ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล)
ผู้วิจัย นายมนตรี นามคีรี
ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) สังกัดสำนักการศึกษาเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
ปีวิจัย ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) 2) พัฒนารูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) และ 4) ประเมินรูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) ก่อนนำออกเผยแพร่เป็นผลงานวิชาการต่อไป ประชากร/กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ บุคลากรของโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) จำนวน 80 คน คณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน จำนวน 15 คน ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผู้บริหารโรงเรียน (ระดับเชี่ยวชาญ) จำนวน 7 คน คณะกรรมการประเมินมาตรฐานการศึกษาเมืองพัทยา จำนวน 17 คนและกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 511 คน ได้จากตารางกำหนดขนาดตัวอย่างมีความเชื่อมั่น 95 % ของ Krejcie & Morgan เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามสภาพการบริหารงานวิชาการ มีค่าความเชื่อมั่น .97 แบบประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้องของรูปแบบการบริหาร มีค่าดัชนีความสอดคล้อง .97 แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการบริหาร มีค่าความเชื่อมั่น .96 แบบประเมินมาตรฐานการศึกษา แบบประเมินความสามารถในการบริหารงานวิชาการ มีค่าความเชื่อมั่น .94 แบบประเมินประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการ มีค่าความเชื่อมั่น .93 แบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าความเชื่อมั่น .91 และแบบสอบถามเพื่อการประเมินรูปแบบการบริหาร มีค่าความเชื่อมั่น .97 วิเคราะห์ข้อมูลด้วย การหาค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC = Index of Item Objective Congruence) และการบรรยาย
สรุปผลการวิจัย
1. สภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) พบว่า โดยรวมมีสภาพ การบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับปานกลาง โดยทุกด้านของสภาพการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับ ปานกลาง สูงสุดคือ ด้านการบริหารการประกันคุณภาพการศึกษา รองลงมาคือ ด้านการบริหารการจัด การเรียนรู้ ต่อมาคือ ด้านการบริหารการนิเทศการศึกษา ด้านการบริหารหลักสูตร และด้านการบริหารการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ตามลำดับ โดยทุกข้อของสภาพการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2.77 3.01
2. รูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ที่ส่งผลต่อ การประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) ที่สร้างขึ้นมีชื่อว่า 2P2SAQ Model มีองค์ประกอบ 6 ด้าน คือ ด้านวิชาการ (Academic : A) ด้านการบริหารการนิเทศภายใน (Supervision Management : S) ด้านการบริหารอย่างมีส่วนร่วม (Participation Management : P) ด้านการประกันคุณภาพ (Quality Assurance: Q) ด้านการประเมินผล (Performance : P) และด้านความพอใจ (Satisfaction : S) ผลการประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้องของรูปแบบการบริหาร โดยผู้เชี่ยวชาญ มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ .97 ผลการประเมินรูปแบบการบริหาร โดยผู้บริหารโรงเรียน (ระดับเชี่ยวชาญ) พบว่า ทั้งรูปแบบและองค์ประกอบ มีความเหมาะสมนำไปปฏิบัติได้ อยู่ในระดับมากที่สุด และทุกด้านมีความเหมาะสมนำไปปฏิบัติได้อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ รูปแบบการบริหารฯ รองลงมาคือ ด้านการประกันคุณภาพ ต่อมาคือ ด้านการบริหารการนิเทศภายใน ด้านการประเมินผล ด้านความพอใจ ด้านการบริหารอย่างมีส่วนร่วม และด้านวิชาการ ตามลำดับ และทุกข้อมีความเหมาะสมนำไปปฏิบัติได้ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.67 5.00
3. การทดลองใช้รูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) มีดังนี้
3.1 การประเมินมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) โดยคณะกรรมการประเมินของเมืองพัทยา พบว่า โดยรวมมาตรฐานการศึกษาในปีการศึกษา 2566 อยู่ในระดับดีเลิศสูงกว่า ปีการศึกษา 2565 (อยู่ในระดับดี) โดยทุกมาตรฐานการศึกษาปีการศึกษา 2566 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.00 1.49
3.2 ความสามารถในการบริหารงานวิชาการ พบว่า โดยรวมครูผู้สอนมีความสามารถในการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา รองลงมาคือ ด้านการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ลำดับต่อมาคือ ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร ด้านการนิเทศการศึกษา กับด้านการสร้างความพอใจ และด้านการจัดการเรียนรู้ ตามลำดับ และทุกข้อครูผู้สอนมีความสามารถในการบริหารวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย อยู่ระหว่าง 4.65 4.91
3.3 ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการ พบว่า โดยรวมประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ ด้านการนิเทศอย่างมีส่วนร่วม กับด้านการประกันคุณภาพภายใน รองลงมาคือด้านความพึงพอใจ ต่อมาคือ ด้านการบริหารวิชาการ และด้านการวัดผลและประเมินผล ตามลำดับ และทุกข้อมีประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.67 4.93
4. การประเมินรูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) ก่อนนำออกเผยแพร่เป็นผลงานวิชาการ มีดังนี้
4.1 ความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียน พบว่า ผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจต่อ การบริหารโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ ด้านการบริหาร รองลงมาคือ ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ต่อมาคือ ด้านวิชาการ ตามลำดับ และทุกข้อผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.62 4.87
4.2 การประเมินรูปแบบการบริหาร พบว่า มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด และทุกด้านมีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ ด้านวิชาการ กับด้านการประเมินผล รองลงมาคือ ด้านการบริหารการนิเทศภายใน (กับด้านการบริหารอย่างมีส่วนร่วม ต่อมาคือ ด้านการประกันคุณภาพ และ ด้านความพอใจ ตามลำดับ และทุกข้อของรูปแบบการบริหารการนิเทศภายในอย่างมีส่วนร่วมฯ มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.72 4.95