ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"เสมาโพล" ชี้ผู้ปกครองไม่มั่นใจ ปักวัคซีนเด็ก 5-11 ปี จะทำกลับมาเรียนได้ปกติ


ข่าวการศึกษา 20 ก.พ. 2565 เวลา 07:36 น. เปิดอ่าน : 2,977 ครั้ง
"เสมาโพล" ชี้ผู้ปกครองไม่มั่นใจ ปักวัคซีนเด็ก 5-11 ปี จะทำกลับมาเรียนได้ปกติ

Advertisement

สรุปผลการสำรวจ "เสมาโพล" ความคิดเห็นต่อการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนอายุ 5-11 ปี ผู้ปกครองมีความต้องการให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน ร้อยละ 58.6 และ ร้อยละ 45.7 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าการฉีดวัคซีนให้นักเรียนอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี จะทำให้บุตรหลานกลับไปเรียนได้ตามปกติ

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายวีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะผู้อำนวยการเสมาโพล เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนที่มีอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่นักเรียนและหวังให้กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติสุขได้โดยเร็วที่สุด กระทรวงศึกษาธิการ โดย “เสมาโพล” จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานวัยเรียนในช่วงอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี เพื่อให้รัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา นำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนกำหนดนโยบาย/มาตรการ แนวทางการติดตามประเมินผล และการสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปกครองนักเรียนในการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และทำให้สถานศึกษาเป็นที่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สุดสำหรับนักเรียน

การสำรวจครั้งนี้ สอบถามประชาชนที่มีบุตรหลานวัยเรียนในช่วงอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 26,793 หน่วยตัวอย่าง โดยอาศัยแผนการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) และเก็บรวบรวมข้อมูลในรูปแบบการสำรวจออนไลน์ ระหว่างวันที่ 14-18 กุมภาพันธ์ 2565 จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองต่อประเด็น เรื่อง “การฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนที่มีอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี” พบว่า ความต้องการให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน : ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.6 ระบุว่า ต้องการให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน รองลงมา ร้อยละ 22.6 ระบุว่า ไม่ต้องการให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน และร้อยละ 18.8 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ

รองงปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้สิ่งที่เป็นห่วงหรือกังวลที่สุดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้กับบุตรหลาน : ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ร้อยละ 65.1 ระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน รองลงมา ร้อยละ 17.5 ระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับความรับผิดชอบ กรณีนักเรียนมีอาการผิดปกติ ร้อยละ 7.0 ระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน ร้อยละ 4.9 ระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมด้านร่างกายของบุตรหลานก่อนฉีดวัคซีน/บุตรหลานมีสุขภาพไม่แข็งแรง ร้อยละ 0.3 ระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนการเข้ารับบริการฉีดวัคซีน ส่วนผู้ปกครองร้อยละ 5.2 ระบุว่า ไม่มีข้อกังวล ความต้องการด้านสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 : ผู้ปกครองที่มีความต้องการให้บุตรหลานฉีดวัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.8 ระบุว่า ต้องการให้ฉีดวัคซีนที่โรงเรียน รองลงมา ร้อยละ 29.1 ระบุว่า ต้องการให้ฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล และร้อยละ 10.1 ระบุว่า ต้องการให้ฉีดวัคซีน ณ ศูนย์บริการหรือหน่วยบริการ ความต้องการด้านวิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 : ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.8 ระบุว่า ต้องการให้ใช้วิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในนักเรียนด้วยการตรวจน้ำลาย รองลงมา ร้อยละ 23.9 ระบุว่า ต้องการให้ใช้วิธีการแยงจมูก (Swab) ร้อยละ 2.2 ระบุว่า ต้องการให้ใช้วิธีการตรวจเลือด และร้อยละ 2.1 ระบุว่า ไม่ต้องการให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19

ความเชื่อมั่นต่อนโยบายฉีดวัคซีนให้นักเรียนอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี เพื่อให้สามารถกลับไปเรียนได้ตามปกติ : ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.7 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าการฉีดวัคซีนให้นักเรียนอายุ 5 – ไม่เกิน 12 ปี จะทำให้บุตรหลานสามารถกลับไปเรียนได้ตามปกติ รองลงมา ร้อยละ 34.0 ระบุว่า เชื่อมั่นว่าการฉีดวัคซีนจะทำให้บุตรหลานสามารถกลับไปเรียนได้ตามปกติ ส่วนร้อยละ 20.3 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นว่าการฉีดวัคซีนจะทำให้บุตรหลานสามารถกลับไปเรียนได้ตามปกติ

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 77.2 เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในเขตภาคกลาง ร้อยละ 8.5 เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในเขตภาคเหนือ ร้อยละ 7.5 เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในเขตภาคใต้ ร้อยละ 2.8 เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 2.2
เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในเขตภาคตะวันออก และร้อยละ 1.8 เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร

ตัวอย่างร้อยละ 31.4 ประกอบอาชีพค้าขาย/ประกอบธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 26.9 ประกอบอาชีพพนักงาน/ลูกจ้างเอกชน ร้อยละ 15.4 ประกอบอาชีพข้าราชการ/พนักงานราชการ/ลูกจ้างของรัฐ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 10.6 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ขับรถรับจ้าง/กรรมกร ร้อยละ 8.6 ประกอบอาชีพเกษตรกร และร้อยละ 7.1 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/ว่างงาน ตัวอย่างร้อยละ 68.0 เป็นผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในความดูแลรับผิดชอบ จำนวน 1 คน ร้อยละ 27.6 มีบุตรหลานในความดูแลรับผิดชอบ จำนวน 2 คน ร้อยละ 3.3 มีบุตรหลานในความดูแลรับผิดชอบ จำนวน 3 คน และร้อยละ 1.1 มีบุตรหลานในความดูแลรับผิดชอบ จำนวนมากกว่า 3 คน ขึ้นไป

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565

 


"เสมาโพล" ชี้ผู้ปกครองไม่มั่นใจ ปักวัคซีนเด็ก 5-11 ปี จะทำกลับมาเรียนได้ปกติเสมาโพลชี้ผู้ปกครองไม่มั่นใจปักวัคซีนเด็ก5-11ปีจะทำกลับมาเรียนได้ปกติ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2416 เรื่อง การจัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งนักการภารโรง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เพิ่มเติม)

ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2416 เรื่อง การจัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งนักการภารโรง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เพิ่มเติม)

เปิดอ่าน 10,105 ☕ 11 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
เปิดอ่าน 951 ☕ 25 เม.ย. 2567

ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
เปิดอ่าน 463 ☕ 25 เม.ย. 2567

การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
เปิดอ่าน 605 ☕ 25 เม.ย. 2567

แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
เปิดอ่าน 846 ☕ 25 เม.ย. 2567

แนวทางปฏิบัติการจัดทำหนังสือราชการ (เรียนดี มีความสุข)
แนวทางปฏิบัติการจัดทำหนังสือราชการ (เรียนดี มีความสุข)
เปิดอ่าน 1,975 ☕ 25 เม.ย. 2567

ปฏิทินการจ้างและการประเมินนักการภารโรง ระยะเวลา 5 เดือน (พฤษภาคม – กันยายน 2567)
ปฏิทินการจ้างและการประเมินนักการภารโรง ระยะเวลา 5 เดือน (พฤษภาคม – กันยายน 2567)
เปิดอ่าน 2,804 ☕ 24 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?
เปิดอ่าน 11,293 ครั้ง

รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น
เปิดอ่าน 138,164 ครั้ง

เคล็ดลับในการเริ่มบทสนทนาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจกับเจ้าของภาษาที่ใครๆ ก็ทำได้
เคล็ดลับในการเริ่มบทสนทนาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจกับเจ้าของภาษาที่ใครๆ ก็ทำได้
เปิดอ่าน 14,085 ครั้ง

สงครามครูเสด
สงครามครูเสด
เปิดอ่าน 210,510 ครั้ง

กระเป๋านักเรียนหนักเสี่ยง! หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
กระเป๋านักเรียนหนักเสี่ยง! หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
เปิดอ่าน 10,125 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ