ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทย สร้างสรรค์ “ระบำตรังคปุระ”

การพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระ การเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์เพิ่มเติม) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำตรังคปุระ” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์เพิ่มเติม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ JOESH Model 2.2) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการรำระบำตรังคปุระและความคิดสร้างสรรค์ JOESH Model กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์) ได้มาโดยวิธีการเจาะจง (Purposive sampling) มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผน การจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่แบบไม่อิสระและแบบอิสระและการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1. การจัดการเรียนรู้ JOESH Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Juicy: J) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (Operate: O) ขั้นที่ 3 ฝึกฝนนักเรียน (Educate: E) ขั้นที่ 4 สรุปความรู้ (Sum up: S) ขั้นที่ 5 การนำไปใช้ (Handle: H) ผลการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ได้ค่าความเหมาะสม/สอดคล้องมีค่าเฉลี่ย (X ̅) ตั้งแต่ 4.60 – 4.80 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ตั้งแต่ 0.43 – 0.55 ซึ่งแสดงว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำตรังคปุระ” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์เพิ่มเติม)

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม/สอดคล้องเชิงโครงสร้าง สามารถนำไปทดลองใช้ได้และผลการหาประสิทธิภาพ (E1/E2) โดยการทดลองภาคสนาม (Field Tryout) พบว่าประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำตรังคปุระ”กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์เพิ่มเติม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 83.75/85.89 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำตรังคปุระ” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์เพิ่มเติม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีดังต่อไปนี้

2.1 หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำตรังคปุระ” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์เพิ่มเติม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงมากและสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2.2 ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการรำนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ “ระบำตรังคปุระ” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์เพิ่มเติม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวม ผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.71, S.D. = 0.24)

โพสต์โดย นายกิตติ์ธเนศ ล้ำเลิศอภิกิตติ์ : [27 ก.ค. 2559 เวลา 15:09 น.]
อ่าน [2747] ไอพี : 171.5.184.36
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,747 ครั้ง
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี

เปิดอ่าน 23,519 ครั้ง
มะนาววงบ่อ นอกฤดู 1 ไร่ 100 ต้น
มะนาววงบ่อ นอกฤดู 1 ไร่ 100 ต้น

เปิดอ่าน 31,659 ครั้ง
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 9,546 ครั้ง
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"

เปิดอ่าน 10,363 ครั้ง
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%

เปิดอ่าน 19,161 ครั้ง
คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55
คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55

เปิดอ่าน 19,034 ครั้ง
การเรียนรู้โดยใช้แป้นพิมพ์แทนการเขียน ดีหรือไม่?
การเรียนรู้โดยใช้แป้นพิมพ์แทนการเขียน ดีหรือไม่?

เปิดอ่าน 14,994 ครั้ง
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม

เปิดอ่าน 22,443 ครั้ง
วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด
วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด

เปิดอ่าน 15,102 ครั้ง
คลิปรายการ เจาะข่าวเด่น 6 มี.ค.2556 ตอน "ทุจริตสอบครูผู้่ช่วย"
คลิปรายการ เจาะข่าวเด่น 6 มี.ค.2556 ตอน "ทุจริตสอบครูผู้่ช่วย"

เปิดอ่าน 52,018 ครั้ง
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้

เปิดอ่าน 22,727 ครั้ง
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย

เปิดอ่าน 38,707 ครั้ง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง

เปิดอ่าน 12,858 ครั้ง
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม

เปิดอ่าน 14,603 ครั้ง
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 16,543 ครั้ง
ดีปลี
ดีปลี
เปิดอ่าน 13,264 ครั้ง
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
เปิดอ่าน 11,747 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย
ภัยเงียบของเด็กไทย
เปิดอ่าน 49,244 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท
เปิดอ่าน 122,670 ครั้ง
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ