ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรงในวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง เส้นขนาน

การใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรงในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง เส้นขนาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ผู้วิจัย นายนพดล อินทรจงจิต ครูโรงเรียนองค์การสวนยาง 3

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และเพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่ตั้งใจเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ที่มีความยากง่ายพอเหมาะและการเสริมแรงด้วยการใช้คำชมเชยระหว่างเรียน สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนองค์การสวนยาง 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 กลุ่มทดลองเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 คน โดยให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์จากง่ายไปหายาก ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น จำนวน 3 ฉบับ และบันทึกคะแนน

ผลการศึกษาปรากฏว่า การใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์และการเสริมแรง ทำให้นักเรียนสามารถทำคะแนนได้ค่อนข้างสูง ดังจะเห็นได้จากการเปรียบเทียบผลการทำแบบฝึกทักษะทั้ง 3 ฉบับ ของนักเรียน 9 คน โดยในแต่ละฉบับที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 76.67 ฉบับที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 78.33 และฉบับที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 84.44

การใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรง

ความสำคัญและที่มา

จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนเป็นนักเรียนอยู่ในระดับปานกลางเป็นส่วนมาก แต่ยังมีนักเรียนบางคนขาดทักษะการคิดคำนวณ ส่วนนักเรียนที่เรียนดีก็ยังไม่รอบคอบในการทำงาน และบางครั้งยังคิดคำนวณคำตอบจากโจทย์ที่กำหนดให้ไม่ถูกตอง โดยเฉพาะโจทย์ที่มีความซับซ้อน นักเรียนจะตีความโจทย์และคิดคำตอบไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเส้นขนาน นักเรียนบางคนยังดูรูปและหาวิธีคิดไม่ได้ ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหารูปภาพที่กำหนดให้ได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้จึงได้จัดทำวิจัยนี้ขึ้น

ทางเลือกในการแก้ปัญหา

1. นำแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องเส้นขนาน ที่มีความยากง่ายพอเหมาะใช้ฝึกทักษะ

2. เสริมแรงด้วยคำชมเชยระหว่างเรียน

3. เสริมแรงด้วยของรางวัล

จุดมุ่งหมาย

1. เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

2. เพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่ตั้งใจเรียน

ตัวแปรที่ศึกษา

1. แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ที่มีความยากง่ายพอเหมาะ

2. การเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชยระหว่างเรียน

กรอบแนวคิดในการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 คน ผู้วิจัยได้จัดทำแบบฝึกทักษะเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ เรื่อง เส้นขนานที่มีความยากง่ายพอเหมาะ และใช้การเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชยระหว่างเรียนเพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่จะช่วยพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

2. ได้แนวทางในการกระตุ้นและเสริมแรงนักเรียนระหว่างเรียนวิชาคณิตศาสตร์

ขอบเขตของการวิจัย

ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมการเขียนคำตอบในการคำนวณเรื่องเส้นขนาน เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และได้กำหนดขอบเขตของการวิจัยไว้ดังนี้

1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือนักเรียนโรงเรียนองค์การสวนยาง 3 ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2560 จำนวน 9 คน

2. เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา เป็นเนื้อหาคณิตศาสตร์ คือ เรื่อง เส้นขนาน ตามหลักสูตรของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

วิธีดำเนินการวิจัย

ระยะเวลาในการดำเนินงาน 19 กรกฎาคม 2560 – 30 กันยายน 2560

วัน เดือน ปี กิจกรรม หมายเหตุ

19 – 23 กรกฎาคม 2560 - ศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์หาแนวทางแก้ปัญหา

27 – 30 กรกฎาคม 2560 - เขียนเค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน

- ศึกษาหลักสูตรเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์

- วิเคราะห์ผู้เรียนและวิเคราะห์เนื้อหา

2 – 6 สิงหาคม 2560 - ออกแบบเครื่องมือที่จะใช้ในงานวิจัย

9 – 13 สิงหาคม 2560 - นักเรียนทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ฉบับที่ 1ผู้วิจัยบันทึกคะแนน

16 – 20 สิงหาคม 2560 - นักเรียนทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ฉบับที่ 2 ผู้วิจัยบันทึกคะแนน

23 - 27 สิงหาคม 2560 - นักเรียนทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ฉบับที่ 3 ผู้วิจัยบันทึกคะแนน

วัน เดือน ปี กิจกรรม หมายเหตุ

30 สิงหาคม – 3 กันยายน 2560 - เก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล

6 – 30 กันยายน 2560 - สรุปและอภิปรายผล

- จัดทำรูปเล่ม

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่มีความยากง่ายพอเหมาะ

2. การให้การเสริมแรงระหว่างเรียน

ขั้นตอนการดำเนินการ

ในการดำเนินการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเขียนคำตอบ แบบฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่อง เส้นขนาน ผู้วิจัยได้วางแผนการดำเนินการศึกษา สร้างแบบฝึกทักษะ โดยยึดหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดจันดี และในการดำเนินการมีรายละเอียดเป็นขั้นตอนดังนี้

1. ขั้นวิเคราะห์ (Analysis)

1.1 วิเคราะห์ผู้เรียน การวิเคราะห์ผู้เรียนได้กำหนดไว้ดังนี้

ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนองค์การสวนยาง 3 จำนวน 9 คน

1.2 วิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนดำเนินการมีดังนี้

เนื้อหาที่จะใช้สร้างแบบฝึกทักษะ โดยใช้เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยเนื้อหาในการทดลองคือเรื่อง เส้นขนาน โดยผู้วิจัยเป็นผู้สร้างฝึกทักษะทั้ง 3 ฉบับ

2. ขั้นออกแบบ (Design)

ขั้นออกแบบแบบฝึกทักษะมีขั้นตอนดังนี้

แบบฝึกทักษะ จำนวน 3 ฉบับ ฉบับละ 20 ข้อ เนื้อหาเกี่ยวกับการเส้นขนาน

3. ขั้นดำเนินการ

มีการดำเนินการดังนี้

3.1 ทำการทดลองกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนองค์การสวนยาง 3 จำนวน 9 คน โดยให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ ทั้ง 3 ฉบับ และทำการบันทึกคะแนน

3.2 การให้การเสริมแรงระหว่างเรียนโดยการให้คำชมเชยและกำลังใจแก่นักเรียน

4. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล

4.1 วิเคราะห์ข้อมูล

- วิเคราะห์ผลจากคะแนนที่ได้จากการทำแบบฝึกทักษะ ทั้ง 3 ฉบับ

4.2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

4.2.1 การหาค่าเฉลี่ย (x ̅)

x ̅=(∑x)/N

เมื่อ x ̅ = ค่าเฉลี่ย

x = คะแนนที่ได้

N = จำนวนนักเรียนทั้งหมด

∑x = ผลรวมของคะแนนทั้งหมด

4.2.2 การหาค่าร้อยละ

ร้อยละ = คะแนนที่ได้ x 100/คะแนนเต็ม

5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

จากการศึกษาวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยได้ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนวัดจันดี จำนวน 9 คน ผู้วิจัยได้ทำการทดลองโดยให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะเกี่ยวกับการคูณเลขสองหลัก จำนวน 3 ฉบับ โดยให้นักเรียนทำสัปดาห์ละ 1 ฉบับ จากนั้นผู้วิจัยทำการบันทึกคะแนน โดยสามารถวิเคราะห์ผลได้ดังนี้

5.1 ผลการวิเคราะห์คะแนนแบบฝึกทักษะทั้ง 3 ฉบับ

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ตารางแสดงผลคะแนนแบบฝึกหัดทั้ง 3 ฉบับ

ที่ ชื่อ-สกุล/แบบฝึก แบบฝึกหัดชุดที่ 1 แบบฝึกหัดชุดที่ 2 แบบฝึกหัดชุดที่ 3

1 เด็กหญิงณัฐพร คงสง 14 15 17

2 เด็กหญิงอภิชญา สงเทพ 18 16 19

3 เด็กหญิงพัชรีภรณ์ บัวจีน 12 14 16

4 เด็กชายจักรพันธ์ ดิษฐราชา 16 16 18

5 เด็กหญิงชวัญพิชชา นพรัตน์ 18 16 16

6 เด็กชายภาณุพันธ์ ณะฤทธิ์ 10 12 14

7 เด็กชายณัฐวุฒิ เจ้ยทอง 18 20 18

8 เด็กหญิงกมลชนก มาลาเวช 12 12 14

9 เด็กหญิงธิดารัตน์ คงปินัง 20 20 20

รวม 138 141 152

เฉลี่ยต่อข้อ 15.33 15.67 16.89

ร้อยละ 76.67 78.33 84.44

จากตาราง แสดงให้เห็นว่าหลังจากที่นักเรียนทั้ง 9 คน ได้ทำแบบฝึกทักษะทั้ง 3 ฉบับแล้ว นักเรียนแต่ละคนมีผลคะแนนแตกต่างกัน โดยจะมีการพัฒนาขึ้นตามลำดับตั้งแต่ชุดที่ 1 – ชุดที่ 3 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนของแต่ละฉบับ แต่ละคนแล้ว คะแนนการทำแบบฝึกทักษะทั้ง 3 ฉบับ โดยเฉลี่ยของนักเรียนทั้ง 9 คน อยู่ในระดับดี คือ โดยฉบับที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 76.67 ฉบับที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 78.33 และฉบับที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 84.44

สรุปผลการศึกษาวิจัย

จากการศึกษาและวิเคราะห์คะแนนที่ได้จากผลการทำแบบฝึกทักษะในเรื่องเส้นขนานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 9 คน นั้นแสดงให้เห็นว่า คะแนนเฉลี่ยของแต่ละคนสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป และคะแนนในแต่ละฉบับของนักเรียนก็เพิ่มขึ้นจากเดิมโดยเฉลี่ยแล้ว โดยฉบับที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 76.67 ฉบับที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 78.33 และฉบับที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 84.44ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเสริมแรงโดยการใช้แบบฝึกหัดเพิ่มเติม และการเสริมแรงด้วยการให้รางวัลและวาจานั้นสามารถทำให้ผู้เรียนนั้นมีพัฒนาการทางด้านการคิดคำนวณเพิ่มขึ้น

อภิปรายผลการศึกษา

จากการสร้างแบบฝึกทักษะเรื่องเส้นขนาน เพื่อช่วยพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 คน ในครั้งนี้สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้

1. พบว่าแบบฝึกทักษะของเส้นขนานนั้น นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะของตนเองขึ้นได้จากแบบฝึกหัดที่ 1 – แบบฝึกหัดที่ 3

2. จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบเป็นรายบุคคลยังพบว่ามีนักเรียนที่เรียนแต่ละคนมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน

3. จะเห็นได้ว่าการที่ครูให้การเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชย ทำให้นักเรียนมีกำลังใจและทำคะแนนได้ดีขึ้น

ข้อเสนอแนะ

1. ในการสร้างแบบฝึกทักษะเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ อาจจะใช้รูปแบบอื่นที่นอกไปจากการคูณเลขสองหลัก อาจใช้วิธี การบวก การลบหรือการหาร และเพิ่มจำนวนหลักให้มากขึ้น

2. ในการวิจัยครั้งต่อไปอาจเพิ่มปริมาณของกลุ่มตัวอย่างขึ้นและอาจเจาะจงทำการวิจัยกลุ่มนักเรียนที่เรียนอ่อนมาก ๆ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือและแก้ไขต่อไป

โพสต์โดย เอ็ม : [20 มิ.ย. 2561 เวลา 09:18 น.]
อ่าน [8449] ไอพี : 182.232.186.110
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,971 ครั้ง
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ

เปิดอ่าน 10,971 ครั้ง
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก

เปิดอ่าน 15,893 ครั้ง
กล้องโทรทรรศน์โซเฟียค้นพบหลุมดำ 11 หลุมในอวกาศ
กล้องโทรทรรศน์โซเฟียค้นพบหลุมดำ 11 หลุมในอวกาศ

เปิดอ่าน 14,722 ครั้ง
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน

เปิดอ่าน 162,331 ครั้ง
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน

เปิดอ่าน 13,396 ครั้ง
คู่มือการใช้งานบัตรเครดิตราชการ
คู่มือการใช้งานบัตรเครดิตราชการ

เปิดอ่าน 29,146 ครั้ง
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 14,929 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา อนุบาล-จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี2557
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา อนุบาล-จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี2557

เปิดอ่าน 19,844 ครั้ง
ย้อนดูประวัติศาสตร์"เมืองหลวง"ของโลกจมน้ำ
ย้อนดูประวัติศาสตร์"เมืองหลวง"ของโลกจมน้ำ

เปิดอ่าน 2,780 ครั้ง
อิทธิพลของดวงจันทร์
อิทธิพลของดวงจันทร์

เปิดอ่าน 14,927 ครั้ง
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา

เปิดอ่าน 12,706 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 20,013 ครั้ง
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ

เปิดอ่าน 10,939 ครั้ง
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..

เปิดอ่าน 12,825 ครั้ง
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ

เปิดอ่าน 56,532 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
เปิดอ่าน 9,902 ครั้ง
บททดสอบก่อนเกษียณ
บททดสอบก่อนเกษียณ
เปิดอ่าน 91,404 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
เปิดอ่าน 23,175 ครั้ง
ตารางสีเสื้อผ้าประจำวัน
ตารางสีเสื้อผ้าประจำวัน
เปิดอ่าน 12,373 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ