ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

บทคัดย่อโครงงานภาษาไทนของนักเรียนที่ได้รับรางวัล


เรื่องราวจากสมาชิก

8,307

views
Advertisement

บทคัดย่อโครงงานภาษาไทนของนักเรียนที่ได้รับรางวัล

 

บทที่  1

บทนำ

 

ที่มาและความสำคัญของปัญหา

 

ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ  และเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย   ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างมีคุณธรรม   ทำให้สามารถประกอบธุรกิจ การงาน  และการดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยอย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้และประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความรู้  ความคิด  วิเคราะห์  วิจารณ์  และสร้างสรรค์ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม  และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ   ภาษาไทยยังเป็นสื่อที่แสดงภูมิปัญญาบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม  ประเพณี  ชีวทัศน์   โลกทัศน์  และสุนทรียภาพ  โดยบันทึกเป็นวรรณกรรมและวรรณคดีอันล้ำค่า  ภาษาไทยจึงเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของชาติที่ควรค่าแก่การเรียนรู้  เพื่ออนุรักษ์และสืบสานให้อยู่คู่ชาติไทยสืบไป

ในการเรียนรู้วิชาภาษาไทย  นอกจากการจะได้เรียนรู้และฝึกทักษะการฟัง  พูด  อ่าน    เขียน  แล้ว   นักเรียนต้องเรียนรู้และฝึกที่จะเป็นผู้ที่มีความสามารถทางการคิดร่วมด้วย    เนื่องจากในปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการสื่อสารมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว   ฉะนั้นในการรับสารต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็นความรู้  ความบันเทิง  ผู้รับสารต้องรู้จักนำกระบวนการคิดวิเคราะห์   การคิดอย่างมีวิจารณญาณ  มาใช้ในการติดสิน  ประเมินค่า  และวินิจฉัยความจริง หรือความเท็จและอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นเหตุและผล  

และในการดำเนินงานศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง  ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน ตามที่ได้รับมอบหมายจากครูผู้สอนรายวิชาภาษาไทยพื้นฐานระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นั้น  กลุ่มผู้จัดทำมีความเห็นตรงกันว่าน่าจะได้จัดทำโครงงานที่ได้ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์เป็นหลักในการจัดทำและดำเนินการศึกษาค้นคว้า    ส่วนเนื้อหาที่จะนาใช้เป็นแก่นของการคิดนั้น  น่าจะเป็นเรื่องราวที่

ไม่ล้าสมัย   อยู่ในความสนใจของบุคคลทั่วไป  ตลอดจนเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน  ดังนั้นจึงได้ลงความเห็นร่วมกันว่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เป็นเรื่องราวที่ไม่ล้าสมัย  และเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปตลอดเวลา  ทั้งนี้เพราะพระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ  และสิ่งที่จะเสนอจะต้องเกี่ยวข้องกับภาษาไทยด้วยเช่นกัน   ตลอดจนเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของภาษาไทย   กลุ่มผู้จัดทำโครงงานจึงสรุปว่าน่าจะได้จัดทำโครงงานเรื่อง  

ความงามในภาษาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์  ขึ้น    ด้วยเหตุผลและความสำคัญตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น    และหวังว่าผลที่ได้จากการดำเนินโครงงานนี้จะเป็นความรู้ใหม่ที่ได้จากกระบวนการคิดวิเคราะห์ของผู้จัดทำโครงงาน  อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านภาษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เป็นที่แพร่หลายต่อไป

 

วัตถุประสงค์ของการจัดทำโครงงาน

 เพื่อวิเคราะห์คุณค่าด้านความงามทางภาษาที่ปรากฏในบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

 

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า

1.       ขอบเขตด้านเวลา

การดำเนินโครงงานเรื่อง ความงามในภาษาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์นี้   ใช้

ระยะเวลาในการดำเนินงานระหว่างเดือนสิงหาคม  ถึง  เดือนกันยายน 2551

2.       ขอบเขตด้านเนื้อหา

     การดำเนินโครงงานเรื่อง ความงามในภาษาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์   กำหนด

เนื้อหาของการดำเนินงาน คือ  บทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าเอยู่หัวภูมิพล

อดุลยเดช   จำนวน   15    เพลง

3.       ขอบเขตด้านสถานที่

สถานที่ที่ใช้ในการดำเนินการจัดทำโครงงาน  คือ  โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ  

ตำบลท่าอิฐ  อำเภอเมือง  จังหวัดอุตรดิตถ์

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1.       โครงงาน  เรื่อง ความงามในภาษาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์  เป็นต้นแบบของ

การศึกษาแนวทางการวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดีไทย

2.       ผลที่ได้จากการดำเนินโครงงาน เรื่อง ความงามในภาษาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ 

เป็นองค์ความรู้ใหม่ที่สามารถนำไปใช้ประกอบการเรียนรู้ได้

 

 

นิยามศัพท์เฉพาะ

                1. ความงามในภาษา  หมายถึง   ศิลปะในการประพันธ์   การใช้ถ้อยคำ  สำนวน  โวหารที่มีความไพเราะ  ลึกซึ้ง กินใจ   ก่อให้เกิดจินตนาการ หรือกระทบความรู้สึกของผู้อ่านหรือผู้ฟัง

                2. บทเพลงพระราชนิพนธ์  หมายถึง  บทเพลงที่จัดว่าเป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น  และเป็นเพลงที่ได้รับความนิยม ตลอดจนผู้ฟังส่วนใหญ่ได้รับฟังอย่างสม่ำเสมอ และเป็นที่คุ้นเคยสำหรับผู้ฟังเพลงทั่วไป  จำนวน  15   เพลง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทที่ 2

การศึกษาเอกสารตำราที่เกี่ยวข้อง

 

                ในการดำเนินงานจัดทำโครงงาน เรื่อง  ความงามในภาษาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์นี้   กลุ่มผู้จัดทำโครงงานได้กำหนดหัวข้อในการศึกษาค้นคว้าเอกสารและตำราที่เกี่ยวข้อง  ตามลำดับดังนี้

1.       ศิลปะการประพันธ์

2.       พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

3.       พระอัจริยภาพทางด้านต่าง ๆ  ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

4.       เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

 

1. ศิลปะการประพันธ์

   1.1  ศิลปะการประพันธ์

                 ศิลปะในการสร้างสรรค์วรรณคดีให้มีความงาม ความไพเราะ แลมีความหมายเป็นที่

จับใจผู้อ่านนั้นเรียกว่า วรรณศิลป์ เมื่อจะแต่งวรรณศิลป์สักเรื่องหนึ่ง กวีมิได้เพียงแต่คิดเนื้อหาขึ้นมาเท่านั้น แต่จะต้องคิดกลวิธีการประพันธ์ให้ผลงานนั้นออกมาอย่างเหมาะเจาะเพื่อสื่อทั้งความหมายและความไพเราะงดงามด้วย กลวิธีการประพันธ์ที่สำคัญที่จะกล่าวถึง คือ การเล่นเสียง การเล่นคำ และการใช้ภาพพจน์

                1.การเล่นเสียง

                   การเล่นเสียง คือ  การสรรคำให้มีเสียงสัมผัสเป็นพิเศษกว่าปกติเพื่อให้เกิดทำนองเสียงที่ไพเราะน่าฟัง และเพื่ออวดฝีมือของกวี มีทั้งการเล่นเสียงพยัญชนะ เล่นเสียงสระและเล่นเสียงวรรณยุกต์ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

                              จิบจับเจาเจ่าเจ้า                           รังมา

                  จอกจาบจั่นจรรจา                                   จ่าจ้า

                   เค้าค้อยค่อยคอยหา                                 เห็นโทษ

                   ซอนซ่อนซ้อนสริ้วหน้า                          นิ่งเร้าเอาขวัญ

                                                                                   (โครงอักษรสามหมู่ ของ พระศรีมโหสถ)

 

           1.1 การเล่นเสียงพยัญชนะ คือ การใช้สัมผัสพยัญชนะ หลายพยางค์ติด ๆ กัน  คำประพันธ์ร้อยกรอง โดยทั่วไปไม่บังคับสัมผัสพยัญชนะ แต่กวีก็นิยมใช้เสียงสัมผัสพยัญชนะเพื่อให้มีความไพเราะ ปกติมักจะเป็นเสียงสัมผัส  2- 3 เสียง เช่น ปัญญาตรองตริล้ำลึกหลาย(โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) มีเสียงสัมผัสพยัญชนะคือ ตรอง-ตริ , ล้ำ-ลึก-หลาย แต่ในโคลงอักษรสามหมู่ที่ยกมาข้างต้นมีสัมผัสพยัญชนะดังนี้

                  บาทแรกใช้เสียงพยัญชนะ /จ/ ติดกัน ๕ เสียง คือ จิบ-จับ-เจา-เจ่า-เจ้า

                  บาทที่ ๒ ใช้เสียงพยัญชนะ /จ/ ติดกันถึง ๗ เสียง คือ จอก-จาบ-จั่น-จรร-จา-จ่า-จ้า

                  บาทที่ ๓ ใช้เสียงพยัญชนะ /ค/ ติดกัน ๔ เสียง คือ เค้า-ค้อย-ค่อย-คอย

                  และบาทที่ ๔ ใช้เสียงพยัญชนะ /ซ/ ติดกัน ๔ เสียง คือ ซอน-ซ่อน-ซ้อน-สริ้ว  

                  (อ่านว่า ซิ่ว)

                  การใช้เสียงสัมผัสลักษณะนี้เรียกว่า การเล่นพยัญชนะ

               1.2 การเล่นเสียงสระ คือ การใช้สัมผัสสระ หลายพยางค์ติด ๆ กัน โคลงบทนี้มีสัมผัสสระเป็นสัมผัสนอก   ตามข้อบังคับฉันทลักษณ์ของโคลงสี่สุภาพ อยู่แล้ว แต่กวีได้เพิ่มสัมผัสสระในวรรคอีก โดยนำคำที่เล่นเสียงดยัญชนะมาใช้เสียงสัมผัสสระซ้ำ ๆ กันอีก ได้แก่  เจา-เจ่า-เจ้า(เสียงสระเอา) จั่น-จรร (เสียงสระอา)  คอย-ค่อย-ค้อย( เสียงสระออ แม่เกย) ซอน-ซ่อน-ซ้อน(เสียงสระออ แม่กน)

               การใช้เสียงสัมผัสลักษณะนี้เรียกว่า การเล่นเสียงสระ

              1.3 การเล่นเสียงวรรณยุกต์  คือ การใช้คำที่ไล่ระดับเสียง ๒ หรือ ๓ ระดับเป็นชุด ๆ ไป ตัวอย่างจากโครงบทนี้ ได้แก่ เจา-เจ่า-เจ้า(เสียงสามัญ-เอก-โท)จั่น-จรร(เสียงเอก-สามัญ) จา-จ่า-จ้า (เสียงสามัญ-เอก-โท)ค้อย-ค่อย-คอย (เสียงตรี-โท-สามัญ)ซอน-ซ่อน-ซ้อน(เสียงสามัญ-โท-ตรี)

               การเล่นเสียงทั้ง ๓ ลักษณะนี้ทำได้ยาก แม้จะมุ่งเน้นเรื่องการใช้คำที่ทำให้เกิดเสียงไพเราะเป็นสำคัญ แต่ก็ต้องคำนำถึงความหมายของบทประพันธ์ด้วย ในโคลงบทข้างต้นนี้กวีบรรยายภาพนกกระจิบซึ่งเกาะจับเจ่าจนกระทั้งนกตัวที่เป็นเจ้าของรังกลับมา ส่วนนกกระจอกและนกกระจาบส่งเสียงร้องเหมือนเจรจากัน นกเค้าที่เฝ้าคอยอยู่นั้นหน้าตาไม่น่าดู ทำหน้านิ่วและซ่อนหน้า แม้จะอยู่นิ่ง ๆ ก็ยังน่ากลัว

              ตัวอย่างบทประพันธ์ที่กวีแสดงฝีมือโดยประสานศิลปะในการเล่นเสียงเข้ากับการสื่อความหมายได้อย่างดียิ่ง ได้แก่ กาพย์และโคลงบทต่อไปนี้

                                        ดูหนูสู่รูงู                                    งูสุดสู้หนูสู้งู

                              หนูงูสู้ดูอยู่                                           รูปงูทู่หนูมูทู

                                        ดูงูขู่ฝูดฝู้                                     พรูพรู

                              หนูสู่รูงูงู                                               สุดสู้

                              งูสู้หนูหนูสู้                                           งูอยู่

                              หนูรู้งูรู้                                                  รูปถู้มูทู

                                                (กาพย์ห่อโคลงประพานธารทองแดง พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร) 

            2 .การเล่นคำ

                  การเล่นคำ คือ การสรรคำมาเรียงร้อยในคำประพันธ์ โดยพลิกแพลงให้เกิดความหมายพิเศษและแปลกออกไปจากที่ใช้กันอยู่ เพื่ออวดฝีมือของกวีเช่นเดียวกับการเล่นเสียง  ที่จะกล่าวถึงในที่นี้คือการเล่นคำพ้อง การเล่นคำซ้ำ และการเล่นคำเชิงถาม

             2.1  การเล่นคำพ้อง คือ  การนำคำพ้องมาใช้คู่กันให้เกิดความหมายที่สัมพันธ์กันเช่น

                                   เบญจวรรณจับวัลย์มาลี           เหมือนวันเจ้าวอนที่ให้ตามกวาง 

         (บทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช)

             เมื่อทศกัณฐ์ลักนางสีดาไป พระรามออกตามหานาง ขณะที่เดินทางกลางป่าพระรามเห็นนกเบญจวรรณ (นกแก้วชนิดหนึ่ง)เกาะอยู่ที่เถาวัลย์ ทำให้นึกถึงวันที่นางสีดาทูลอ้อนวอนให้พระองค์ออกไปตามกวางทอง กวีเล่นคำที่มีเสียง วัน ๓ คำ คือ (เบญจ)วรรณ-วัลย์-วันโดยนำมาใช้ให้มีความหมายสัมพันธ์กันได้อย่างกลมกลืน

             การเล่นคำพ้องเป็นกลวิธีการประพันธ์ที่กวีไทยนิยมมาก บางครั้งนอกจากใช้คำพ้องเสียง ดังตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมีคำพ้องรูป ด้วย เช่น

                        เห็นรอหักเหมือนหนึ่งรักที่รอรา         แต่รอท่ารั้งทุกข์มาตามทาง

                                                                                             (นิราศพระบาท ของ สุนทรภู่)

            รอคำแรกหมายถึง หลักปักกันกระแสน้ำ ส่วน รอ ในคำว่า รอรา หมายถึงหยุด และในคำว่า รอท่า หมายถึง คอย

            2.2 การเล่นคำซ้ำ  คือ  การนำคำคำเดียวมาใช้ซ้ำ ๆ ในที่ใกล้ ๆ กัน เพื่อย้ำความหมายของข้อความให้หนักแน่นมากขึ้น ดังตัวอย่างในบทคร่ำครวญของพระนางมัทรีเมื่อตามหาสองกุมาร

ไม่พบ

        แต่แม่เที่ยวเซซังเสาะแสวงทุกแห่งห้องหิมเวศ ทั่วประเทศทุกราวป่า สุดนัยนาที่แม่จะตามไปเล็งแล สุดโสกแล้วที่แม่จะซับทราบฟังสำเนียง สุดสุรเสียงที่แม่จะร่ำเรียกพิไรร้อง สุดฝีเท้าที่แม่จะเยื้องย่องยกย่างลงเหยียบดัน ก็สุดสิ้นสุดปัญญาสุดหาสุดค้นเห็นสุดคิด

                                               (มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี สำนวนของเจ้าพระยาพระคลัง(หน))

กวีเล่นคำว่า สุดซ้ำ ๆ กัน เพื่อสื่อว่าพระนางมัทรีได้พยายามตามหาสองกุมารอย่างเต็มความสามารถแล้วก็ยังไม่พบ เพราะทั้งสองลับสายตาไปแล้ว (สุดนัยนา)  ไม่ได้ยินเสียงแล้ว (สุดโสต) พระนางมัทรีได้พร่ำเรียกพระโอรสพระธิดาจนสิ้นเสียง (สุดสุรเสียง)และได้ตามหาจนหมดกำลังเดินไม่ไหวแล้ว (สุดฝีเท้า) บทรำพันนี้จบลงด้วยการซ้ำคำว่าสุดสิ้นสุดปัญญาสุดค้นเห็น

สุดคิด เป็นการบอกกล่าวความทอดอาลัยความสิ้นหวังอย่างยิ่งยวดของแม่ผู้ต้องพรากจากลูก

2.3 การเล่นคำเชิงถาม  คือ  การเรียงถ้อยคำให้เป็นประโยคเชิงถาม แต่เจตนาที่แท้จริง

ไม่ได้ถาม เพราะไม่ต้องการคำตอบ แต่ต้องการเน้นให้ข้อความมีน้ำหนักดึงดูดความสนใจและ

ให้ผู้ฟังคิดตาม บางท่านเรียกกลวีธีการประพันธ์นี้ว่า การใช้ประโยคคำถามเชิงวาทศิลป์ เพราะเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันในการพูดต่อประชุมชน เมื่อผู้พูดต้องการสร้างอารมณ์แก่ผู้ฟังให้เกิดผลตามเจตนารมณ์ ในวรรณคดีไทย กวีนิยมใช้กลวิธีนี้กันมากตัวอย่างเช่น

                           เปลก็ไกวดาบก็แกว่งแข็งหรือไม่       ไม่อวดหยิ่งหญิงไทยมิใช่ชั่ว

                          ไหนไถถากกรากกรำไหนทำครัว        ใช่รู้จักแต่จะยั่วผัวเมื่อไร

                                (นารีเรืองนาม พระนิพนธ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์)

           การใช้คำเชิงถามว่า แข็งหรือไม่ ใช่...เมื่อไรเป็นการเล่นคำที่เป็นคำถามเพื่อยั่วให้ผู้อ่านสะดุดคิดว่า ที่จริงนั้นผู้หญิงไทยแข็งแกร่งและมีความสามารถมากกว่าการใช้เสน่ห์ผูกมัดใจสามีอย่างที่มักจะเข้าใจกัน

           ในนิราศภูเขาทอง สุนทรภู่รำพันถึงความไม่ยั่งยืนของสรรพสิ่งเมื่อได้เห็นเจดีย์ที่อยู่ในสภาพปรักหักพัง

        ………………………             …………………………

            โอ้เจดีย์ที่สร้างยังร้างรัก                                      เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น

             กระนี้หรือชื่อเสียงเกียรติยศ                               จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น

             เป็นผู้ดีมีมากแล้วยากเย็น                                   คิดก็เป็นอนิจจังเสียทั้งนั้น

                                                                                         (นิราศภูเขาทอง ของ สุนทรภู่)

                 การใช้คำเชิงถามว่า กระนี้หรือ เป็นการกระตุ้นให้ผู้ผังฉุกคิดว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


บทคัดย่อโครงงานภาษาไทนของนักเรียนที่ได้รับรางวัล

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ภาษาคน-ภาษาธรรม

ภาษาคน-ภาษาธรรม


เปิดอ่าน 8,303 ครั้ง
เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ


เปิดอ่าน 8,290 ครั้ง
ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์...

ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์...


เปิดอ่าน 8,357 ครั้ง
ทำไมคนเราถึงฝัน...?

ทำไมคนเราถึงฝัน...?


เปิดอ่าน 8,293 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ผู้นำ....ผู้ตาม....

ผู้นำ....ผู้ตาม....

เปิดอ่าน 8,290 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
เปิดอ่าน 8,289 ☕ คลิกอ่านเลย

เรื่องย่อ(นวนิยาย..ฉบับย่อ)..เสาร์ห้า..ตอนที 1 -5 เทิด ยอดธง-ยอด นางพญา
เรื่องย่อ(นวนิยาย..ฉบับย่อ)..เสาร์ห้า..ตอนที 1 -5 เทิด ยอดธง-ยอด นางพญา
เปิดอ่าน 8,291 ☕ คลิกอ่านเลย

อิจฉา
อิจฉา
เปิดอ่าน 8,293 ☕ คลิกอ่านเลย

แอบดูความรักของ Ultraman จาก MV เพลง "Because of You"
แอบดูความรักของ Ultraman จาก MV เพลง "Because of You"
เปิดอ่าน 8,298 ☕ คลิกอ่านเลย

ความอดทน...
ความอดทน...
เปิดอ่าน 8,292 ☕ คลิกอ่านเลย

ผีร้าย 6 ตัว
ผีร้าย 6 ตัว
เปิดอ่าน 8,330 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ภาคบังคับ ประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาที่ 3
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ภาคบังคับ ประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาที่ 3
เปิดอ่าน 10,749 ครั้ง

ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง
ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง
เปิดอ่าน 17,061 ครั้ง

พิสูจน์พบ "น้ำแข็งแห้ง" เป็นหิมะตกบนดาวอังคาร
พิสูจน์พบ "น้ำแข็งแห้ง" เป็นหิมะตกบนดาวอังคาร
เปิดอ่าน 21,708 ครั้ง

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น
เปิดอ่าน 14,107 ครั้ง

10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
เปิดอ่าน 19,537 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ