ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5

ชื่อวิจัย การพัฒนารูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5

ชื่อผู้วิจัย พเยาว์ พันธนิตย์

ปี การศึกษา 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้ งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนคิด โดยใช้หลักการเรี ยนรู้แบบร่ วมมือร่ วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา ความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 2)เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนคิด โดยใช้หลักการเรี ยนรู้แบบร่ วมมือร่ วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา ความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3)เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนการคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถในการปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 4) เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 ที่ เรียนด้วยรูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ ด้วยตนเอง ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 และ 5)เพื่อประเมินรูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้ แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้ งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5/2 ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2566 โรงเรี ยนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชจ านวน 1 ห้องเรียน รวมนักเรียน 36 คนที่ได้โดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็ นหน่วยสุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบ ร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีความต้องการใช้ รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อ พัฒนาความสามารถการเขียนเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5

2. การพัฒนารู ปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้ นใช้ชื่อเรี ยกว่า “IPCCAR Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ มี 6 ขั้นตอนได้แก่ 1)ขั้นน าสู่ความคิด (I : Introduction) 2)ขั้นดึง ความคิดเดิม (P : Pulling ideas) 3)ขั้นเพิ่มเติมความคิดใหม่ (C : Change in thinking) 4)ขั้นตรวจสอบ ความคิดใหม่ (C : Check the idea) 5)ขั้นพิชิตน าความคิดไปใช้ (A : Apply) 6)ขั้นสะท้อนความคิด (R : Review) ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ด้านคณิตศาสตร์ ผู้สอนกลุ่มสาระการ เรียนรู้คณิตศาสตร์ต้องการให้พัฒนารูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับ การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถ ในการแก้ปัญหา เรื่ องร้อยละ ชั้ น ประถมศึกษาปี ที่ 5 ผลการพัฒนารูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 ค่าประสิทธิภาพ E 1 / E2 แบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 78.00/76.66 ค่าประสิทธิภาพ E 1 / E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 79.11/79.72 และค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 จากการ ทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 81.60/83.00 ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็ นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ก าหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้าง องค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 โดยใช้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง นักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5/2 กลุ่มตัวอย่างจ านวน 36 คนได้ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.99/83.53 และผลสัมฤทธิ์ ทางการ เรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบ ร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการทดลอบความสามารถในแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ โดยใช้ใบงานเพื่อทดสอบวัด ความสามารถในแก้ปัญหา เรื่องร้อยละและใช้เกณฑ์ประเมินความสามารถในแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ผลปรากฏว่า นักเรียนมีความสามารถในแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ในภาพรวมอยู่ในระดับคุณภาพ ดีมาก

5. ผลการประเมินรูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้าง องค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนคิดโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่องร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ญาสุมินท์ สิริทัตนนท์ : [3 ก.ย. 2567 (12:50 น.)]
อ่าน [61165] ไอพี : 110.168.243.243
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 622 ครั้ง
ข้อดีของสินทรัพย์รอการขายคืออะไร พร้อมข้อควรระวังก่อนซื้อ
ข้อดีของสินทรัพย์รอการขายคืออะไร พร้อมข้อควรระวังก่อนซื้อ

เปิดอ่าน 19,447 ครั้ง
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA

เปิดอ่าน 14,292 ครั้ง
เจาะข่าวเด่น "ศัลยกรรมเถื่อน พริตตี้ช็อก"
เจาะข่าวเด่น "ศัลยกรรมเถื่อน พริตตี้ช็อก"

เปิดอ่าน 24,701 ครั้ง
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!

เปิดอ่าน 9,013 ครั้ง
สารอาหารแห่งอนาคต
สารอาหารแห่งอนาคต

เปิดอ่าน 13,754 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"

เปิดอ่าน 11,874 ครั้ง
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ

เปิดอ่าน 13,323 ครั้ง
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?

เปิดอ่าน 11,866 ครั้ง
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)

เปิดอ่าน 20,505 ครั้ง
สาวจีนวัย 27 ป่วยเป็นโรคแก่ก่อนวัย เหมือนคนอายุ 70
สาวจีนวัย 27 ป่วยเป็นโรคแก่ก่อนวัย เหมือนคนอายุ 70

เปิดอ่าน 15,174 ครั้ง
[Clip] เล็กๆ เปลี่ยนโลก : เคล็ดลับง่ายๆ บริหารสมองสองซีก จากการนับเลข 1-10
[Clip] เล็กๆ เปลี่ยนโลก : เคล็ดลับง่ายๆ บริหารสมองสองซีก จากการนับเลข 1-10

เปิดอ่าน 42,512 ครั้ง
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน

เปิดอ่าน 21,790 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 12,559 ครั้ง
สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป
สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป

เปิดอ่าน 9,455 ครั้ง
การปลูกกระเทียม
การปลูกกระเทียม

เปิดอ่าน 35,636 ครั้ง
"พริกขี้หนูเลย"กับ"พริกขี้หนูยอดสน"ทางเลือกใหม่ของการ ปลูกพริก
"พริกขี้หนูเลย"กับ"พริกขี้หนูยอดสน"ทางเลือกใหม่ของการ ปลูกพริก
เปิดอ่าน 15,529 ครั้ง
ผลการเลือกตั้ง 2554 อย่างไม่เป็นทางการ
ผลการเลือกตั้ง 2554 อย่างไม่เป็นทางการ
เปิดอ่าน 11,775 ครั้ง
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
เปิดอ่าน 23,448 ครั้ง
ว่านหางช้าง
ว่านหางช้าง
เปิดอ่าน 11,986 ครั้ง
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ