วิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ความต้องการ และแนวทางการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม 2) พัฒนารูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม 4) ประเมินรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม วิธีการดำเนินการวิจัย แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ความต้องการ และแนวทางการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 19 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนย่อย ดังนี้ ตอนที่ 2.1 การยกร่างรูปแบบ ตอนที่ 2.2 การตรวจสอบรูปแบบ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำหรับ การตรวจสอบร่างรูปแบบ จำนวน 9 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำหรับการตรวจสอบรูปแบบ จำนวน 50 คน และตอนที่ 2.3 การจัดทำและประเมินคู่มือการใช้รูปแบบ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 50 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 45 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง และตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนย่อย ดังนี้ ตอนที่ 4.1 การประเมินผลลัพธ์ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 45 คน ตอนที่ 4.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ตอนที่ 4.3 การประเมินความพึงพอใจ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 45 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสนทนากลุ่ม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แบบตรวจสอบ 4) แบบสอบถาม 5) แบบวัดผลลัพธ์ 6) แบบบันทึก 7) แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เนื้อหาและ ใช้สถิติ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (μ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ศึกษาสภาพปัจจุบัน ความต้องการ และแนวทางการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบว่า
1.1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน การบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียน โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบว่า การดำเนินการตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ครูไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลรายบุคคลที่ครบถ้วน 2) ด้านการคัดกรองนักเรียนไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง ครูประจำชั้นยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการคัดกรองนักเรียนตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยเฉพาะนักเรียนที่พิการซ้อนขาดเครื่องมือ และเกณฑ์ในการคัดกรองนักเรียน 3) ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน การกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพไม่สอดคล้องกับความสนใจและความสามารถเฉพาะบุคคลของนักเรียน ครูมีภาระงานนอกเหนือจากการสอนหนังสือทำให้การส่งเสริมพัฒนานักเรียนไม่สมบูรณ์ ไม่มีเวลาในการจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะชีวิตให้กับนักเรียน 4) ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา ครูประจำชั้นและครูหอนอนให้ความเอาใจใส่นักเรียนทุกคนเท่าเทียมกันและดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยปละละเลย ครูเวรประจำวัน ช่วยเฝ้าระวังนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และ 5) ด้านการส่งต่อ ผู้ปกครองบางรายไม่ให้ความร่วมมือในการพานักเรียนไปเข้ารับบริการภายนอก
1.2 ผลการศึกษาความต้องการการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียน โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของครู มีดังนี้ 1) การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มีความต้องการ ควรมีการจัดประชุมครูประจำชั้นเพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้รู้จักพฤติกรรมของผู้เรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ควรมีการกำหนดขั้นตอนการดำเนินงานการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างเป็นระบบ และควรมีฐานข้อมูลนักเรียนที่เป็นระบบดิจิทัล 2) การคัดกรองนักเรียนมีความต้องการ ดังนี้ ควรมีการคัดกรองนักเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีเครื่องมือหรือระบบคัดกรองที่เหมาะสมกับนักเรียนบกพร่องทางการได้ยิน 2) การจัดครูประจำชั้นควรจัดให้ครูประจำชั้นตามนักเรียนจบระดับช่วงชั้น เพื่อครูประจำชั้นจะได้รู้จักเรียนเรียนเป็นรายบุคคลอย่างแท้จริง 3) การส่งเสริมและพัฒนานักเรียนมีความต้องการ ดังนี้ ควรเน้นย้ำให้ครูผู้สอนนำข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคลที่ผ่านการคัดกรองไปจัดกิจกรรมทั้งด้านการส่งเสริมและพัฒนาให้เหมาะสมตรงกับความถนัด ความสนใจ ความสามารถและศักยภาพของนักเรียน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่มให้มีมาตรฐาน เป็นระบบ มีความยั่งยืน ต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาต่อยอด ควรมีเครือข่ายการดำเนินงาน เพื่อบูรณาการการทำงาน การส่งเสริมและพัฒนานักเรียนที่หลากหลาย ควรส่งเสริมทักษะชีวิต (Life Skills) ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน การพัฒนาทักษะทางสังคมและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และการพัฒนาทักษะอาชีพและความพร้อมในอนาคต (Career & Transition Planning) ให้กับนักเรียน 4) ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา มีความต้องการ ดังนี้ ครูทุกคนควรช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่อง ดูแล ให้นักเรียนมีความปลอดภัย ได้รับการดูแล ช่วยเหลือ อย่างรวดเร็ว เป็นระบบโดยเฉพาะผู้เรียนที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์อย่างใกล้ชิด และแก้ไขปัญหาร่วมกับผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง และ 5) การส่งต่อ มีความต้องการ ดังนี้ ควรสร้างความตระหนักให้กับผู้ปกครองให้เห็นความสำคัญในการพานักเรียนไปเข้ารับบริการภายนอก เช่น ไปพบจิตแพทย์ ควรมีสร้างระบบการส่งต่อ ขั้นตอน วิธีการดำเนินงาน ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาที่ชัดเจน ควรมีการติดตามผลภายหลังการส่งต่ออย่างเป็นระบบ และต้องการแบบฟอร์มที่ง่ายต่อการใช้งานมีข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน และสามารถติดตามผลการส่งต่อได้
1.3 ผลการศึกษาแนวทางการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียน โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบแนวทางการการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้วงจรคุณภาพเดมมิ่ง (PDCA) ทุกขั้นตอน ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มี 12 แนวทาง 2) การคัดกรองนักเรียน มี 6 แนวทาง 3) การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน มี 7 แนวทาง 4) การป้องกันและแก้ไขปัญหา มี 10 แนวทาง และ 5) การส่งต่อ มี 9 แนวทาง
2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบว่า (1) รูปแบบมี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 3 ระบบและกลไกของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 4 กระบวนการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และองค์ประกอบที่ 5 ผลลัพธ์ของรูปแบบ (2) ผลการตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบว่า ในภาพรวมผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นว่ามีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (3) ผลการประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐมในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบว่า ครูสามารถปฏิบัติตามรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบว่า (1) ผลการประเมินผลลัพธ์ของรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัด ในภาพรวม มีคุณภาพของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.78, σ = 0.13) (2) ผลการเปรียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม พบว่า ปีการศึกษา 2567 ในภาพรวมมีค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2566 ดังนี้ 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ในภาพรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2) ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียน ระดับดีเยี่ยมในภาพรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3) ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับดีเยี่ยมในภาพรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4) ผลการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน ระดับดีเยี่ยมในภาพรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น (3) ผลความสำเร็จของการดำเนินงานการพัฒนารูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม ในปีการศึกษา 2567 พบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการคัดกรองทุกคน 2) นักเรียนกลุ่มปกติได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันและ การส่งเสริมพัฒนา 3) นักเรียนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มมีปัญหาได้รับการป้องกันและแก้ไขปัญหา พบจำนวนนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มมีปัญหาลดลง 4) จำนวนนักเรียนที่รับบริการให้คำปรึกษาของโรงเรียนลดลง 5) นักเรียนที่ได้รับการส่งต่อภายนอกลดลง (4) ครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียน โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐมอยู่ในระดับมากที่สุด