ความเป็นมาและความสำคัญของนวัตกรรม / วิธีปฏิบัติที่เปิดเลิศ (Best Practices)
ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่ถือกำเนิดมายาวนาน ทำให้ประวัติศาสตร์ถือได้ว่าเป็นแขนงวิชาที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับอดีตซึ่งแม้จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ประวัติศาสตร์ก็มีบทบาทต่างๆ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับอดีตนั้นย่อมมีประโยชน์ต่อการเข้าใจสังคมมนุษย์ในปัจจุบันเป็นอันมาก กล่าวคือการกระทำของมนุษย์ในปัจจุบัน ย่อมมีพื้นฐานมาจากอดีต อดีตจึงเป็นบทเรียนที่ในการกระทำของสังคมในปัจจุบัน และยังเป็นแนวโน้มที่จะนำไปสู่พฤติกรรมในอนาคต (ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, 2540: 17) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-พ.ศ. 2579 ได้กล่าวว่า การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างคน สร้างสังคม และสร้างชาติ เป็นกลไกหลักในการพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพสามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสังคมได้อย่างเป็นสุข ในกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกศตวรรษที่ 21 เนื่องจากการศึกษามีบทบาทสำคัญ ในการสร้างความได้เปรียบของประเทศ เพื่อการแข่งขันและยืนหยัดในเวทีโลกภายใต้ระบบเศรษฐกิจและสังคม ที่เป็นพลวัตประเทศต่างๆ ทั่วโลก (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา,2560: 23)
จากความสำคัญของประวัติศาสตร์และการศึกษาดังกล่าว จึงทำให้มีการนำวิชาประวัติศาสตร์เข้ามาในระบบการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ได้กำหนดให้รายวิชาประวัติศาสตร์เป็นสาระหนึ่งในกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยมาตรฐาน ส 4.1 ป.5/2 ได้กำหนดให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิตชุมชนของตนจากอดีตถึงปัจจุบัน จะทำให้สามารถอธิบายผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่มีต่อการดำเนินชีวิตของคนในชุมชน(กระทรวงศึกษาธิการ,2545: 113) ดังนั้น การจัดการเรียนการสอนในรายวิชาประวัติศาสตร์จึงมีความจำเป็นในระบบการศึกษา เพราะจะทำให้นักเรียนเรียนรู้วิถีชีวิตการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมปัจจุบันได้
จากความสำคัญของรายวิชาประวัติศาสตร์การเปลี่ยนไปของโลกในศตวรรษที่ 21 จึงเป็นแนวคิดสะท้อนกลับสู่มุมมองในการเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และมีความสำคัญแตกต่างกัน จึงอยากให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญของชุมชน และได้มีความรู้ในการสืบค้นข้อมูลภายในชุมน แต่เนื่องจากแหล่งเรียนรู้ของชุมชนยังไม่มี ประกอบกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ยังไม่สามารถหาแหล่งเรียนรู้ข้อมูลชุมชนได้ด้วยตนเอง จึงได้มีการนำนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์นครชัยศรี โดยใช้หนังสือภาพโดยมีการเรียงลำดับเป็น timeline เพื่อให้นักเรียนได้ลำดับเหตุการณ์ได้อย่างถูกต้อง
ในการศึกษาเพื่อสืบค้นข้อมูลในรายวิชาประวัติศาสตร์มีกระบวนการหนึ่งที่ใช้เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เรียกกระบวนการนั้นว่า วิธีการทางประวิศาสตร์ กรมวิชาการ (2546: 63) จากการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องพบว่า วิธีการทางประวัติศาสตร์ สุคนธ์ สินธพานนท์ (2550: 172) กล่าวว่า วิธีการทางประวัติศาสตร์หมายถึง ขั้นตอนหรือกระบวนการในการแสดงหาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่นักประวัติศาสตร์หรือผู้ฝึกฝนทางประวัติศาสตร์ ใช้เพื่อศึกษาค้นคว้าและเรียบเรียงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทางประวัติศาสตร์จึงพบว่ามีความสอดคล้องในการนำมาศึกษาข้อมูลร่วมกันกับหนังสือภาพ Timeline เนื่องจากวิธีการทางประวัติศาสตร์เป็นการนำข้อมูลมาจัดทำเป็นขั้นตอนเพื่อให้เกิดความรู้ความใจในเรื่องที่ต้องการศึกษามากขึ้น
ดังนั้น เพื่อให้นักเรียนมีคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ข้าพเจ้าจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) เรื่องประวัติศาสตร์นครชัยศรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้หนังสือภาพ time line ร่วมกับวิธีการทางประวัติศาสตร์
กระบวนการผลิตงาน / ขั้นตอนการดำเนินการ
ได้นำวงจรแนวคิดการบริหารงานคุณภาพ PDCA มาใช้เป็นกรอบในการในการดำเนินการและพัฒนานวัตกรรมและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ซึ่งประกอบด้วย Plan (วางแผน)กำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และวางแผนการดำเนินงาน โดยระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไขและวิธีการแก้ปัญหา Do (ปฏิบัติ)ลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ Check (ตรวจสอบ)ตรวจสอบผลลัพธ์ของการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ เปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และวิเคราะห์ผลลัพธ์ Act (ปรับปรุง)ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามผลการตรวจสอบ โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนแผน หรือกำหนดเป็นมาตรฐานใหม่ เพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ขั้นที่ 1 การวางแผน (Plan)
1. สังเกตสภาพปัญหาของการจัดการเรียนการสอนรายวิชาประวัติศาสตร์ เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการใช้นวัตกรรม โดยมีการเลือกนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 20 คน
2. วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 ฉบับปรับปรุง 2560
3. ออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ โดยมีการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ ตามมาตรฐาน ส4.1 ป.5/2 สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้หลักฐานที่หลากหลาย ร่วมกับวิธีการทางประวัติศาสตร์
3. จัดทำหนังสือภาพ Timeline วิถีชีวิตริมแม่น้ำนครชัยศรี โดยเริ่มจากการศึกษาแหล่งข้อมูลและรวบรวมข้อมูลจากหลายๆแหล่ง จากนั้นนำไปจัดทำในโปรแกรม Canva จัดทำเป็นหนังสือเรียบร้อยสมบูรณ์เป็นรูปเล่ม และนำหนังสือทำเป็น E-book เพื่อนำไปเผยแพร่เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ได้ต่อไป
ขั้นที่ 2 การปฏิบัติ (Do)
นำนวัตกรรมวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practice)การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) เรื่องประวัติศาสตร์นครชัยศรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้หนังสือภาพ Timeline ร่วมกับวิธีการทางประวัติศาสตร์มาปฏิบัติโดยผ่านกระบวนการดังนี้
ขั้นที่ 3 การตรวจสอบ (Check)
- มีการประชุม PLC ร่วมกันกับคณะครูภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม และคณะครูภายในโรงเรียนเกี่ยวกับผลการใช้นวัตกรรมพร้อมสรุปผลหลังจากการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
คณะครูร่วมกันประชุมเรื่องรายงานผลนวัตกรรม/วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practices)
ขั้นที่ 4 การปรับปรุง (Act)
- สรุปผลการนำนวัตกรรมมาใช้ในการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) เรื่องประวัติศาสตร์นครชัยศรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้หนังสือภาพ Timeline ร่วมกับวิธีการทางประวัติศาสตร์
- วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ร่วมกันกับคณะครู เพื่อนำข้อมูลไปวางแผน พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในปีการศึกษาถัดไป
ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้หนังสือภาพ timeline ร่วมกับวิธีการทางประวัติศาสตร์ ผ่านร้อยละ 70
4.2 ผู้เรียนมีทักษะในการนำวิธีการทางประวัติศาสตร์มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
4.3 ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ตระหนักถึงความเป็นมาและความสำคัญของประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของตนเอง