มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 3 เรื่อง คือ เห็นชอบปรับค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่งตั้งข้าราชการระดับสูง และรับทราบรายงานผลโครงการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์
เห็นชอบปรับค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ครม.อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่ายสังคม) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เป็นประธานกรรมการ ที่อนุมัติตามความเห็นของผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่ให้ปรับค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เท่ากับการจัดการศึกษาในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้
ลำดับ
|
ระดับ
|
ในระบบ
|
นอกระบบ
|
หมายเหตุ
|
เดิม
|
ใหม่
|
1
|
ประถมศึกษา
|
1,900
|
1,100
|
1,900
|
|
2
|
มัธยมศึกษาตอนต้น
|
2,300
|
2,300
|
2,300
|
|
3
|
มัธยมศึกษาตอนปลาย
|
2,300
|
2,300
|
2,300
|
|
4
|
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ
|
4,900-5,500 ตามแต่ละ
สาขาวิชา
|
4,240
|
4,900-5,500
|
ใช้เกณฑ์เดียวกับค่าใช้จ่ายระดับ ปวช.ในระบบ โดยให้แยกตามสาขาวิชา
|
ส่วนงบประมาณในการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ให้ ศธ.เจียดจ่ายจากงบประมาณ พ.ศ.2555 ที่จะได้รับจัดสรรดำเนินการไปก่อน ส่วนงบประมาณ พ.ศ.2556 สำนักงบประมาณจะจัดสรรให้ ศธ.ตามอัตราดังกล่าวต่อไป
แต่งตั้งข้าราชการ 2 ราย ครม.อนุมัติตามที่ ศธ.เสนอแต่งตั้งดังนี้
- นางอรทัย มูลคำ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2554 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
- ว่าที่ร้อยตรี มังกร หริรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป และให้พ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เนื่องจากครบเกษียณอายุราชการต่อไป
รับทราบรายงานผลโครงการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย
ครม.รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติ ครม. เรื่อง โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย (โครงการ วมว.) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รายงานผลการดำเนินโครงการในช่วงเดือนเมษายน–กันยายน 2554 สรุปได้ดังนี้
- สนับสนุนนักเรียนห้องเรียนวิทยาศาสตร์ของโครงการจำนวน 4 รุ่น (ปีการศึกษา 2551 – 2554) รวม 16 ห้องเรียน ใน 7 โรงเรียน ได้แก่ 1) โรงเรียนที่เป็นมหาวิทยาลัย กับโรงเรียนนำร่อง 4 แห่ง โรงเรียนละ 3 ห้อง คือ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ในการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, โรงเรียนดรุณสิกขาลัย ในการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, โรงเรียน มอ. วิทยานุสรณ์ ในการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ 2) โรงเรียน กับมหาวิทยาลัยที่ขยายเพิ่ม 3 แห่ง คือ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จำนวน 2 ห้องเรียน, โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จำนวน 1 ห้องเรียน, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 1 ห้องเรียน
- การจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนห้องเรียนวิทยาศาสตร์โครงการ วมว. ประจำปีการศึกษา 2554 ของมหาวิทยาลัยโครงการ วมว. ทั้ง 7 แห่ง ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันตามบริบทและศักยภาพของแต่ละมหาวิทยาลัย แต่อยู่ภายใต้โครงสร้างหลักสูตรตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับโรงเรียนมาโดยตลอด
- การติดตามและประเมินผล ได้มีการประเมินผลโครงการ วมว. เมื่อสิ้นปีที่ 3 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2550 ซึ่งได้จัดจ้างสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นที่ปรึกษา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายงานฉบับสมบูรณ์
- ในการดำเนินการดังกล่าว ได้ใช้งบประมาณจากการบริหารโครงการ วมว. ประจำปี พ.ศ.2554 จำนวนทั้งสิ้น 96,822,311.29 บาท และได้กันเงินเหลื่อมปี จำนวน 2,642,383.37 บาท เพื่อใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการสืบเนื่องในปี 2555 ต่อไป
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2011/nov/319.html