุขน้อยที่สุดคือหัวหน้างาน เมื่อพิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่าพนักงานที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือระบุว่ามีความพึงพอใจต่อการทำงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับพนักงานในภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศ
 
และจากการสำรวจปัจจัยที่ทำให้พนักงานมีความสุขในที่ทำงาน พบว่าคนไทยให้ความสำคัญกับสถานที่ทำงานที่เดินทางสะดวกและทำงานที่ไหนก็ได้ที่ตนเองต้องการ ความมีชื่อเสียงขององค์กร และความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน  โดยปัจจัยเหล่านี้เป็นผลมาจากสภาพการจราจรในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศและลักษณะการสร้างความสัมพันธ์ในสังคมของคนไทย
 
ขณะที่ปัจจัยหลักที่ทำให้พนักงานไม่มีความสุขจนถึงขั้นลาออกจากบริษัทคือ การมีผู้นำที่ขาดคุณสมบัติในการสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ได้รับการส่งเสริมให้เติบโตในหน้าที่การงาน และไม่ได้รับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ แม้ปัจจัยเหล่านี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พนักงานมีความสุขแต่อาจมีผลต่อการตัดสินใจของพนักงานว่าจะอยู่ด้วยความภักดีต่อองค์กรหรือจะไปแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ 
 
34% ของพนักงานที่ตอบแบบสอบถามเลือกมองหาโอกาสที่ดีกว่าหรือหางานใหม่เพื่อเพิ่มความสุขในการทำงาน อีก 19% เลือกทำงานในตำแหน่งเดิมต่อไปตราบใดที่พวกเขายังได้รับการขึ้นเงินเดือน ในขณะที่ 8% บอกว่าพวกเขาจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าได้รับการยอมรับในความสามารถหรือได้เลื่อนตำแหน่ง
“บริษัทสามารถใช้ข้อมูลจากผลสำรวจดังกล่าวเพื่อใช้พัฒนาและเพิ่มระดับความสุขให้แก่พนักงานในองค์กรพนักงานที่มีความพึงพอใจและมีความผูกพันกับองค์กร จะทำให้องค์กรเป็นองค์กรซึ่งตรงกับสิ่งที่เรานำเสนอมาโดยตลอดคือ “งานที่ดีกว่าคืองานที่มีความสุข” จากผลสำรวจของจ๊อบส์ ดีบี เราตั้งใจเผยแพร่ข้อมูลนี้ไปยังองค์กร หน่วยงานและบริษัทต่าง ๆ ให้ทราบถึงปัจจัยที่สร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงานและทำอย่างไรองค์กรถึงจะรักษาความพึงพอใจของพนักงานเอาไว้ได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจพนักงานและระดับความพึงพอใจของพนักงานมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถหาแนวทางในการพัฒนาพนักงาน และในท้ายที่สุดจะส่งผลดีต่อธุรกิจของพวกเขาอีกด้วย” นางสาวนพวรรณ กล่าวเสริม
 

เกี่ยวกับ จ๊อบส์ดีบี (www.jobsDB.com)
 
จ๊อบส์ดีบี เชื่อว่าในโลกที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน มีโอกาสและความเป็นไปได้อยู่มากมาย: การเริ่มต้นใหม่ อาชีพใหม่ การต้อนรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่งที่เราได้ช่วยผู้คนค้นหา
 
ในฐานะผู้นำด้านเว็บไซต์หางาน ที่มีตำแหน่งงานสำคัญในประเทศฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย เราเป็นเว็บไซต์ในดวงใจของผู้หางานในเอเชีย ด้วยทีมงานกว่า 1,000 คนที่มีความสามารถ และข้อมูลเชิงลึกที่เรามี ตลอดจนเทคโนโลยีของเรา จะช่วยให้ผู้หางานพบกับโอกาสที่ดีที่สุดซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ประกอบการ
 
เราสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา ล่าสุดเราได้เปิดตัวฟังก์ชั่นการค้นหาด้วยเงิน เดือนที่ให้ผู้หางานค้นหางานที่ตรงกับเงินช่วงเงินเดือนที่คาดหวังได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้หางานเตรียมความพร้อมในการต่อรองเงินเดือนที่ต้องการได้ในระหว่างการสัมภาษณ์งานเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่ต้องการ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยประหยัดเวลาให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้หางาน
 

 

คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ

จ็อบส์ ดีบี เผยคนไทยติดหนึ่งในชาติเอเชียที่มีความสุขในการทำงาน และมองโลกในแง่ดีจ็อบส์ดีบีเผยคนไทยติดหนึ่งในชาติเอเชียที่มีความสุขในการทำงานและมองโลกในแง่ดี

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567

เปิดอ่าน 13,363 ☕ 28 มี.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การส่งคืนอัตราพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน ที่ว่างจากการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ปี พ.ศ. 2567
การส่งคืนอัตราพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน ที่ว่างจากการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 1,086 ☕ 15 เม.ย. 2567

OECD ห่วงการศึกษาได้รับผลกระทบจาก AI
OECD ห่วงการศึกษาได้รับผลกระทบจาก AI
เปิดอ่าน 527 ☕ 15 เม.ย. 2567

ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2416 เรื่อง การจัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งนักการภารโรง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เพิ่มเติม)
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2416 เรื่อง การจัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งนักการภารโรง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เพิ่มเติม)
เปิดอ่าน 8,395 ☕ 11 เม.ย. 2567

ครม.อนุมัติแล้วเงินจ้างนักการภารโรง 13,751 อัตรา ระหว่าง พ.ค.-ก.ย.67 ประเมินผลทุกสิ้นเดือนไม่ผ่านเปลี่ยนคน
ครม.อนุมัติแล้วเงินจ้างนักการภารโรง 13,751 อัตรา ระหว่าง พ.ค.-ก.ย.67 ประเมินผลทุกสิ้นเดือนไม่ผ่านเปลี่ยนคน
เปิดอ่าน 2,993 ☕ 10 เม.ย. 2567

เสมา 1 ห่วงอันตรายจากความร้อน เตือนประชาชนดูแลสุขภาพจากโรคฮีทสโตรก อาจเกิดอาการรุนแรงอันตรายถึงชีวิตได้
เสมา 1 ห่วงอันตรายจากความร้อน เตือนประชาชนดูแลสุขภาพจากโรคฮีทสโตรก อาจเกิดอาการรุนแรงอันตรายถึงชีวิตได้
เปิดอ่าน 858 ☕ 10 เม.ย. 2567

ครม.อนุมัติจัดสรรงบฯ ให้โรงเรียนจ้างนักการภารโรงทันก่อนเปิดภาคเรียน ในเดือน พ.ค.2567
ครม.อนุมัติจัดสรรงบฯ ให้โรงเรียนจ้างนักการภารโรงทันก่อนเปิดภาคเรียน ในเดือน พ.ค.2567
เปิดอ่าน 2,022 ☕ 9 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ธรรมชาติของห่วงโซ่อาหาร
ธรรมชาติของห่วงโซ่อาหาร
เปิดอ่าน 52,661 ครั้ง

15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงานสำหรับสาวมิลเลเนียม
15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงานสำหรับสาวมิลเลเนียม
เปิดอ่าน 12,683 ครั้ง

ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน
เปิดอ่าน 28,988 ครั้ง

16 กันยายน วันโอโซนโลก
16 กันยายน วันโอโซนโลก
เปิดอ่าน 14,215 ครั้ง

ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี
ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี
เปิดอ่าน 8,812 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 096-7158383

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ