ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง การพัฒนาการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ

โดยใช้แผนที่ความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้วิจัย นางสาวนพรัตน์ พงษ์สุข

ปีการศึกษา 2561

สถานศึกษา โรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด้วยแบบฝึก ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อ

ความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด

กลุ่มประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนชุมชน

เทศบาลวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบฝึกทักษะ การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้า โดยใช้แผนผังความคิด สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน

8 เล่ม ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 17 แผน โดยใช้เวลาจำนวน 18 ชั่วโมง มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (µ = 4.70 ,  = 0.48 3) แบบทดสอบหลังเรียนประจำแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 8 เล่ม มีค่าความยาก

ง่าย ตั้งแต่ 0.47 – 0.80 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.22 – 0.57 ค่าความเชื่อมั่นของแบบฝึกทักษะ

จำนวน 8 เล่ม มีค่าตั้งแต่ 0.73 - 0.77 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ

หลังเรียน ด้วยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ ซึ่งเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก ค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.47 - 0.73 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.23 - 0.57 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89

5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ

ความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีลักษณะการวัดแบบ

มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ค่าอำนาจจำแนก เท่ากับ 0.28 – 0.86 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และการทดสอบค่า t-test แบบ Dependent

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 77.02 / 76.71 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 75/75

2. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ

ความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ 0.6337 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.6337 หรือคิดเป็นร้อยละ 63.37

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แผนผังความคิด สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ

ความเข้าใจโดยใช้แผนผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย นพรัตน์ : [30 ส.ค. 2562 เวลา 22:15 น.]
อ่าน [66671] ไอพี : 223.24.147.3
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 53,408 ครั้ง
"แคนา แคทุ่ง แคอ่าว" มีดีอย่างไร ทำไมจึงนิยมปลูกในบ้านหรือปั๊มน้ำมันกันจังเลย
"แคนา แคทุ่ง แคอ่าว" มีดีอย่างไร ทำไมจึงนิยมปลูกในบ้านหรือปั๊มน้ำมันกันจังเลย

เปิดอ่าน 16,957 ครั้ง
วันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน
วันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน

เปิดอ่าน 12,718 ครั้ง
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล

เปิดอ่าน 19,150 ครั้ง
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่

เปิดอ่าน 24,803 ครั้ง
นักวิชาการแจงข้อสอบเด็ก ป.3 สุดยาก เป็นการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนในห้องพิเศษ
นักวิชาการแจงข้อสอบเด็ก ป.3 สุดยาก เป็นการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนในห้องพิเศษ

เปิดอ่าน 16,998 ครั้ง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง

เปิดอ่าน 23,340 ครั้ง
3G สามจี หรือ ทรีจี
3G สามจี หรือ ทรีจี

เปิดอ่าน 27,993 ครั้ง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง

เปิดอ่าน 16,895 ครั้ง
ปะการัง
ปะการัง

เปิดอ่าน 82,465 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561)
ปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561)

เปิดอ่าน 9,183 ครั้ง
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 25,279 ครั้ง
อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น
อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น

เปิดอ่าน 14,371 ครั้ง
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม

เปิดอ่าน 9,309 ครั้ง
ออกัสตา แอดา ไบรอน (Augusta Ada Byron) นักคณิตศาสตร์หญิงของโลก
ออกัสตา แอดา ไบรอน (Augusta Ada Byron) นักคณิตศาสตร์หญิงของโลก

เปิดอ่าน 14,874 ครั้ง
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ

เปิดอ่าน 23,779 ครั้ง
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
เปิดอ่าน 12,823 ครั้ง
ดูแลตัวกันเยอะแล้ว มาดูแลเท้ากันบ้างดีกว่า!
ดูแลตัวกันเยอะแล้ว มาดูแลเท้ากันบ้างดีกว่า!
เปิดอ่าน 23,973 ครั้ง
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร
เปิดอ่าน 10,760 ครั้ง
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เปิดอ่าน 45,660 ครั้ง
โบราณคดีพระราชวังจันทร์ พิษณุโลก
โบราณคดีพระราชวังจันทร์ พิษณุโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ