ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ภาพสะท้อนจากความคิดเห็นของผู้อ่านข่าวการศึกษา


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,410 ครั้ง
ภาพสะท้อนจากความคิดเห็นของผู้อ่านข่าวการศึกษา

Advertisement

  ในฐานะครูคนหนึ่ง ที่ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวทางการศึกษาในเว็บไซต์เป็นประจำ และพบว่ามีผู้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวการศึกษาเรื่องต่างๆ อย่างหลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ว่าความคิดเห็นที่ถูกโพสต์ขึ้นมาอย่างมากมายนั้น กำลังบอกหรือสะท้อนอะไรเกี่ยวกับสภาวะ หรือสภาพที่เป็นอยู่ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ที่ประสบอยู่ทุกวันนี้ เราจะยอมรับชะตากรรม หรือมองมองอย่างรู้เท่าทันแล้วรวมพลังกันเผชิญหน้า...

ความเป็นมา

   เว็บไซต์ http://www.kroobannok.com และ http://www.kruthai.info เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอเกี่ยวกับความรู้ ข่าวสาร บทความ กฎหมาย การเผยแพร่ผลงานวิชาการ ห้องสมุดความรู้ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เป็นแหล่งความรู้ของชุมชนครูและบุคลากรทางการศึกษาออนไลน์ ที่มีผู้เข้ามาศึกษาความรู้ แลกเปลี่ยนข่าวสาร รวมทั้งแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องต่างๆ อย่างอิสระ ในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก จากสถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์เกี่ยวกับการศึกษา ของ http://www.kroobannok.com ในเดือน พฤศจิกายน 2551 พบว่า มีผู้เข้าชมเฉลี่ย 29,380 ครั้งต่อวัน(http://truehits.net/script/200812/rank_1.php) ส่วนเว็บไซต์ http://www.kruthai.info ไม่ปรากฏจำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ย แต่สถิติตัวเลขผู้อ่านข่าวที่ปรากฏในเว็บไซต์ดังกล่าวมีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ทั้งสองเว็บไซต์ยังสามารถเชื่อมโยงมาจากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษารู้จักและเข้าถึงเว็บไซต์ทั้งสองแห่งได้ง่าย

   ในการนำเสนอข่าวการศึกษาของเว็บไซต์ทั้ง 2 แห่ง มีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และนำเสนอความเคลื่อนไหวทางการศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นต่อข่าวเรื่องนั้นๆ ได้ตามความสนใจของแต่ละบุคคลโดยไม่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550

   ภาษา มีความสำคัญต่อการนำเอาสิ่งที่ไม่อาจจับต้องได้และมีลักษณะเป็นความคิดนามธรรมที่อยู่ในสมองและจิตใจของมนุษย์เรา ให้ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมที่มองเห็นได้และสัมผัสได้ ภาษาและความคิดจึงเป็นอีกด้านหนึ่งของกันและกัน เปรียบเสมือนเหรียญที่มีสองหน้าซึ่งสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก (อวยพร  พานิช และ คณะ, 2548 : 89)  ภาษาจึงเป็นเครื่องมือในการอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษา การวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้อ่านข่าวการศึกษาจากการใช้ภาษา จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจ ความรู้สึกนึกคิดของผู้อ่านที่มีต่อเรื่องนั้นๆ ด้วยเหตุนี้ ผู้ศึกษาจึงมีความสนใจที่จะศึกษาว่าครูและบุคลากรทางการศึกษามีความสนใจข่าวการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องใด และแสดงความคิดเห็นโดยมีเจตนาสื่อสารกับผู้อื่นอย่างไร

   จากเหตุผลดังกล่าว ผู้ศึกษาได้ใช้ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2551 ถึง 20 มกราคม 2552 จำนวน 30 วัน เพื่อศึกษาข่าวที่ปรากฏบนเว็บไซต์ทั้งสองแห่ง ประกอบด้วย ข่าวการศึกษาจาก http://www.kruthai.info จำนวน  132 ข่าว ข่าวการศึกษาจาก http://www.krobannok.com  จำนวน  172 ข่าว รวมข่าวการศึกษาทั้งสิ้น  304 ข่าว และศึกษาความคิดเห็นต่อข่าวการศึกษาที่มีผู้อ่านมากที่สุดในลำดับที่ 1 – 5  จำนวน 516 ความคิดเห็น ผลการศึกษา พบว่า

   ข่าวการศึกษาที่ปรากฏในเว็บไซต์ มากที่สุด คือ ข่าวเกี่ยวกับเรียนฟรี 15 ปี รองลงมาคือ ข่าวปฏิรูปการศึกษา

                   ข่าวการศึกษาที่มีผู้อ่านมากที่สุด เป็นข่าวเกี่ยวกับวิทยฐานะ ข่าวการศึกษาที่มีผู้อ่านน้อยที่สุดได้แก่ ข่าวเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา

                   เจตนาการสื่อสารเพื่อแสดงความคิดเห็นของผู้อ่านข่าวการศึกษาในเว็บไซต์ชุมชนครูและบุคลากรทางการศึกษาที่พบมากที่สุดคือการบ่น

ข้อสังเกต

                ข่าวการศึกษาที่ปรากฏในเว็บไซต์ มากที่สุด คือ ข่าวเกี่ยวกับเรียนฟรี 15 ปี รองลงมาคือ ข่าวปฏิรูปการศึกษา เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการรับตำแหน่งใหม่ของรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงมีการแถลงนโยบาย และประกาศ เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนการศึกษาให้เป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

                ผู้อ่านสนใจข่าวเกี่ยวกับวิทยฐานะมากที่สุด เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นการประกาศผลการประเมินเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นของครูและบุคลากรทางการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และในช่วงเวลาเดียวกันมีการชุมนุมเรียกร้องให้มีการเยียวยาผู้ไม่ผ่านการประเมิน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาอนุมัติหลักสูตรเยียวยา (จากข่าวเรื่อง อนุมัติหลักสูตรเยียวยาวิทยฐานะ. http://www.kruthai.info) นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ตรวจสอบพบว่า ในการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่สำหรับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษในหลายพื้นที่ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด เช่น บางพื้นที่แต่งตั้งผู้ที่ไม่มีรายชื่อในบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ.กำหนด ให้เป็นคณะกรรมการประเมิน ขณะที่บางพื้นที่ก็แต่งตั้งบุคคลไม่ตรงกับสาขาวิชา เช่น ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินฯ สาขาภาษาไทย จากบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ.กำหนดให้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สาขาก่อนประถมศึกษา ซึ่งเป็นคนละสาขา เป็นต้น (ข่าว ครูอึ้ง!" อ.ก.ค.ศ.เขตฯตั้งกก.ประเมินผิดหลัก ก.ค.ศ.สั่ง"โละ"ตั้งใหม่. http://www.kroobannok.com, 2552)

                   มีผู้ขอรับการประเมินเพื่อเข้าสู่วิทยฐานะในระดับที่สูงขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากแรงจูงใจ 2 ประการคือ แรงจูงใจในเรื่องค่าตอบแทนและเงินเดือนที่สูงขึ้น  กับระบบโครงสร้างของเงินเดือน ที่กำหนดเพดานในระดับชำนาญการ คือ 33,540  บาท หากไม่ทำผลงานเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น จะทำให้เงินเดือนถึงระดับเพดานสูงสุด มาก ดังนั้น ข่าวเกี่ยวกับวิทยฐานะ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้อ่านให้ความสนใจ

                   ส่วนเรื่องที่ผู้อ่านเว็บไซต์ให้ความสนใจน้อย คือ การปฏิรูปการศึกษา เป็นที่น่าสังเกตว่า การปฏิรูปการศึกษาเป็นหน้าที่หลักของครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่เป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการปฏิรูป โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง พบว่าการดำเนินงานของครูมีเพียงร้อยละ 50 – 60 เท่านั้น นอกจากนี้ จากผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน พบว่า ยังอยู่ในระดับปรับปรุงถึงร้อยละ 40 – 60  (วิทยากร  เชียงกูล, 2550) นอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาของการปฏิรูปการศึกษา พบว่ายังไม่ประสบผลสำเร็จในหลายๆ ด้าน จึงเกิดคำถามขึ้นว่า เหตุใดผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการปฏิรูปศึกษาโดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนจึงมีความสนใจในเรื่องดังกล่าวน้อย

                   ส่วนเจตนาการสื่อสารเพื่อแสดงความคิดเห็นของผู้อ่านข่าวการศึกษาในเว็บไซต์ชุมชนครูและบุคลากรทางการศึกษา พบว่า เจตนาการสื่อสาร เพื่อแสดงความคิดเห็นของผู้อ่านข่าวการศึกษาในเว็บไซต์ทั้งสองเว็บไซต์ที่พบมากที่สุดคือการบ่น ซึ่งเป็นการระบายอารมณ์ความรู้สึก ยอมรับสภาพที่เป็นอยู่ด้วยความอึดอัดใจ โดยเฉพาะเรื่องที่สนใจ คือเรื่องวิทยฐานะ สะท้อนให้เห็นว่าทางออกของครูและบุคลากรทางการศึกษาเมื่อเจอปัญหาอึดอัดใจในการประกอบอาชีพคือการยอมรับสภาพด้วยความไม่เต็มใจ

เจตนาของเว็บไซต์ชุมชนครูและบุคลากรทางการศึกษาคือ ต้องการให้เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้ในเรื่องต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาที่ผู้อ่าน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติ แต่เนื่องจากการแสดงความคิดเห็นทางเว็บไซต์เป็นช่องทางที่ผู้ส่งสารไม่ได้เห็นหน้ากัน จึงมีผลทำให้มีความกล้าแสดงออกความคิดเห็นที่ขัดแย้งอย่างรุนแรง จากผลการศึกษาพบว่า กลวิธีที่ผู้ส่งสารเลือกใช้จึงมีเจตนาแสดงความรุนแรง เช่น เสียดสีประชดประชัน ตำหนิ ประณาม โต้แย้ง ต่อว่า เป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างจากการสนทนาที่เผชิญหน้ากันในชีวิตประจำวัน เนื่องจากผู้ส่งสารจำเป็นที่จะต้องรักษาหน้าของอีกฝ่ายในการสนทนา การแสดงความคิดเห็นจึงไม่รุนแรง

สังคมไทยถูกมองว่าเป็นสังคมที่อ่อนน้อมถ่อมตน ที่มีนิสัยประนีประนอม แต่จากผลการศึกษาลักษณะการแสดงความคิดเห็นให้ผลตรงกันข้าม คือ การแสดงความคิดเห็นที่มีต่อข่าวการศึกษา ในเว็บไซต์จึงมีลักษณะเปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็น ผู้แสดงความคิดเห็นจึงมีเจตนาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบมากกว่าการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

                ปัจจัยด้านเหตุการณ์ในขณะนั้นก็มีส่วนส่งผลต่อความสนใจในข่าวการศึกษาและการแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง เนื่องจากช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล อยู่ในช่วงรัฐบาลใหม่เข้ามารับตำแหน่งในกระทรวงต่างๆ และเป็นช่วงประกาศผลการประเมินให้ได้รับตำแหน่งวิทยฐานะที่สูงขึ้น รวมถึง เป็นช่วงที่ศึกษาแนวทางแก้ปัญหาสำหรับผู้ไม่ผ่านการประเมิน  ดังนั้นประเด็นวิทยฐานะ จะมีโดยตลอดเท่าที่เหตุการณ์ยังดำเนินอยู่ ทำให้มีผู้เข้ามาอ่านข่าวและแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แสดงว่า ปัจจัยด้านบริบทภายนอก หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมมีส่วนอย่างมากต่อความสนใจข่าวการศึกษาและการแสดงความคิดเห็น

                การศึกษาเจตนาของผู้แสดงความคิดเห็น โดยใช้เจตนาของภาษาเป็นเครื่องมือในการมองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากจะสะท้อนภาพของครูและบุคลากรที่ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและคุณภาพชีวิตให้เห็นอย่างเด่นชัดแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นการใช้ภาษาในลักษณะต่างๆอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเจตนาในการแสดงความคิดเห็นปรากฏในเชิงลบมากกว่าเชิงบวก

                นอกจากนี้ ผู้ศึกษายังได้ตั้งกระทู้ถามความรู้สึก/ความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของผู้อ่าน เกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของคนในวงการศึกษา ที่มีต่อข่าวในเว็บไซต์ทั้งสองแห่ง ซึ่ง มีผู้แสดงความเห็นว่า ครูเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง การแสดงความคิดเห็น เป็นการระบายความรู้สึกของคนที่มีความทุกข์ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด วิทยาการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อครูและวงการศึกษา เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ดีเกี่ยวกับอะไรก็ได้ โดยไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ซึ่งบางครั้งการที่จะร้องเรียนยังเขตพื้นที่หรือสำนักงานนั้น เป็นเรื่องยากในการปกปิดไม่ให้ผู้อื่นรู้ เพราะกลัวเสียงชื่อสำนักงานหรือเขตพื้นที่ แต่การได้มาพูดหรือบรรยายความรู้สึกทางเว็บรู้สึกดีกว่าร้องเรียนไปที่เขตพื้นที่การศึกษาฯ รวมทั้งเป็นการสะท้อนความรู้สึกหรือเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้อ่านได้บ้าง  ส่วนข้อเสนอแนะที่มีต่อการแสดงความคิดเห็นนั้น ควรเลือกบริโภคแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและการศึกษา ผู้ตั้งกระทู้ควรมีวิจารณญาณโดยตั้งกระทู้ในเรื่องที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์ ควรแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ มีการแนะนำ แบ่งปัน ให้กำลังใจ หรือเสนอแนะ วิพากษ์ ข่าวสารต่างๆ เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริงของสถานการณ์ทางการศึกษาที่เปลี่ยนไปทุกวัน

                ข้อสังเกตที่พบอีกประการหนึ่งนอกจากความสนใจที่มีต่อข่าว และเจตนาในการแสดงความคิดเห็นของผู้อ่าน คือ การใช้ภาษาของผู้อ่านข่าวการศึกษาในเว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ยังมีการใช้ภาษาไม่ถูกต้องอยู่ หลายลักษณะ ได้แก่

การใช้ภาษาอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น

อันไหนเป็นประโยชน์ก็เลือกรับดีกว่าครับ ในประเทศที่เจริญแล้วที่พูดภาษาประกิต

ก็ยังมีการโพสต์ด่ากันในเว็บบอร์การศึกษาครับ ว่ารัฐบาลก้อมี พอดี ผมอ่านภาษาประกิต

เก่งอ่ะคับประเภทเด็กทุนอ่ะนะ แต่เป็นผอ.โรงเรียนปราถม (อุอุ โตมาจากครูมัดยม รองมัดยม) ดีๆๆ สนุกๆๆดีๆๆชอบเด็กน่าร๊าก ครูก้อนิสัยน่าร๊าก (แต่แก่จัง รุ่นแม่ทั้งน้าน) อิอิ

ผอ.จ้าPosted : 2009-01-25 12:56:05   IP : (125.26.9.109)

               

                  การสะกดผิด ตัวอย่างเช่น

การประเมิน วฐ. แบบที่ประเมินอยู่ ทำให้การศึกษา ตกต่ำ เพราะรุ่นปัจจุบันจ้างทำเกลือบทุกคน ที่โรงเรียน ส่ง 3 จ้างทั้ง 3 คน รายละ 5 หมื่น ส่ง มีนาคม 52 แล้วจะเกิดผลอย่างไร ในเมื่อ กคศ. ใช้วิธีการให้ครูทำแบบนี้  

Posted : 2009-01-27 13:22:54   IP : (172.10.5.112)

 

การใช้คำหยาบ ไม่สุภาพ ตัวอย่างเช่น

               จุรินทร์ มึงคิดจะทำอะไรเพื่อครูบ้างไหม ไอ้น้อง อย่าให้ เฮงซวยเหมือน สมัย ลูกนางถ้วนเป็นนายก นะ ที่ไม่อยากขึ้นเงินให้ครู แม้พูดมาแล้ว มันน่าทำให้สูญพันธุ์จริงๆพวกนี้  

               Posted : 2009-01-20 21:56:51   IP : (125.26.240.54)

              

               จากตัวอย่างดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การใช้ภาษาไม่ถูกต้องของคนไทยในโลกอินเทอร์เน็ตนอกจากจะพบมากในวัยรุ่นแล้ว ยังพบในกลุ่มอายุอื่นด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าว ควรจะมีความตระหนักในเรื่องการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนทั่วไป

 

ข้อเสนอแนะ

1.                     ผู้อ่านข่าวการศึกษาควรแสดงความคิดเห็นโดยการนำเสนอข้อเท็จจริง เสนอแนวคิดและทางออกอย่างสร้างสรรค์ ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านคนอื่น ในการนำความรู้ ข้อคิดเห็นไปปฏิบัติได้

2.                     ควรมีการนำเสนอสภาพความเป็นจริงและความรู้สึกนึกคิดของผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการศึกษาต่อหน่วยงาน เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษา

3.                     ควรมีการรณรงค์การใช้ภาษาอย่างถูกต้อง และสุภาพในเว็บไซต์ชุมชนครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนทั่วไป

 

ข้อมูลในการศึกษามาจาก http://www.kroobannok.com และ http://www.kruthai.info  ผู้ศึกษาขอขอบคุณ webmaster  เว็บไซต์ทั้ง 2 แห่งเป็นอย่างสูง

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3149 วันที่ 2 มี.ค. 2552


ภาพสะท้อนจากความคิดเห็นของผู้อ่านข่าวการศึกษา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

รู้แล้ว.....บอกต่อ

รู้แล้ว.....บอกต่อ


เปิดอ่าน 6,410 ครั้ง
แบบพิมพ์  ....

แบบพิมพ์ ....


เปิดอ่าน 6,409 ครั้ง
9 ข้อ น่ารู้.....เรื่องฟิตเนส

9 ข้อ น่ารู้.....เรื่องฟิตเนส


เปิดอ่าน 6,442 ครั้ง
หนัง

หนัง


เปิดอ่าน 6,418 ครั้ง
บัวสี่เหล่า..

บัวสี่เหล่า..


เปิดอ่าน 6,448 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

มาดูนิสัยลูกคนโต พี่คนกลาง น้องคนเล็ก

มาดูนิสัยลูกคนโต พี่คนกลาง น้องคนเล็ก

เปิดอ่าน 6,470 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
  เห็นหญิงแก่ข้างบ้าน <> <>   วันสงกรานต์คิดถึงแม่
เห็นหญิงแก่ข้างบ้าน <> <> วันสงกรานต์คิดถึงแม่
เปิดอ่าน 6,427 ☕ คลิกอ่านเลย

ธุรกิจมาแรงปี 2010
ธุรกิจมาแรงปี 2010
เปิดอ่าน 6,415 ☕ คลิกอ่านเลย

~~.* คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2553 & ย้อนหลังคำขวัญปี2502-2552*~~. มีเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดีด้วยครับ...
~~.* คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2553 & ย้อนหลังคำขวัญปี2502-2552*~~. มีเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดีด้วยครับ...
เปิดอ่าน 6,426 ☕ คลิกอ่านเลย

พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ไม่ยากอย่างที่คิด
พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ไม่ยากอย่างที่คิด
เปิดอ่าน 6,460 ☕ คลิกอ่านเลย

เผยแพร่รายงานการใช้นวัตกรรม
เผยแพร่รายงานการใช้นวัตกรรม
เปิดอ่าน 6,419 ☕ คลิกอ่านเลย

เคล็ดลับการตักบาตรเสริมดวง....ตามวันเกิด
เคล็ดลับการตักบาตรเสริมดวง....ตามวันเกิด
เปิดอ่าน 6,424 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
เปิดอ่าน 10,502 ครั้ง

7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
เปิดอ่าน 13,309 ครั้ง

ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก
เปิดอ่าน 5,592 ครั้ง

ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o
เปิดอ่าน 106,192 ครั้ง

ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 15,821 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ