หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้ยึดหลักความมีเอกภาพด้านนโยบายและมีความหลากหลายในทางปฏิบัติ โดยจัดการศึกษามุ่งเน้นความสำคัญทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดหลักผู้เรียนเป็นสำคัญที่สุด ทุกคนมีความสามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็มศักยภาพ ให้ความสำคัญต่อความรู้เกี่ยวกับตนเอง และความสำคัญของตนเองกับสังคม ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน ชาติ และสังคมโลก รวมทั้งความรู้เกี่ยวประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของสังคมไทย และระบบการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ ชุด การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน ความรู้เกี่ยวกับศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม การกีฬา ภูมิปัญญาไทย และการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา ความรู้ ทักษะด้านคณิตศาสตร์ และด้านภาษาเน้นการใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง ความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพ การดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข (กระทรวงศึกษาธิการ. 2560 : 3)
โลกในยุคปัจจุบันเป็นยุคโลกาภิวัตน์ที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ มีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นที่แต่ละประเทศต้องเรียนรู้เพื่อที่จะปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายจากกระแสโลก โดยปัจจัยสำคัญที่จะสามารถเผชิญการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายดังกล่าว คือ คุณภาพของคน การศึกษา เป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพซึ่งหากมีคุณภาพแล้วย่อมส่งผลให้สังคมและประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้า การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนให้มีคุณภาพจึงเป็นชุดที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้มีความพยายามในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กไทยมาตลอด แต่จากผลการประเมินคุณภาพการศึกษาในแต่ละครั้งก็มักพบว่าคุณภาพของเด็กไทยยังด้อย
กว่านานาอารยประเทศ จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องพัฒนาเด็กไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น
ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ หรือคุณธรรมจริยธรรม (กระทรวงศึกษาธิการ, 2560 : 3)
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนาธรรม เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ประกอบด้วยหลายแขนงวิชา จึงมีลักษณะเป็นสหวิทยาการ โดยนำวิทยาการจากแขนงวิชาต่าง ๆ ในสาขาสังคมศาสตร์มาหลอมรวม เข้าด้วยกัน ได้แก่ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ จริยธรรม ประชากรศึกษา สิ่งแวดล้อมศึกษา รัฐศาสตร์ สังคมวิทยา ปรัชญาและศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จึงเป็นกลุ่มสาระที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมศักยภาพการเป็นพลเมืองดีให้แก่ผู้เรียนโดยมีเป้าหมายพัฒนาการความเป็นพลเมืองดี ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของทุกสาขาการเรียนรู้ ดังนั้นกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จึงมีความจำเป็นพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความงอกงามในด้านต่าง ๆ คือ ด้านความรู้ จะให้ความรู้ในสาระสังคมศาสตร์ได้แก่ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ จริยธรรม เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย ประชากรศึกษา สิ่งแวดล้อมศึกษา ปรัชญา และศาสนา ตามขอบเขตที่กำหนดให้ ในแต่ละระดับชั้น ในลักษณะบูรณาการ ด้านทักษะกระบวนการผู้เรียนจะได้รับการพัฒนาให้เกิดทักษะ และกระบวนการต่าง ๆ เช่น ทักษะทางวิชาการ ทักษะทางสังคม ทักษะการสืบสวนสอบสวน ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแสวงหาความรู้ เป็นต้น ด้านเจตคติและค่านิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จะช่วยพัฒนาเจตคติ และค่านิยมเกี่ยวกับประชาธิปไตย และความเป็นมนุษย์ เช่น รู้จักตนเอง พึ่งตนเอง ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย มีความกตัญญู รักเกียรติภูมิแห่งตน มีนิสัยการเป็นผู้ผลิตที่ดี (กระทรวงศึกษาธิการ. 2560 : 4) มีความพอดีในการบริโภค และเห็นคุณค่าการทำงาน รู้จักคิดวิเคราะห์ รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม เคารพสิทธิของคนอื่น และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วม มีความผูกพันกัน รักท้องถิ่น รักประเทศชาติ เห็นคุณค่าอนุรักษ์ และพัฒนาศิลปวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ศรัทธาในหลักธรรมทางศาสนา และระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จากการประเมินผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วัดมุจลินทวาปีวิหาร(เพชรานุกูลกิจ) ปีการศึกษา 2562 พบว่า ได้คะแนนร้อยละเฉลี่ย 62.27 ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ที่ร้อยละ 80 (โรงเรียนวัดมุจลินทวาปีวิหาร(เพชรานุกูลกิจ) , 2562 :14) จากประสบการณ์การสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผ่านมา ผู้รายงานได้ศึกษาสาเหตุของปัญหา ในการจัดการเรียนการสอนพบว่า สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม¬ เป็นสาระการเรียนรู้ที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต้องเรียนรู้เรื่องการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดีของชุมชน วัฒนธรรมท้องถิ่น การปกครองระบอบประชาธิปไตย และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย เนื้อหาสาระค่อนข้างมาก เข้าใจยาก จึงทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจและสาเหตุอีกประการ คือ จากตัวครูผู้สอน เนื่องจากครู ยังคงใช้วิธีการสอนแบบบรรยาย เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจจากในเนื้อหาวิชา ยึดตัวครูเป็นศูนย์กลาง ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น สอนโดยยึดแบบเรียนมากเกินไป ทำให้นักเรียนไม่เกิดแนวคิดใหม่ ๆ สื่อที่นำมาใช้ก็นำมาใช้อีก ซ้ำ ๆ กัน ทำให้นักเรียนเบื่อหน่าย ดังนั้นครูผู้สอน จะต้องแสวงหาวิธีการสอนที่จะช่วยให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานที่สําคัญสําหรับการศึกษาตลอดชีวิต การจัด การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ คือ การเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง และผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูจะต้องเปลี่ยนบทบาทจากครูผู้สอนมาเป็นผู้จัดการหรือ ผู้ที่มีหน้าที่จัดกิจกรรม ดังนั้นครูผู้สอนต้องพัฒนาการเรียนการสอน และต้องพัฒนาสื่อการเรียนการสอน โดยการใช้แนวการจัดกิจกรรมตามความสนใจของนักเรียน พัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนบรรลุจุดประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้เหมาะสมทำได้หลายลักษณะ ได้แก่ แบบฝึกหัด คู่มือครู คู่มือการเรียนรู้ หนังสือเสริมประสบการณ์ แบบเรียนสำเร็จรูป หรือบทเรียนโปรแกรม เป็นต้น (อภิสิทธิ์ ใจพร. 2556 : 3)
จากการศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับสื่อการเรียน พบว่าเอกสารประกอบการเรียน เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่ง ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน ที่ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ ที่เป็นรูปธรรมและมีความคิด รวบยอดมากขึ้น ช่วยสร้างบรรยากาศความเป็นกันเอง เป็นการเปิดกว้างต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจใคร่รู้มากขึ้น และทำให้การเรียนการสอน การถ่ายทอดเนื้อหา ความรู้ และประสบการณ์ สะดวก และง่ายยิ่งขึ้น เป็นสื่อการเรียน ที่ผู้เรียนสามารถศึกษา เรียนรู้ได้ด้วยตนเองโดยตรง ผู้เรียนเป็นผู้ทำกิจกรรมด้วยตนเอง ทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการลดบทบาทของครู ครูเป็นเพียงผู้เตรียมการสอน เป็นผู้แนะนำ และจัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่ง สอดคล้องกับงานวิจัยของ ลัคณา ทองศรี (2555 : บทคัดย่อ) ได้ทำการวิจัยการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน โดยใช้การแสดงประกอบละคร กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผลการวิจัยพบว่าเอกสารประกอบการเรียน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.11/85.14 และยังสอดคล้องกับแนวคิดของประคองศรี สายทอง (2554: 22) ให้ความหมายของเอกสารประกอบการเรียน หมายถึงสื่อการเรียนจัดขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนในวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งและมักประกอบด้วยคำนำ ในแต่ละหน่วยจะมีจุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กิจกรรมการเรียน สรุปท้ายหน่วย
ผู้รายงานในฐานะครูผู้สอน ได้ศึกษาหลักการและเหตุผลดังกล่าวแล้ว จึงตระหนักและเห็นความสำคัญของปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จึงได้จัดทำเอกสารประกอบการเรียนหน้าที่พลเมือง เพื่อนำมาใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม¬ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้ดียิ่งขึ้น ให้มีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สำหรับครูผู้สอน และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่อไป