|
|
ชื่องานวิจัย การพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียน
บ้านตะบิงตีงี ปีการศึกษา 2560 - 2561
ชื่อผู้วิจัย นางสาวมัสกะห์ เจะแม็ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการในตำแหน่ง
ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนบ้านตะบิงตีงี
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านตะบิงตีงี อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี
ปีที่ทำวิจัย 2561
________________________________________________________________________
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี (2) เพื่อพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้ กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี (3) เพื่อเปรียบเทียบอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี ก่อนและหลังการพัฒนา (4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่มีแววอัจฉริยภาพ ก่อนและหลังการพัฒนา (5) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่อรูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการ มีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี (6) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู และ ผู้ปกครอง ต่ออัจฉริยภาพของนักเรียนโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี ก่อนและหลังการพัฒนา
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง เครือข่ายการมีส่วนร่วมภายในโรงเรียนและเครือข่ายการมีส่วนร่วมภายนอกโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี ประกอบด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนบ้านตะบิงตีงีที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2560 จำนวน 203 คน ปีการศึกษา 2561จำนวน 172 คน ครูปีการศึกษา 2560 จำนวน 25 คน และปีการศึกษา 2561 จำนวน 25 คน ผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 203 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 172 คน ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 1 คน ประชากรที่เป็นเครือข่ายการมีส่วนร่วมภายในโรงเรียน ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน คณะกรรมการนักเรียน จำนวน 10 คน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 12 คน ประชากรที่เป็นเครือข่ายการมีส่วนร่วมภายนอกโรงเรียน ได้แก่ องค์กรภาครัฐ องค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถาบันศาสนา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บและรวบรวมข้อมูล คือ (1) เครื่องมือในการค้นหาแววอัจฉริยภาพของนักเรียน จำนวน 7 ชุด (2) แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่าที่เกี่ยวกับความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่อรูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีค่าความเชื่อมั่น .90 (3) แบบ สอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่าที่เกี่ยวกับความ พึงพอใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่ออัจฉริยภาพของนักเรียนโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .82 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการเชฟเฟ
ผลการวิจัยพบว่า (1) รูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงีที่พัฒนาขึ้นเป็นรูปแบบที่มีความเชื่อมั่นสูง (2) เมื่อใช้รูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี นักเรียนที่ได้รับการพัฒนาอัจฉริยภาพมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น (3) นักเรียนมีอัจฉริยภาพหลังการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี สูงกว่าก่อน การพัฒนา (4) ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่มีแววอัจฉริยภาพหลังการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี สูงกว่าก่อนการพัฒนา (5) นักเรียน ครู และผู้ปกครองมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการพัฒนาอัจฉริยภาพโดยใช้กลยุทธ์เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี ไม่แตกต่างกัน (6) นักเรียน ครู และผู้ปกครอง มีความ พึงพอใจ ต่ออัจฉริยภาพของนักเรียนโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา
|
โพสต์โดย นางสาวมัสกะห์ เจะแม็ง : [17 ส.ค. 2562 เวลา 12:43 น.] อ่าน [2745] ไอพี : 171.7.247.111
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 18,481 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 6,527 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,239 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,574 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,881 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,688 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,830 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,301 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,422 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,842 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,208 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,744 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,644 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,771 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,204 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 14,979 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,233 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,169 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,298 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,178 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|