ชื่อเรื่อง รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ วิชาภาษาอังกฤษ
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories
ผู้ศึกษา นางสาวเนตรนภิส ตันเทอดทิตย์
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ วิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories ที่มีประสิทธิภาพ
ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผล เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน และเพื่อวัดความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 คน ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านคำกลิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ มี 3 ชนิด คือ 1) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ วิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories จำนวน 10 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 1 ชุด จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.56 ถึง 0.78 และค่าอำนาจจำแนก (B) อยู่ระหว่าง 0.23 ถึง 0.67 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.77 และ 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories จำนวน
15 ข้อ ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับแบบลิเคอร์ท คือ มีความพึงพอใจมากที่สุด มีความพึงพอใจมาก มีความพึงพอใจปานกลาง มีความพึงพอใจน้อย และมีความพึงพอใจน้อยที่สุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ค่า t-test
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ วิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ ซึ่งผลการทดลอง พบว่า มีค่าเท่ากับ 88.17/85.42
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ วิชาภาษาอังกฤษ
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีค่าเท่ากับ 0.8004 หมายความว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์และทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 80.04
3. คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01
4. นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ
การอ่านเพื่อความเข้าใจ วิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชุด Short Stories โดยรวมอยู่ในเกณฑ์มีความพึงพอใจมากที่สุด
สรุปได้ว่า แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ วิชาภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุด Short Stories มีประสิทธิภาพดีและเหมาะสมอย่างยิ่ง สามารถช่วยพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์และทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจเป็นอย่างดี ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้