ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง

บทคัดย่อ

การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในการวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัย

(1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนจำนวน 46 คน คือ ห้อง ม.1/1 โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากห้องเรียนแต่ละห้องมีนักเรียนที่มีความสามารถทางการเรียนเก่ง ปานกลาง อ่อน ใกล้เคียงกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 4 ชนิด ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 13 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลาเรียน 13 ชั่วโมง ไม่นับแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปฐมนิเทศทดสอบก่อนเรียน และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทดสอบหลังเรียนตอบแบบวัดความพึงพอใจ แบบทดสอบย่อยกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบปรนัย จำนวน 13 ฉบับ ประกอบด้วย ข้อสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวนฉบับละ 6 ข้อ แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 1 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.38 ถึง 0.63 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 2 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.38 ถึง 0.68 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 3 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.67 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 4 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.36 ถึง 0.64 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 5 มี ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.70 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 6 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.57 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 7 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.70 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 8 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.68 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 9 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.59 ถึง 0.79 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 10 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.21 ถึง 0.71 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 11 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.67 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 12 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.29 ถึง 0.31 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 แบบทดสอบย่อยฉบับที่ 13 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.73 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.69 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.78 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ 15 ข้อ ประกอบด้วย 4 ด้าน คือ ด้านเนื้อหา ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านสื่อการเรียนการสอนและด้านการวัดและประเมินผล มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ 0.40 ถึง 0.71 และ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ การทดสอบที (t-test)

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้

คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.63/77.31 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ( = 4.65, = 0.48) รองลงมาได้แก่ ด้านสื่อการเรียนการสอน

( = 4.60, = 0.49) และด้านเนื้อหา ( = 4.58, = 0.50) ตามลำดับ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการวัดและประเมินผล ( = 4.48, = 0.50)

โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้นนี้มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้น และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD ควรที่จะมีการนำไปใช้เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพต่อไป

โพสต์โดย อิ๋ว : [7 ต.ค. 2559 เวลา 09:01 น.]
อ่าน [4044] ไอพี : 180.183.250.22
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,597 ครั้ง
อะไรที่กินคลายเครียดได้จริงบ้าง
อะไรที่กินคลายเครียดได้จริงบ้าง

เปิดอ่าน 17,738 ครั้ง
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน “บ้าน”
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน “บ้าน”

เปิดอ่าน 27,548 ครั้ง
รวมวิธีการใช้งาน Google Plus สำหรับผู้เริ่มต้น
รวมวิธีการใช้งาน Google Plus สำหรับผู้เริ่มต้น

เปิดอ่าน 12,758 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?

เปิดอ่าน 13,568 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๕๕
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๕๕

เปิดอ่าน 24,704 ครั้ง
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ

เปิดอ่าน 19,056 ครั้ง
ฟักทองญี่ปุ่น
ฟักทองญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 18,407 ครั้ง
ภาวะหมดไฟในการทำงาน (burnout syndrome)
ภาวะหมดไฟในการทำงาน (burnout syndrome)

เปิดอ่าน 67,883 ครั้ง
ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ
ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ

เปิดอ่าน 21,183 ครั้ง
เตือน "5 โรคร้าย" อันตรายต่อ "ครู" แนะเทคนิคดูแลสุขภาพ
เตือน "5 โรคร้าย" อันตรายต่อ "ครู" แนะเทคนิคดูแลสุขภาพ

เปิดอ่าน 71,297 ครั้ง
เคล็ดลับ13ประการในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับ13ประการในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 29,852 ครั้ง
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน

เปิดอ่าน 2,980 ครั้ง
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี

เปิดอ่าน 2,431 ครั้ง
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก

เปิดอ่าน 172,095 ครั้ง
ดนตรีไทย
ดนตรีไทย

เปิดอ่าน 27,381 ครั้ง
ตัวถ่วงความเจริญการศึกษาไทย
ตัวถ่วงความเจริญการศึกษาไทย
เปิดอ่าน 16,660 ครั้ง
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ
เปิดอ่าน 10,197 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์
เปิดอ่าน 9,855 ครั้ง
"ส้มตำ" มีมานานหรือยัง?
"ส้มตำ" มีมานานหรือยัง?
เปิดอ่าน 19,841 ครั้ง
"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน
"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ