ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
โครงงานสะเต็ม

แผนงาน กลยุทธ์ที่ ๒ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาตามหลักสูตร และยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน

ชื่อโครงการ STEM & SMT

ลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง

สนองกลยุทธศาสตร์ สพฐ. ยุทธศาสตร์ที่ ๒ (๑๑)

สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ ๑ , ๒ และ ๓

สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา สมศ. มาตรฐานที่ ๑ , ๓ และ ๕

ผู้รับผิดชอบโครงการ นางปัณณพร ขจรภพ, นางสาววรรณวิสา มะลิลา, นางวรกมล ชิ้นอ่อน,

นางสาวจารุวรรณ งามวงศ์, นายปัญญา จันทร์คุ้ม

ระยะเวลาดำเนินงาน ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕

๑. หลักการและเหตุผล

STEM Education (Science Technology Engineering and Mathematics Education : STEM Education) คือ แนวทางการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และสามารถบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง ไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงานควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑

SMT คือ โรงเรียนคุณภาพด้านด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (SMT) ตามมาตรฐาน สสวท. เป็นโครงการที่ต้องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีของโรงเรียนในระดับอำเภอทุกสังกัดให้สูงขึ้นทัดเทียมนานาชาติ สร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำทาง การศึกษาให้กับเยาวชน อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้มุ่งเน้นให้เยาวชนสามารถเข้าถึงโรงเรียน คุณภาพ ในระดับอำเภอและในระดับตำบลของแต่ละพื้นที่ เพื่อพัฒนา และสร้างกำลังคนของประเทศชาติให้มีทักษะการเรียนรู้ที่เหมาะสม กับศตวรรษที่ ๒๑ และสร้างประสบการณ์การทำงานเป็นทีม การคิด วิเคราะห์และการแก้ปัญหา เพื่อการทำงานอย่างมีคุณภาพ

โรงเรียนวัดระเบาะไผ่ จึงได้กำหนดโครงการ STEM & SMT ขึ้น เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในระดับชั้นเรียน นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนักเรียน ให้สามารถคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุมีผล และเป็นระบบมากขึ้น

๒. วัตถุประสงค์

๒.๑ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา (STEM Education) ของนักเรียน

๒.๒ เพื่อฝึกทักษะนักเรียนในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ คิดริเริ่ม คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างเป็นระบบ กระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนว STEM Education และส่งเสริมกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน เช่น ค่ายสะเต็มศึกษา ส่งเสริมการจัดประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ และสิ่งประดิษฐ์ระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และ ระดับชาติ

๒.๓ นักเรียนมีทักษะการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

๒.๔ มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และ computing science

๓. เป้าหมาย

๓.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ

๑) ร้อยละ ๗๕ ของนักเรียนทุกระดับชั้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น

๒) พัฒนาทักษะและประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบของ STEM Education

๓) จำนวนผลงาน/ชิ้นงานที่แสดงถึงทักษะการเรียนรู้และคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน

๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ

๑) นักเรียนมีการพัฒนาในด้านกระบวนการคิดแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์การสร้างสรรค์นวัตกรรม เป็นลำดับขั้นตอนและการบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ได้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแบบ STEM Education สามารถนำไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้

๒) ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีทุกคน มีความรู้ ความชำนาญ ใช้หนังสือ สื่อในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีตามแนวทางสะเต็มศึกษา และ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มสาระและผู้เชี่ยวชาญภายนอก

๓) ครูเลือกใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ICT) ในการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม

๔. วิธีดำเนินงาน / ขั้นตอนการทำงาน

กิจกรรมสำคัญ ระยะเวลา งบประมาณ

ผู้รับผิดชอบ

๑. สนับสนุนให้ครูใช้คู่มือการใช้หลักสูตร สื่อการเรียนรู้ และหนังสือที่พัฒนาโดย สสวท.

๒. สนับสนุนให้ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี จะได้รับการพัฒนาทั้งการอบรมโดยตรง การอบรมด้วยระบบทางไกล หรือการอบรมแบบออนไลน์ ตามหลักสูตรการอบรมของ สสวท.

๓. วางแผนการ ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมการเรียนรูดวยกระบวนการสะเต็มศึกษา “STEM Education”

๔. ครูจัดเตรียมแผนการสอนบูรณาการกิจกรรม STEM Education

๕. จัดกิจกรรมการเรียนรูดวยกระบวนการ สะเต็มศึกษา (STEM Education)ระดับ ชั้นปฐมวัย ภาคเรียนละ ๑ กิจกรรม ตลอดปีการศึกษา

ตลอดปีการศึกษา

สิงหาคม ๒๕๖๔

สิงหาคม ๒๕๖๔

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ ๘,๐๐๐

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

(ครูคณิตศาสตร์ , ครูวิทยาศาสตร์ และครูเทคโนโลยี)

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- คณะครูระดับชั้นปฐมวัย

กิจกรรมสำคัญ ระยะเวลา งบประมาณ

ผู้รับผิดชอบ

๖. จัดกิจกรรมการเรียนรูดวยกระบวนการ สะเต็มศึกษา (STEM Education) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ ภาคเรียนละ ๑ กิจกรรม

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

- คณะครูระดับชั้น ป.๑-๓

๗. จัดกิจกรรมการเรียนรูดวยกระบวนการ

สะเต็มศึกษา(STEM Education) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ ภาคเรียนละ ๑ กิจกรรม

๘. จัดกิจกรรมการเรียนรูดวยกระบวนการ สะเต็มศึกษา(STEM Education) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ ภาคเรียนละ ๑ กิจกรรม

๙. กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์

๙. ครูส่งแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ สะเต็มศึกษา ครั้งที่ ๑

๑๐. ครูส่งแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ สะเต็มศึกษา ครั้งที่ ๒

๑๑. จัดนิทรรศการแสดงผลงาน STEM ของนักเรียนในกิจกรรมวันเปิดโลกวิชาการ (OPEN HOUSE)

๑๒. ติดตามการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการสะเต็มศึกษา (๒ ครั้ง)

๑๓. รายงานผลและสรุปโครงการ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

๓๐ กันยายน ๒๕๖๔

๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

มีนาคม ๒๕๖๕

กันยายน ๒๕๖๔

กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ - คณะครูระดับชั้น ม.๑-๓

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางสาวจารุวรรณ /นางสาววรรณวิสา /นางวรกมล / นางปัณณพร/นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา คณะครูทุกระดับชั้น

- นางปัณณพร/นางสาววรรณวิสา

นางวรกมล /นางสาวจารุวรรณ /นายปัญญา

๕. งบประมาณ ๘,๐๐๐ บาท

๖. หน่วยงาน / ผู้เกี่ยวข้อง

๖.๑ ผู้บริหาร – คณะครู - นักเรียนโรงเรียนวัดระเบาะไผ่

๖.๒ วัดปทุมวนาวาส

๖.๓ คณะกรรมการสถานศึกษา – ผู้ปกครองนักเรียน

๗. ระดับความสำเร็จ

ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) วิธีการประเมิน เครื่องมือ

๑. ร้อยละของนักเรียนสามารถคิดแก้ปัญหาคิดวิเคราะห์เป็นลำดับขั้นตอน

๒.ร้อยละของนักเรียนสามารถบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรมและคณิตศาสตร์ ไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในชีวิต

๓. ครูเลือกใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ICT) ในการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม และนำวัสดุอุปกรณ์ สื่อการศึกษา STEM Education ไปใช้ในการจัดการเรียนกิจกรรมสะเต็มได้

การประเมิน

การสอบถาม

การสำรวจข้อมูล

แบบประเมิน

แบบสอบถาม

แบบสำรวจข้อมูล

๘. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

๘.๑ นักเรียนมีทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและสามารถนำความรู้ที่ได้มาบูรณาการในการแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันได้

๘.๒ นักเรียนมีทักษะการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

๘.๓ นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายสามารถค้นหาความรู้ใหม่ๆ ได้ด้วยเทคโนโลยี อย่างชาญฉลาด มีจำนวนผลงาน/ชิ้นงานที่แสดงถึงทักษะการเรียนรู้และคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน

๘.๔ ครูประเมินผลการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสภาพผู้เรียน และนำผลการประเมินมา ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ

ลงชื่อ.........................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ.........................................ผู้เสนอโครงการ

(นางปัณณพร ขจรภพ) (นางสาววรรณวิสา มะลิลา)

ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดระเบาะไผ่ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดระเบาะไผ่

ลงชื่อ.........................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ..........................................ผู้เสนอโครงการ

(นางวรกมล ชิ้นอ่อน) (นางสาวจารุวรรณ งามวงศ์)

ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดระเบาะไผ่ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดระเบาะไผ่

ลงชื่อ.........................................ผู้เสนอโครงการ

(นายปัญญา จันทร์คุ้ม)

ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดระเบาะไผ่

ลงชื่อ............................................ผู้อนุมัติโครงการ

(นางสาววารุณี พยายาม)

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดระเบาะไผ่

โพสต์โดย ออย : [7 ธ.ค. 2565 เวลา 17:27 น.]
อ่าน [2187] ไอพี : 223.204.233.24
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,554 ครั้ง
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"

เปิดอ่าน 31,117 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"

เปิดอ่าน 14,629 ครั้ง
ไม่อยากให้ลูกลำบาก!! เทคนิคง่ายๆ สอนเด็กให้เป็น "เศรษฐี"
ไม่อยากให้ลูกลำบาก!! เทคนิคง่ายๆ สอนเด็กให้เป็น "เศรษฐี"

เปิดอ่าน 16,077 ครั้ง
การพิจารณาค่าความจริง (Truth value)
การพิจารณาค่าความจริง (Truth value)

เปิดอ่าน 22,791 ครั้ง
วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด
วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด

เปิดอ่าน 11,644 ครั้ง
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 19,315 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร

เปิดอ่าน 21,317 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ

เปิดอ่าน 12,645 ครั้ง
คู่มือการใช้งานบัตรเครดิตราชการ
คู่มือการใช้งานบัตรเครดิตราชการ

เปิดอ่าน 21,294 ครั้ง
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค

เปิดอ่าน 25,525 ครั้ง
"การสอบบรรจุครูผู้ช่วย" จากสไลด์ประกอบการประชุมมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
"การสอบบรรจุครูผู้ช่วย" จากสไลด์ประกอบการประชุมมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 6,698 ครั้ง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง

เปิดอ่าน 71,298 ครั้ง
เคล็ดลับ13ประการในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับ13ประการในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 68,243 ครั้ง
เทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 16,498 ครั้ง
เว็บไซต์แสดงแผนที่ที่ถูกน้ำท่วมจากภาพถ่ายดาวเทียม
เว็บไซต์แสดงแผนที่ที่ถูกน้ำท่วมจากภาพถ่ายดาวเทียม

เปิดอ่าน 10,947 ครั้ง
จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?
จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?
เปิดอ่าน 18,257 ครั้ง
เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน
เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน
เปิดอ่าน 10,169 ครั้ง
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ
เปิดอ่าน 17,531 ครั้ง
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
เปิดอ่าน 860,557 ครั้ง
ประมวลศัพท์ คำพ้องรูป ในภาษาไทย ที่ควรรู้
ประมวลศัพท์ คำพ้องรูป ในภาษาไทย ที่ควรรู้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ