ที่ประชุมสภาการศึกษารับทราบร่าง พ.ร.บ.การศึกษาชาติแล้ว ชี้ยึดเสียงส่วนใหญ่

"ณัฏฐพล"ยึดเสียงส่วนใหญ่ชงปรับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาชาติ

ณัฏฐพล”เผยที่ประชุมสภาการศึกษารับทราบร่าง พ.ร.บ.การศึกษาชาติแล้ว ชี้ยึดเสียงส่วนใหญ่ แต่ยังมีขั้นตอนรับฟังการทักท้วงหรือเสนอแนะ

วันนี้ (2ธ.ค.)นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมสภาการศึกษา เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.)ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น 5 ครั้ง และรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ของ สกศ. โดยตนได้ให้ สกศ.ดูว่า ยังมีประเด็นอะไรที่ไม่ครอบคลุมบ้าง และจะสรุปทำความเห็นตามเสียงส่วนใหญ่เสนอต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะเสนอได้ในเดือนธันวาคมนี้

“มีสรุปประมาณ 10 ประเด็น ที่มีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เช่น การให้คง “ผู้อำนวยการสถานศึกษา”ไว้ ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาเป็น “ครูใหญ่” ไม่เห็นด้วยที่ผู้ช่วยครูใหญ่อาจแต่งตั้งจากคนที่ไม่ได้เป็นครู ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยน “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ” เป็น “ใบรับรองความเป็นครู” ควรปรับลดโครงสร้างสายการบังคับบัญชาจากส่วนกลางถึงสถานศึกษาให้สั้นลง การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาควรแยกจากกัน ควรเพิ่มเนื้อหาสาระด้านระบบสวัสดิการ และการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เป็นต้น” รมว.ศึกษาธิการกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีผู้ไม่เห็นด้วยกับร่างโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ที่เป็นการรวบอำนาจอยู่ในบังคับบัญชาของ ปลัด ศธ. นายณัฏฐพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถทักท้วงหรือเสนอแนะได้ และ ขณะนี้ ศธ.ก็ได้ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. ที่มีนายวราวิทย์ กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษา รมว.ศธ. เป็นประธาน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ซึ่งอาจได้ข้อสรุปในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมั่นใจว่าทุกขั้นตอนมีเวลาเพียงพอที่จะรับฟังถึงความเห็น

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562