การศึกษาประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) โดยใช้ชุดการสอน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างกลุ่มที่เรียนแบบร่วมมือกับกลุ่มที่เรียนแบบปกติ 2) เพื่อศึกษาทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือ 3) เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนกลุ่มที่เรียนแบบร่วมมือ จำนวน 60 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง (สอนแบบร่วมมือ) และกลุ่มควบคุม (สอนแบบปกติ) กลุ่มละ 30 คน ใช้เวลา 14 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยจำนวน 30 ข้อแบบประเมินทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ และแบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การทดสอบที (t-test)

ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า

1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการเรียนแบบร่วมมือ ในรายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ

มีทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านการแก้ปัญหา ด้านการให้เหตุผล และด้านการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่นๆ อยู่ในระดับ ดี ด้านการสื่อสาร/การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ และด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์อยู่ในระดับ พอใช้ จึงส่งผลให้โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ดี

3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ

มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความมีวินัย ด้านการใฝ่เรียนรู้ และด้านการมุ่งมั่นในการทำงานอยู่ในระดับ ดี ทั้งโดยคุณลักษณะอันพึงประสงค์รายด้านและคุณลักษณะอันพึงประสงค์โดยรวม

เว็บน่าสนใจ