ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ปีใหม่กับนิทาน


เรื่องราวจากสมาชิก

8,294

views
Advertisement

ปีใหม่กับนิทาน

นิทานปีใหม่

สวัสดีปีใหม่ค่ะท่านผู้อ่านแรงบุญแรงกรรมทุกท่าน ที่ผู้เขียนขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญก้าวหน้า มีสุขภาพกายใจที่สมบูรณ์ พร้อมที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีความหมายตลอดปีใหม่นี้ค่ะ

ช่วงปีใหม่นี้ เรามักจะได้ยินการพูดถึงสัญลักษณ์ของปีใหม่และปีเก่าที่ผ่านไป อย่างเช่น ปีระกา ปีจอ ฯลฯ นั่นก็เป็นชื่อเรียกตามปีนักษัตร คำว่า “นักษัตร” มาจากภาษาสันสกฤตว่า “นกฺษตฺร” ออกเสียง นัก-สัด-ตระ ตรงกับคำบาลีว่า “นกฺขตฺต" ออกเสียงว่า นัก-ขัด-ตะ

คำว่า “นักษัตร” อาจหมายถึงกลุ่มดาวฤกษ์ก็ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า “นักขัตฤกษ์” ซึ่งก็คืองานรื่นเริงตามธรรมเนียมตามฤดูกาล

ส่วนอีกความหมายหนึ่งคือ ชื่อรอบเวลา กำหนดให้ 12 ปี เป็น 1 รอบ เรียกว่า 12 นักษัตร โดยกำหนดให้มีสัตว์ต่าง ๆ เป็นเครื่องหมายในปีนั้น ๆ ซึ่งเป็นการขนานนามมาจากกลุ่มดาวประจำที่หรือดาวนักษัตรในท้องฟ้าที่มองเห็นตามจุดกลุ่มดาวเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น หนู วัว เสือ ฯลฯ

สำหรับคนไทยเรานั้น จะเริ่มต้นปีนักษัตรใหม่ก็ต่อเมื่อถึงวันปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์ ส่วนของคนจีนนั้นก็จะเริ่มต้นปีนักษัตรใหม่ในวันขึ้นปีใหม่จีนหรือวันตรุษจีนนั่นเอง แต่เรามักเข้าใจว่าพอเปลี่ยนศักราชใหม่แล้ว ปีนักษัตรต้องเปลี่ยนตามด้วยทันที อันนั้นเป็นการยึดหลักตามปฏิทินสากล

เมื่อมาดูว่าคนไทยใช้สัตว์ช่วยนับปีมานานแค่ไหน ก็ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่มีจารึกในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 ด้านที่ 3 และด้านที่ 4 เกี่ยวกับปีมะโรง ปีกุน และปีมะแม ซึ่งทำให้พอสรุปได้ว่า ไทยเราได้ใช้ปีนักษัตรมาไม่น้อยกว่า 700 ปีแล้ว

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงให้ความเห็นในการนำเอารูปสัตว์มาเป็นสัญลักษณ์แทนชื่อปีว่าน่าจะเพื่อให้สะดวกและจดจำได้ง่าย เพราะถ้าใช้ตัวอักษรอ่านและเขียน พอพ้นประเทศที่ใช้ไปก็จะไม่มีใครเข้าใจ

ประเทศที่ใช้สิบสองนักษัตรนี้ไม่ได้มีแต่เพียงไทยเราเท่านั้น ยังมีประเทศอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเอเชียด้วยกัน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เขมร ลาว เวียดนาม ฯลฯ ซึ่งตรงกันทั้งการลำดับปีก่อนหลัง ความหมายหรือสัตว์ประจำปี เพียงแต่เรียกหรือออกเสียงแตกต่างกันบ้าง เช่น มะโรงของจีนคือมังกร ปีเถาะของญี่ปุ่นคือแมว ปีกุน ของชาวล้านนาคือช้าง (มาจากปีกุญคือกุญชร) ฯลฯ

และแน่นอนที่สุด เรื่องราวใหญ่ ๆ อย่างสิบสองนักษัตรจะไม่มีตำนานหรือเรื่องให้เล่าขานความเป็นมาก็ใช่ที่ ผู้เขียนได้ลองดูข้อมูลเกี่ยวกับตำนานหรือนิทานสิบสองนักษัตรแล้วเห็นว่า มีแตกต่างกันหลายเวอร์ชั่นทีเดียว บางเรื่องก็ใกล้เคียงและคล้ายกันมาก ต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อยก็มี ผู้เขียนจึงขอหยิบยกนิทานสิบสองนักษัตรมาเล่าสู่กันฟังสักสองเรื่อง

เรื่องที่หนึ่งนั้นเป็นเรื่องเล่าสั้น ๆ ว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพาน บรรดามนุษย์และสัตว์ต่างก็รีบร้อนมาเฝ้าพระบรมศพ มีสัตว์มากมายที่จะไปเฝ้าและพยายามวิ่งไปถึงพระบรมศพให้เร็วที่สุด วัวนั้นเป็นตัวแรกที่วิ่งออกหน้าไปก่อน แต่หนูซึ่งตัวเล็กกระจิดริดได้กระโดดอาศัยเกาะหลังวัวไปด้วย พอไปถึงที่ หนูก็กระโจนลงจากหลังวัวข้ามหัววัวไป ทำให้หนูไปถึงสถานที่นั้นก่อน และเพื่อเป็นเกียรติประวัติ จึงได้ยกย่องให้เอาชื่อของหนูเป็นชื่อแรกของปี ชื่อของวัวเป็นชื่อที่สองของปี จากนั้น ก็เป็นชื่อของสัตว์ที่มาตามลำดับ จนมาถึงหมูเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งถือเป็นปีสุดท้ายในรอบนักษัตร

เรื่องที่สองนั้นเป็นนิทานจีน ก็เล่ากันมาว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว โลกนี้ยังไม่มีวิธีนับวัน นับเดือน นับปี คนในโลกยังไม่มีใครรู้วันเดือนปี ไม่รู้จักอายุกัน ตอนนั้นเง็กเซียนฮ่องเต้เจ้าแห่งสวรรค์มีดำริว่า ชีวิตคนเกี่ยวข้องผูกพันกับสัตว์มากมาย หากจะใช้ชื่อสัตว์มาเป็นชื่อนับปีก็จะง่ายแก่การจดจำ

ท่านจึงคิดจะทำการคัดเลือกประเภทของสัตว์เพื่อมาตั้งชื่อปีอย่างยุติธรรม จึงได้มีประกาศให้ทราบว่าจะมีการแข่งขันว่ายน้ำเพื่อคัดเลือกสัตว์แต่ละชนิดมาเป็นชื่อของปี จำนวน 12 ชื่อ โดยจะตั้งชื่อตามลำดับ

สัตว์ต่าง ๆ ก็พากันตระเตรียมตนเองอย่างเต็มที่ ตอนนั้นหนูยังเป็นเพื่อนกับแมวอยู่ พอหนูรู้ว่าแมวจะไปแข่งขันด้วยก็วางแผนหลอกแมว บอกว่าวันรุ่งขึ้นที่จะมีการแข่งขันสัตว์โลกนั้น พี่แมวไม่ต้องห่วง พี่แมวนอนรออยู่ที่บ้านเถอะ หนูจะมาปลุกเอง แล้วเราจะเดินทางไปด้วยกัน เข้ารอบพร้อมกัน

แมวก็ชะล่าใจคิดว่าหนูเป็นเพื่อนที่ดีเห็นแมวชอบนอนหลับ กลัวจะไปแข่งขันไม่ทันเลยจะมาปลุก ไม่ได้รู้เลยว่าถูกหนูหักหลังซะแล้ว พอวันรุ่งขึ้นที่เป็นวันแข่งขัน หนูไม่มาปลุก แมวก็เลยไม่ได้ไปเข้าร่วมแข่งขันด้วย เพราะเอาแต่นอนเพลิน

หนูหลอกแมวแล้ว ก็รอจนฟ้าสางไม่ยอมนอน พอถึงวันแข่งขันซึ่งเง็กเซียนนฮ่องเต้ให้สัญญาณ หนูก็รีบออกวิ่งทันที แต่มาจนแต้มเมื่อมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ เพราะมันว่ายน้ำไม่เก่ง น้ำไหลเชี่ยวด้วย ไม่รู้จะทำยังไง เห็นวัวมาถึงก็ไปบอกวัวว่าให้ช่วยพาข้ามน้ำไปด้วยเถอะ ถ้าถึงเส้นชัยแล้วจะสละตำแหน่งให้วัว

วัวสงสารหนู ก็เลยให้หนูขี่หัวข้ามแม่น้ำไปด้วยกัน ครั้นพอไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง หนูก็ลงจากหัววัววิ่งพรวดพราดถึงเส้นชัยก่อนวัว เง็กเซียนฮ่องเต้จำต้องตัดสินให้หนูเป็นผู้ชนะเพราะมันมาถึงก่อนตามกติกา ปีแรกนี้จึงเป็นปีหนูเรียกว่าปีชวด วัวมาถึงเป็นอันดับที่สอง เราจึงเรียกปีที่สองซึ่งเป็นปีวัวว่าปีฉลู

ส่วนเสือนี่แม้จะได้เปรียบสัตว์อื่นเพราะเป็นพญาแห่งสัตว์ป่า มีกำลังแข็งแรง ฝีเท้าดี แต่วิ่งมาถึงเป็นลำดับที่สามเพราะมัวแต่รังแกข่มเหงและจับสัตว์เล็ก ๆ กินตามทางเรื่อยมา เราเรียกปีเสือว่าปีขาล

ส่วนกระต่ายแม้จะกระโดดได้คล่องแคล่วว่องไว แต่ที่มาช้าเพราะกลัวเสือจะจับกิน ก็เลยต้องหลบไปหลบมาอยู่หลังเสืออย่างระมัดระวัง จึงมาถึงเป็นอันดับที่สี่ เราเรียกปีกระต่ายว่าปีเถาะ

มังกรหรืองูใหญ่เป็นสัตว์ที่เก่งสุด เผ่นโผนโจนทะยานในเมฆหมอก ว่ายน้ำก็เก่ง เง็กเซียนฮ่องเต้เห็นมันได้เปรียบสัตว์อื่น เกรงไม่ยุติธรรม จึงมีคำสั่งให้มังกรหรืองูใหญ่ไปทำหน้าที่โปรยฝนที่มณฑลเจียงตงก่อน แล้วจึงมาแข่งขัน จึงทำให้มังกรมาถึงล่าช้าเล็กน้อยได้เป็นอันดับที่ห้า เราเรียกปีงูใหญ่ว่าปีมะโรง

งูเล็กนั้น แรก ๆ ก็ว่าจะไม่กระโดดเข้าสนามแข่งหรอก แต่ถูกเย้ยหยันจากลิงว่าต่อให้เลื้อยจนสันหลังหัก ก็สู้ใครไม่ได้หรอก รอให้มีขางอกก่อนแล้วค่อยไปแข่งดีกว่า งูเล็กเมื่อได้ฟังดังนั้นก็เกิดความฮึกเหิมเลื้อยอย่างรวดเร็วจนนำหน้าลิงไป เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่หก เราเรียกปีงูเล็กว่าปีมะเส็ง

ส่วนม้าแม้เป็นสัตว์ที่วิ่งเร็ว แต่ใจร้อน หลับหูหลับตาวิ่งจนหลงทาง กว่าจะเข้ามาตามเส้นทางที่เขากำหนดก็เสียเวลาไปมาก จึงมาถึงเป็นอันดับที่เจ็ด เราเรียกปีม้าว่าปีมะเมีย

แพะนี้เข้าแข่งขันอย่างซื่อสัตย์จริงจัง ก้มหน้าก้มตาวิ่งเพื่อฝึกฝนความอดทนของตนเอง ไม่ได้คิดแข่งขันกับใครเพื่อเอาชื่อเสียง เวลาวิ่งไปก็ยิ้มไป เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่แปด เราเรียกปีแพะว่าปีมะแม

แต่เจ้าลิงที่มัวแต่เยาะเย้ยงูและเล่นซุกซน หยอกล้อ รังแกผู้อื่น วิ่งขวางทางบ้าง มัวแต่ทำเล่นจนกระทั่งกวางดาวตัวหนึ่งรำคาญเจ้าลิงเจ๊าะแจ๊ะนี้มาก ถึงกับยอมออกจากสนามแข่งขันไป แต่ลิงนี่ขนาดมันซุกซนเที่ยวยุ่งเรื่องชาวบ้านเขามันยังเข้ามาติดอันดับที่เก้า เราเรียกปีลิงว่าปีวอก

เจ้าไก่เป็นสัตว์ปีกก็เข้าแข่งขันกับเขาด้วย มันบินก็ไม่เก่ง ว่ายน้ำก็ไม่ค่อยได้ พอมาถึงแม่น้ำ มันก็อาศัยเกาะขอนไม้ท่อนหนึ่งลอยเคลื่อนตามผู้อื่นไป เรียกว่ายังมีความฉลาดเฉลียวอยู่พอสมควร กระนั้นก็มาถึงเส้นชัยเป็นอันดับที่สิบ เราเรียกปีไก่ว่าปีระกา

ส่วนหมานั้นชอบเล่นสนุกสนาน ตอนวิ่งมาก็ทำเวลาได้ดี แต่พอมาเห็นน้ำก็มัวเพลินมุดน้ำเล่นไปมา มารู้ตัวอีกทีก็เห็นคู่แข่งเขาวิ่งไปไกลแล้ว มันมาถึงเส้นชัยเป็นอันดับที่สิบเอ็ด เราเรียกปีหมาว่าปีจอ

เมื่อมาถึงหมู หมูเอาแต่กินกับนอนไม่สนใจการแข่งขัน จนเที่ยงแล้วมันยังนอนไม่ลุก พอได้ยินเสียงเขาแข่งขันกันก็ยังทำท่าขี้เกียจ ครั้นพอได้ยินเสียงดังมาก ๆ คล้ายกับกำลังแย่งอาหารกัน เห็นสัตว์วิ่งไล่กันไป เพราะความอยากกินนี่ล่ะ มันก็เลยรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว ตามสัตว์อื่น ๆ ไปถึงเส้นชัยได้อย่างไม่น่าเชื่อ คำแรกที่หมูไปถึงเส้นชัยมันถามเพื่อน ๆ ว่ามีอะไรอร่อย ๆ ให้กินหรือ เวลานั้นมันจึงได้รู้ว่าที่เขาวิ่งกันมาเพราะเขาแข่งขันกัน มันมาถึงเส้นชัยนับเป็นอันดับที่สิบสอง ตัวสุดท้ายพอดี เราเรียกปีหมูว่าปีกุน

ส่วนแมวที่ถูกหนูหลอกก็โมโหที่ถูกหักหลัง ตั้งแต่นั้นมามันจึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับหนูมาโดยตลอดเป็นคู่กัดกันมาจนทุกวันนี้ และว่ากันว่าที่แมวชอบเอามือถูหน้า ก็เพื่อไม่ให้มันรู้สึกง่วงนอนนั่นเอง ถ้าหนูไม่ใช้เล่ห์เพทุบายกับแมวแล้วล่ะก็ บางทีเราก็อาจจะมีปีแมวอยู่ในปีนักษัตรกันแล้ว

ในเชิงของโหราศาสตร์ สิบสองนักษัตรนี้ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งในด้านพยากรณ์ศาสตร์ทั้งในตำราไทยและจีน โดยนักโหราศาสตร์จีนโบราณค่อย ๆ สังเกตเห็นว่า เหตุการณ์บนโลกมักจะมีแนวโน้มไปตามวิถีโคจร 12 ปี และคนที่เกิดในปีเดียวกันก็มักจะมีอุปนิสัยพื้นฐานบางอย่างใกล้เคียงกัน

เมื่อเรื่องเหล่านี้ได้รับการยืนยันเนิ่นนานเข้า จึงมีการตั้งชื่อเรียกแต่ละปีโดยใช้สัตว์ที่มีลักษณะเด่นใกล้เคียงกับคุณสมบัติของคนในแต่ละปีมากที่สุดมาเป็นสัญลักษณ์ ดังนั้น ในปัจจุบันจึงเชื่อกันว่าพวกเราแต่ละคนจะต้องมีลักษณะเด่นประจำตัวตามปีเกิด เช่น อาจเป็นหนู วัว เสือ กระต่าย งูใหญ่ งูเล็ก ม้า แพะ ลิง ไก่ หมา หรือหมู ก็เป็นได้

แม้ว่านิทานสิบสองนักษัตรที่เล่ามาจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เพราะมีเล่ากันไว้ในหลายที่แล้วก็ตาม แต่ถือเสียว่าเป็นการเล่านิทานสนุก ๆ ประเดิมปีใหม่ก็แล้วกันค่ะ

แต่ถ้าคุณผู้อ่านนึกอยากสนุกมากกว่าการอ่านนิทานสิบสองนักษัตรข้างต้นแล้ว ลองหาคำพยากรณ์ที่มีอยู่ดาษดื่นในท้องตลาดบ้านเรามาลองเปรียบเทียบกับปีเกิดของคุณดูก็ได้ ดูว่าลักษณะเด่นของคุณเป็นไปตามที่โหราจารย์ว่าไว้หรือไม่ ไม่ได้ให้เชื่อหรืองมงาย เพียงแต่อยากให้ดูว่าสถิติเขาว่าไว้อย่างไร ที่จริงแล้วเรามีลักษณะตามนั้นหรือไม่ ข้อเด่นข้อด้อยในตัวเราเป็นอย่างไร

ผู้เขียนเห็นว่านี่เป็นวิธีการหนึ่งในการสำรวจตนเองอย่างสนุกและง่าย ๆ มีอะไรพอที่จะปรับปรุงแก้ไขหรือพัฒนาตนเองได้ ก็จะได้ตั้งเข็มทิศวางแผนชีวิตเพื่อพัฒนาร่างกายและจิตใจตั้งแต่ต้นปีค่ะ.

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 29 ธ.ค. 2551

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


ปีใหม่กับนิทาน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

100รายชื่อหนังวิทยาศาสตร์

100รายชื่อหนังวิทยาศาสตร์


เปิดอ่าน 8,297 ครั้ง
บทเรียนที่ 1

บทเรียนที่ 1


เปิดอ่าน 8,290 ครั้ง
ยอมรับเสียเถอะ

ยอมรับเสียเถอะ


เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง
เซอร์ไอแซกนิวตัน

เซอร์ไอแซกนิวตัน


เปิดอ่าน 8,292 ครั้ง
"อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด"

"อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด"


เปิดอ่าน 8,294 ครั้ง
เคล็ดลับ......สวยเร็ว

เคล็ดลับ......สวยเร็ว


เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

โกรธยังไง.....ก็ยังรักเธอ!?

โกรธยังไง.....ก็ยังรักเธอ!?

เปิดอ่าน 8,289 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
อยากรู้เนื้อคู่คุณ...มีลักษณะเช่นใด...รีบคลิกอ่านไวๆๆๆๆๆ
อยากรู้เนื้อคู่คุณ...มีลักษณะเช่นใด...รีบคลิกอ่านไวๆๆๆๆๆ
เปิดอ่าน 8,300 ☕ คลิกอ่านเลย

ข่าวฮ๊อต...สาวไฮโซขายชุดชั้นในใช้แล้ว...แถมคลิป...
ข่าวฮ๊อต...สาวไฮโซขายชุดชั้นในใช้แล้ว...แถมคลิป...
เปิดอ่าน 8,298 ☕ คลิกอ่านเลย

โพลล์ชี้ความสุขคนไทยพุ่งสูง9.86จากเต็ม10
โพลล์ชี้ความสุขคนไทยพุ่งสูง9.86จากเต็ม10
เปิดอ่าน 8,286 ☕ คลิกอ่านเลย

"ด้านได้อายอด" อย่างนี้ก็มีในโลก
"ด้านได้อายอด" อย่างนี้ก็มีในโลก
เปิดอ่าน 8,295 ☕ คลิกอ่านเลย

หลากหลายเคล็ดลับน่ารู้.....คู่บ้าน....มีประโยชน์มาก
หลากหลายเคล็ดลับน่ารู้.....คู่บ้าน....มีประโยชน์มาก
เปิดอ่าน 8,295 ☕ คลิกอ่านเลย

^^ขำ ขำกับพระมหาสมปอง^^:อาหารสมอง
^^ขำ ขำกับพระมหาสมปอง^^:อาหารสมอง
เปิดอ่าน 8,290 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
เปิดอ่าน 12,718 ครั้ง

กลเม็ดหาเงินสร้างธุรกิจ
กลเม็ดหาเงินสร้างธุรกิจ
เปิดอ่าน 11,706 ครั้ง

ADSL ทำงานอย่างไร?
ADSL ทำงานอย่างไร?
เปิดอ่าน 15,245 ครั้ง

ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
เปิดอ่าน 15,183 ครั้ง

นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา
นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา
เปิดอ่าน 25,101 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ