ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

พฤติกรรมที่อดขำไม่ได้ 5 อันดับแรก มีอะไรกันบ้าง?Top 5


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,261 ครั้ง
พฤติกรรมที่อดขำไม่ได้ 5 อันดับแรก มีอะไรกันบ้าง?Top 5

Advertisement

22 พฤษภาคม 2552

“พฤติกรรม Top 5”…เสียงจากผู้อ่านถึงคนที่บ้าน

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       หลังจากที่ทีมงานLife and Family ได้เขียนบทความ 10 นิสัยแย่ๆที่ทำให้รักกันน้อยลง"ซึ่งผู้อ่านหลายท่านได้เสนอหลายข้อนอกเหนือจากที่กล่าวมา
       
       ทั้งนี้ทางทีมงานได้รวบรวม 5 พฤติกรรมยอดฮิตจากคนทางบ้านมาให้คุณผู้อ่านหรือคนที่ถูกกล่าวอ้างมาพิจารณาตัวเองกันอีกครั้ง เพื่อที่ว่าปริมาณความรักจะไม่ลดน้อยลงไปมากกว่านี้
       
       เราลองมาดูกันว่า พฤติกรรมที่อดขำไม่ได้ 5 อันดับแรก มีอะไรกันบ้าง
       
       1. “ผายลม” หรือ ตดในภาษาพูดนั้น ในหนึ่งวันคนเราอาจผายลมได้ 10-20 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นปริมาณแก๊สที่ปล่อยออกมาคือ 0.5-1 ลิตรต่อวัน
       
       การผายลมนั้นเกิดจากการรวมตัวของแก๊สหลายชนิด โดย 99 % เป็นแก๊สที่ไม่มีกลิ่น ซึ่งมีส่วนประกอบหลักๆได้แก่ ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน ออกซิเจนและมีเทน ขณะที่แก๊สจำพวกที่มีกลิ่นนั้นมีเพียง 1 % อันเกิดจากการหมักหมมของอาหารในลำไส้ใหญ่และทำให้เกิดแก๊สจำพวกกำมะถัน ได้แก่ไฮโดรเจนซัลไฟด์ซึ่งเป็นสารที่มีกลิ่นเฉพาะตัว
       
       แต่ทว่ามีเสียงบ่นจากผู้อ่านว่า คนทางบ้านบางคนมักชอบผายลมในผ้าห่มบ้าง ผายลมอัดหน้าบ้าง ใส่พัดลมบ้าง รวมไปถึงกำกลิ่นมาให้ศรีภรรยาดมบ้าง สารพัดที่คุณผู้ชายจะทำล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ใครๆรู้ก็ได้เสียงเฮยกใหญ่กันเลยทีเดียว

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       ดังนั้นคุณผู้ชายท่านใดที่เข้าข่ายพฤติกรรมยอดฮิตแซงโค้งประเภทอื่นๆ ควรระมัดระวังมากขึ้นกว่านี้ แม้การผายลมจะเป็นเรื่องธรรมชาติก็ตาม
       
       2. “เรอ” อันดับสองที่ตามกันมาติดๆ คือการขับแก๊สออกทางปาก หากไม่มีการขับออกมาทั้งทางปากและทางทวารหนัก อาจก่อให้เกิดอาการท้องอืดได้ แต่ทว่าคุณแม่บ้านต้องดมกลิ่นเรอหลายๆรูปแบบ และฟังเสียงเรอสารพัดเวอร์ชันแล้ว นานๆไปความรักก็ไม่สามารถอดทนนานต่อไปได้อีก
       
       หากคุณผู้ชายไม่อยากถูกบอกเลิกเพราะ “เรอ” ไม่เป็นที่เป็นทาง ก็พึงระวังพฤติกรรมนี้ด้วยนะคะ
       
       3. “นอนกรน” อันดับสามนี้ พบบ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งในช่วงรักกันใหม่อาจไม่ทราบพฤติกรรมนี้มาก่อน จนกระทั่งถึงวันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน นอนเตียงเดียวกัน ความจริงจึงปรากฏ
       
       แต่ทว่าอาการนอนกรนนี้ สามารถแก้ไข้ได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
       
       
  • นอนตะแคง
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาบางชนิด
           
  • ลดน้ำหนัก
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
           

  •        
           จะช่วยลดและผ่อนคลายความดันในช่องทางเดินอากาศที่เกิดจากการมีน้ำหนักมากเกินไปได้ แต่ถ้าไม่ชินกับการนอนตะแคง อาจใช้หมอนข้างเพื่อช่วยให้ไม่พลิกตัวไปนอนหงายได้
           
           
           เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ และยาแก้แพ้ต่าง ๆ เป็นตัวทำให้การหายใจช้าลง และตื้นขึ้น กล้ามเนื้อหย่อนคลายลงมากกว่าปกติ จึงมีแนวโน้มได้มากว่าโครงสร้างลำคอจะอุดตันช่องทางเดินอากาศได้ง่าย เป็นสาเหตุให้เกิดอาการนอนกรน
           
           
           
           ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับเกิดขึ้นบ่อยครั้งที่สุดสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากผิดปกติ ทำให้การหายใจเป็นไปได้อย่างยากลำบาก การลดน้ำหนักสามารถช่วยได้ แต่หมายถึงลดให้ใกล้เคียงกับน้ำหนักตามสัดส่วน
           
           
           การออกกำลังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยที่สุด ทั้งยังช่วยปรับสภาพกล้ามเนื้อ และทำให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น

    ภาพจากอินเทอร์เน็ต
           4. “กินแล้วนอน” คุณผู้ชายทั้งหลายโปรดทราบ อย่าประมาทโดยเด็ดขาดว่า มีครอบครัวแล้วจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างไรก็ได้ เพราะการกินแล้วนอนจนปล่อยให้อ้วนเป็นพะโล้นั้น ทำให้คุณผู้หญิงหลายคนรู้สึกขัดหูขัดตามาแล้วไม่น้อย
           
           แต่นอกเหนือจากรูปร่างที่ความอ้วนจะบังความหล่อไปจนหมดแล้ว การปล่อยให้อ้วนลงพุงนั้นอาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่โรคต่างๆได้มากมายเช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไขข้อกระดูกเสื่อม โรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง และนกเขาไม่ขันอีกด้วย
           
           5. “แคะขี้มูก” พฤติกรรมรั้งท้ายที่ต่อให้รักกันแค่ไหน หากแคะออกมาดูแล้วทิ้งเรี่ยราด ภาพที่ผู้คนพบเห็นก็ดูไม่ดี และไม่สะอาดเท่าที่ควร
           
           ปัจจุบันพฤติกรรมนี้แทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาและสามารถพบเห็นได้ตามที่สาธารณะไปเสียแล้ว ขณะที่สมัยก่อนนั้นอาจมีการแคะขี้มูกตามสถานที่ลับตาคน หรือใช้มือป้องเพื่อความสุภาพ
           
           ทั้งนี้ผลเสียของการแคะขี้มูกนั้นคือ มันจะนำพาเชื้อโรคเข้าไปสู่โพรงจมูก ทำให้เกิดโรคโพรงจมูกอักเสบได้ เพราะนิ้วของเราไปจับไปถูกกับเชื้อโรคชนิดไหนมาบ้างหรือไม่นั้น เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
           
           อย่างไรก็ดี หากเราไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปอารมณ์เสีย เดี๋ยวจะพลอยให้รักน้อยกันเข้าไปใหญ่ ขณะที่คุณๆทางบ้านที่เข้าข่ายพฤติกรรมเหล่านี้ก็ควรตระหนักไว้เสมอว่า ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องแสดงพฤติกรรมน่าอับอายเหล่านี้มาเป็นส่วนหนึ่งในการหยอกล้อคนในบ้าน เพราะคงไม่มีใครมีความสุขที่ได้กลิ่นแก๊สจากร่างกายคุณแน่นอน
           
           ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก www.doctorsan.com

    โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 23 พ.ค. 2552


    พฤติกรรมที่อดขำไม่ได้ 5 อันดับแรก มีอะไรกันบ้าง?Top 5พฤติกรรมที่อดขำไม่ได้5อันดับแรกมีอะไรกันบ้าง?Top5

    Advertisement

    ≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

    ฟังเพลงรัก..เพราะๆจ้ะ!

    ฟังเพลงรัก..เพราะๆจ้ะ!


    เปิดอ่าน 6,261 ครั้ง
    ใช้...อย่างขี้ข้า

    ใช้...อย่างขี้ข้า


    เปิดอ่าน 6,256 ครั้ง
    เวลาที่ดีสำหรับการอ่าน

    เวลาที่ดีสำหรับการอ่าน


    เปิดอ่าน 6,258 ครั้ง
    ..ศิลปะในการแปล

    ..ศิลปะในการแปล


    เปิดอ่าน 6,250 ครั้ง
    เห็ด...อาหารต้านโรค

    เห็ด...อาหารต้านโรค


    เปิดอ่าน 6,269 ครั้ง
    กินแล้วอ่อนเยาว์

    กินแล้วอ่อนเยาว์


    เปิดอ่าน 6,258 ครั้ง
    เศรษฐกิจแบบพอเพียง

    เศรษฐกิจแบบพอเพียง


    เปิดอ่าน 6,250 ครั้ง
    เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

    เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ


    เปิดอ่าน 6,257 ครั้ง

    :: เรื่องปักหมุด ::

    บทกลอนรางวัลยอดเยี่ยมจากUN***

    บทกลอนรางวัลยอดเยี่ยมจากUN***

    เปิดอ่าน 6,257 ☕ คลิกอ่านเลย

    Advertisement

    ≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
    ไอเดียแต่งบ้านสีขาวใกล้ชิดธรรมชาติ
    ไอเดียแต่งบ้านสีขาวใกล้ชิดธรรมชาติ
    เปิดอ่าน 6,253 ☕ คลิกอ่านเลย

    เป็น คศ. ไหน ไม่สำคัญ
    เป็น คศ. ไหน ไม่สำคัญ
    เปิดอ่าน 6,255 ☕ คลิกอ่านเลย

    ยังจำได้ไหม?เธอผู้จากไป  สาวสวยน่ารัก..เก๋บุญพิทักษ์  จิตกระจ่าง...
    ยังจำได้ไหม?เธอผู้จากไป สาวสวยน่ารัก..เก๋บุญพิทักษ์ จิตกระจ่าง...
    เปิดอ่าน 6,281 ☕ คลิกอ่านเลย

    วันนี้วันพระ..เลิก ลด ละ..กิเลส...
    วันนี้วันพระ..เลิก ลด ละ..กิเลส...
    เปิดอ่าน 6,246 ☕ คลิกอ่านเลย

    ดูอย่างไรใครเป็นอินเตอร์เน็ตลิสซึ่ม
    ดูอย่างไรใครเป็นอินเตอร์เน็ตลิสซึ่ม
    เปิดอ่าน 6,255 ☕ คลิกอ่านเลย

    ไอศกรีมรสใดที่คุณโปรด......>>>>
    ไอศกรีมรสใดที่คุณโปรด......>>>>
    เปิดอ่าน 6,249 ☕ คลิกอ่านเลย

    ≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

    การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ
    การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ
    เปิดอ่าน 15,366 ครั้ง

    ประชาธิปไตย คืออะไร
    ประชาธิปไตย คืออะไร
    เปิดอ่าน 84,523 ครั้ง

    ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก
    ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก
    เปิดอ่าน 7,579 ครั้ง

    ยาตีกันอันตราย
    ยาตีกันอันตราย
    เปิดอ่าน 12,498 ครั้ง

    10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ
    10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ
    เปิดอ่าน 24,061 ครั้ง

    เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
    สนามเด็กเล่น

    แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

     
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 096-7158383

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ