ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรม

การเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ

พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้รายงาน นายอภิวัฒน์ จตุรพันธุ์สถาพร

พุทธศักราช 2563

บทคัดย่อ

การรายงานครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้

สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบ

การสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและ

โรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระ

การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระ

การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรม

การเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลจันทบุรี ๒ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 89 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี ๒ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและ

โรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) ชุดกิจกรรม

การเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3 ) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่า

ความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.84 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีประสิทธิผล

ผลการรายงานปรากฏ ดังนี้

1. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลจันทบุรี ๒ เท่ากับ 87.36/87.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ

พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.7218 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ เพราะมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.18

3. คะแนนประเมินผลหลังการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ

พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความแตกต่างกับคะแนนประเมินผลก่อนการใช้ชุดกิจกรรม

การเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นั่นคือ การจัดการเรียนการสอน เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีการนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ

พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มาประกอบการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในระดับพึงพอใจมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย 4.61 ทั้งนี้เพราะ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น

โพสต์โดย อภิวัฒน์ : [14 ส.ค. 2564 เวลา 08:24 น.]
อ่าน [66572] ไอพี : 223.204.229.133
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,276 ครั้ง
บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย (Father of Thai E-learning)
บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย (Father of Thai E-learning)

เปิดอ่าน 41,597 ครั้ง
ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2561
ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 20,746 ครั้ง
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน

เปิดอ่าน 18,090 ครั้ง
Multimidia คืออะไร?
Multimidia คืออะไร?

เปิดอ่าน 45,200 ครั้ง
การทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น
การทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น

เปิดอ่าน 13,864 ครั้ง
การศึกษาไทย 2.0
การศึกษาไทย 2.0

เปิดอ่าน 95,842 ครั้ง
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?

เปิดอ่าน 1,251 ครั้ง
การปรับปรุงอัตราค่าอาหารและค่าเช่าที่พักในการจัดฝึกอบรมภายในประเทศ (ว246) (ประกาศใช้วันที่ 31 ตุลาคม /2568)
การปรับปรุงอัตราค่าอาหารและค่าเช่าที่พักในการจัดฝึกอบรมภายในประเทศ (ว246) (ประกาศใช้วันที่ 31 ตุลาคม /2568)

เปิดอ่าน 21,501 ครั้ง
แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?
แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?

เปิดอ่าน 17,479 ครั้ง
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา

เปิดอ่าน 14,330 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา "นโยบายไปทาง..ปฏิบัติไปทาง..สุดท้ายปฏิวัติเสียของ"
ตูนส์ศึกษา "นโยบายไปทาง..ปฏิบัติไปทาง..สุดท้ายปฏิวัติเสียของ"

เปิดอ่าน 17,336 ครั้ง
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า

เปิดอ่าน 51,651 ครั้ง
จดหมายถึงครู.... โดย...ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
จดหมายถึงครู.... โดย...ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

เปิดอ่าน 12,711 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน

เปิดอ่าน 124 ครั้ง
มาตรฐานรูปแบบการนำเสนอภาพ
มาตรฐานรูปแบบการนำเสนอภาพ

เปิดอ่าน 33,887 ครั้ง
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้
เปิดอ่าน 12,624 ครั้ง
ความสวยยังเพิ่มได้ แล้วความสูงเพิ่มได้ไหม ?!
ความสวยยังเพิ่มได้ แล้วความสูงเพิ่มได้ไหม ?!
เปิดอ่าน 19,667 ครั้ง
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
เปิดอ่าน 13,075 ครั้ง
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 31,474 ครั้ง
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ