ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

คลายร้อน...ประหยัดไฟ...ลดภาวะโลกร้อนกันเถอะ..!


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,249 ครั้ง
คลายร้อน...ประหยัดไฟ...ลดภาวะโลกร้อนกันเถอะ..!

Advertisement

วิธีคลายร้อน    วิธีคลายร้อน    วิธีคลายร้อน    วิธีคลายร้อน    วิธีคลายร้อน     วิธีคลายร้อน     วิธีคลายร้อน

วิธีคลายร้อนแบบไทยๆ แบบทำได้เอง ง่ายแสนง่าย

  1. เดิน นั่งเล่น ทานอาหาร ห้างสรรพสินค้า ได้แอร์โดยไม่ต้องเปิดแอร์เองที่บ้าน หาเก้าอี้สาธารณะแล้วนำอาหารไปทานเองจากบ้านก็ได้ ไม่เปลืองสตังค์ มาถึงยุคนี้แล้ว ไม่ต้องอายค่ะ ทำไปก่อนค่ะ เดี๋ยวมีคนทำตามเพียบ!

     

  2. เข้าโรงหนัง ระหว่างนั่งรอหนังเข้า ก็เอามือถือมาเปิด oknation wap เล่นบล็อกซะ

     

  3. เข้าไปนั่งอ่านหนังสือ ทำงานที่ห้องสมุดที่เปิดแอร์อยู่แล้ว

  4. ไปนั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ ตามสวนสาธารณะ สถานที่คุ้นเคย มีคนรู้จักแถบนอกเมือง

  5. หยุดวันสองวันก็ปิดบ้านหนีร้อนไปเที่ยวน้ำตก หรือทะเลบ้าง

  6. อาบน้ำบ่อยๆ นอนแช่น้ำให้คลายร้อน (โดยไม่ต้องใช้เครื่องทำน้ำอุ่น)

     

  7. ทาแป้งเย็น หรือประดินสอพอง ให้ตัวลายพร้อย เปิดหน้าต่างรับลม

  8. เอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆชุบน้ำแช่ในช่องแข็ง หรือแช่เย็นไว้หลายๆผืน ควรหาอะไรใส่หุ้มไว้ทุกผืน ป้องกันไม่ให้ติดกัน หรือเปรอะเปื้อน เอาออกมาเช็ดหน้า เช็ดตัว พาดไว้ที่คอ คลายร้อนได้ดี

  9. ซื้อถาดทำน้ำแข็งไว้เยอะๆ ทำน้ำแข็งใส่ที่เก็บน้ำแข็งไว้ให้มีใช้ตลอดเวลา

  10. ทำน้ำเย็นใส่กระติกไว้ทาน (เหยาะน้ำยาอุทัย สักนิดให้ชื่นใจก็ได้) ใส่กระติกใบเล็กสำหรับพกออกไปนอกบ้าน ไม่ต้องไปซื้อน้ำเย็น น้ำแข็งใสที่ไหน

  11. ทำไอศครีมหรือหวานเย็นทานเอง จะใช้น้ำผลไม้คั้นสดๆ (คั้นด้วยมือ) ผสมน้ำผึ้ง น้ำเชื่อม เกลือนิดหน่อย หรือ ใช้น้ำแข็งทุบละเอียดใส่น้ำหวาน

  12. พื้นบ้านหลังจาก ถูด้วยผ้าเปียกใหม่ๆจะรู้สึกเย็นสบาย วันนี้คุณถูบ้านหรือยัง?

     

  13. เอาผ้าชุบน้ำ หรือถุงผ้าชุบน้ำใส่น้ำแข็ง แขวนไว้หน้าพัดลม ก็เย็นเหมือนเปิดแอร์ (ถ้าขี้เกียจเดินเอาผ้าไปชุบน้ำบ่อยๆ ให้ใช้ผ้ายาวหน่อย จับปลายด้านล่างแช่น้ำ หรือน้ำแช่น้ำแข็งในถังวางไว้หน้าพัดลมเลยค่ะ)

     

  14. ทำราวแขวนผ้าในบ้าน ย้ายผ้าสะอาดๆที่หมาดแล้วมาตากในบ้าน ให้พัดลมพัดเฉี่ยวๆเอาลมเย็นมาปะทะตัวเรา

  15. ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากใยธรรมชาติ งดผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์

  16. ประพรมน้ำอบน้ำหอม เครื่องหอมไทย กลิ่นหอมของสมุนไพรไทย มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบประสาท เมื่อได้กลิ่นจะทำให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี ทำให้มีความสดชื่น
  17. ไปนั่งบ้านเพื่อน ที่เขาจำเป็นต้องเปิดแอร์อยู่แล้ว ....อย่างนี้เรียก แอร์แชริ่ง ค่ะ หากไม่จำเป็นไปใช้พัดลมไอน้ำด้วยกันก็ดีค่ะ

.

นะคะ ช่วยกันกู้โลก เถอะค่ะ

 

 


 

 

วิธีประหยัดไฟ
จากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรยนต์ ในชีวิตประจำวัน

  1. ใช้แอร์ระบบตั้งเวลาให้ปิดก่อนเวลาตื่น 1 ชั่วโมง

     

  2. ปิดแอร์ที่ทำงาน ½ - 1 ชั่วโมงก่อนเวลาเลิกงาน หากมีการทำ OT ใช้พัดลมไอน้ำแทนได้

     

  3. นั่งทำงานในที่มีแสงสว่างเพียงพอ ลดการใช้ไฟโคมบนโต๊ะทำงานได้

  4. เปิดไฟแสงสว่างในที่ทำงานเฉพาะจุดที่จำเป็น คนที่ไม่มาทำงานหรือกลับบ้านแล้ว ต้องปิดไฟบริเวณนั้นให้หมด

  5. ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ เปิดเฉพาะที่จำเป็น ทางที่ดีรวบรวมคนทั้งบ้านมานั่งล้อมวงทานข้าว เล่าเรื่อง สังสรรค์พร้อมหน้าพร้อมตากันยามค่ำทุกวัน จะได้ใช้ไฟดวงเดียว

  6. เดินทางไปไหนคนเดียว ไม่จำเป็นอย่าขับรถ ใช้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และรถโดยสารแทน

  7. สมานฉันท์กับเพื่อนบ้านที่ทำงาน โรงเรียนลูก ใกล้กันหรือทางเดียวกัน นั่งรถไปทำงาน หรือส่งลูกคันเดียวกัน อาจจะขับให้กันฟรีๆหรือเหมาคิดค่าน้ำมันรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน

  8. หากมีทุนสักหน่อย ให้ปูแผ่นกันความร้อนบนฝ้าเพดานทั้งบ้าน กันความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้าน ลดการใช้พลังงานจากการทำงานของเครื่องทำความเย็นในบ้านได้

  9. ใช้ระบบไหลเวียนของน้ำ พรมหลังคาให้เย็นตลอดเวลา

  10. ใช้ระบบไหลเวียนของอากาศ ปัดลมร้อนออกไปจากรัศมีตัวบ้าน อาจจะเพียงแค่เปิดหน้าต่างมุมที่รับลม หรือติดตั้งตัวหมุนบนหลังคา

  11. ปลูกบ้าน อาคาร ต้องดูทิศทางลม และแสงแดด อย่าหันหน้าบ้าน ไปทางทิศตะวันตกเพราะจะทำให้ร้อนไปถึงตอนกลางคืน
  12. ทาสีภายนอกอาคารให้สะท้อนแสง และภายในอย่าใช้สีทึบ
  13. หลีกเลี่ยงการใช้กำแพง หน้าต่าง กระจกบนตัวอาคาร หากใช้ก็ให้ติดฟิล์มกรองแสง เพื่อกันความร้อนเข้าตัวอาคาร และไม่สะท้อนแสงและความร้อนออกไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
  14.  ปิดพัดลมระบายอากาศในห้องแอร์ได้ หากในห้องไม่มีกลิ่นจากควันบุหรี่ อาหาร ควัน ฝุ่นไอ อันไม่พึงประสงค์ เพื่อลดปริมาณอากาศร้อนจากภายนอกเข้ามาเป็นเหตุให้เครื่องปรับอากาษต้องทำงานหนักขึ้น

  15. ตั้งให้คอมพิวเตอร์ปิดหน้าจอโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ใช้งานสักระยะหนึ่ง ทั้งประหยัดไฟและลดการทำงานของระบบทำความเย็น

  16. เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 28-30 C แล้วเปิดพัดลมควบคู่เพื่อเพิ่มความเร็วลม จะเย็นเหมือนเปิดที่ 25-26 C เพราะความเย็นเกิดจากความสัมพันธ์ของ อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และความเร็วของลม

  17. จัดห้องให้ตู้ ชั้นวางของอยู่ติดกำแพงด้านตะวันออกและตะวันตกที่ต้องรับไอแดด ช่วยดูดซับความร้อนและลดการแผ่รังสีความร้อนของกำแพง

  18.  ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน และอย่าเปิดช่องให้ความเย็นออก ใช้วิธีเปิดพัดลมช่วย เพื่อประหยัดพลังงานตอนเปิดแอร์ใช้อีกครั้ง

  19.  เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น หม้อต้มน้ำ ต้มกาแฟ เคนื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น จะปล่อยความร้อนออกมา จึงไม่ควรไว้ในห้องแอร์

  20. งดสูบบุหรี่ สร้างมลพิษในอากาศในห้องที่ปิดทึบ ห้องแอร์ เพราะจะทำให้ต้องมีการเปิดพัดลมเพื่อระบายออก มีผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นเพราะอากาศร้อนภายนอกเข้ามา และฝุ่นละอองไปจับที่คอลย์น้อย ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาบ่อยขึ้น

  21. ปิดช่องโหว่ รูรั่วตามกำแพง ปิดม่านบังแสง เพื่อมิให้ความร้อนจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามา และม่านยังช่วยสะท้อนความร้อนออกไป

  22. ใช้โคมไฟแสงสว่างในที่ทำงาน แบบที่มีแผ่นสะท้อนแสงช่วยลดจำนวนหลอดไฟ

  23.  ใช้หลอดผอม หรือ หลอดคอมแพค ประหยัดไฟ หมั่นทำความสะอาด อย่าให้ในจับจนแสงพร่ามัว

  24.  ใช้ตู้เย็นประตูบานเดียว ที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบน ประหยัดไฟกว่า ตั้งอุณหภูมิที่ 3-6 C ชองแช่แข็งตั้งที่ ลบ15-18 C ประหยัดที่สุด

  25. หมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อนหลังตู้เย็น ดูแลยางขอบประตูให้ปิดสนิทอยู่เสมอ อย่าเปิดปิดบ่อย อบ่านำของร้อนเข้าตู้เย็น

  26. ตรวจสอบว่ามีไฟรั่วไปทางสายดินหรือไม่ โดยปิดสวิทช์ไฟทุกอย่าง แล้วดูมิเตอร์ว่ายังเดินอยู่หรือไม่  สำหรับตู้เย็นให้เปิดไว้ขณะปิดอย่างอื่นหมด แล้วปรับสวิทชฺควบคุมอุณหภูมิลงจนต่ำสุดให้อมเพรสเซอร์หยุดทำงานก่อน ไปสังเกตุมิเตอร์ไฟฟ้า

  27.  เลือกใช้เครื่องปรับอากศที่มีขนาดพอเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ และติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่ถูกแสงแดด ความร้อนโดยตรง และระบายอากาศได้ดี
    13-14 ตร.ม. ใช้   8000 BTU
    16-17 ตร.ม. ใช้ 10000 BTU
    20       ตร.ม. ใช้ 12000 BTU
    23-24 ตร.ม. ใช้ 14000 BTU
    30       ตร.ม. ใช้ 18000 BTU
    40       ตร.ม. ใช้ 24000 BTU

  28. ท้ายสุดแต่ใช่ว่าจะสุดท้ายค่ะ
    ยิ่งใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรยนต์น้อยเท่าไหร่ ยิ่งประหยัดพลังงาน เชื้อเพลิงได้มาก ฉะนั้น จึงควรจัดสภาพแวดล้อมที่พักอาศัย ที่ทำงาน วิถีการดำรงชีวิตให้เหมาะสม การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย มองผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นใหญ่  การหาและใช้พลังงานทดแทนที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อธรรมชาติ และการดูแลสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ให้ดี เพื่อช่วยกันทำให้โลกเราอยู่ได้นานขึ้น และลูกหลานเราก็จะมีที่อยู่อาศัยต่อไปค่ะ
    เรามาตั้งธงกันว่า ต่อไปนี้ จะทำอะไร ให้คำนึงถึงเรื่อง
    - ประหยัดพลังงาน
    - ไม่สร้างมลภาวะในอากศ น้ำ ผืนดิน
    - ขจัดและลดภาวะโลกร้อน

  29. Comment Hi5 Glitter

     

     

     

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 27 ก.พ. 2552


คลายร้อน...ประหยัดไฟ...ลดภาวะโลกร้อนกันเถอะ..!

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

นิทานหรรษา

นิทานหรรษา


เปิดอ่าน 6,287 ครั้ง
รักสุขภาพ.....ด้วย 18 วิธี

รักสุขภาพ.....ด้วย 18 วิธี


เปิดอ่าน 6,258 ครั้ง
คนตกน้ำ...

คนตกน้ำ...


เปิดอ่าน 6,250 ครั้ง
 วันสงกรานต์

วันสงกรานต์


เปิดอ่าน 6,260 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ทุเรียน.........มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไม้ผลหลายชนิด

ทุเรียน.........มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไม้ผลหลายชนิด

เปิดอ่าน 6,263 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้อง จะแก้ปัญหาอย่างไร (ขั้นตอนที่ 24)
นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้อง จะแก้ปัญหาอย่างไร (ขั้นตอนที่ 24)
เปิดอ่าน 6,253 ☕ คลิกอ่านเลย

การประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพโรงเรียนชุมชนป้อมเพชร
การประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพโรงเรียนชุมชนป้อมเพชร
เปิดอ่าน 6,259 ☕ คลิกอ่านเลย

...ความสุขอยู่ที่ใจ.........
...ความสุขอยู่ที่ใจ.........
เปิดอ่าน 6,251 ☕ คลิกอ่านเลย

เหล็กดัดฟันกับดารา น่ารัก แอ๊บแบ๊วจริงๆ!
เหล็กดัดฟันกับดารา น่ารัก แอ๊บแบ๊วจริงๆ!
เปิดอ่าน 6,263 ☕ คลิกอ่านเลย

ขำขำ : ไส้ติ่งอักเสบ
ขำขำ : ไส้ติ่งอักเสบ
เปิดอ่าน 6,281 ☕ คลิกอ่านเลย

นำ < เคล็ดลับ>  กับตัวช่วยอาการป่วย <เหงือกอักเสบ>  เก็บสิ่งดีๆ มาฝากครับ
นำ < เคล็ดลับ> กับตัวช่วยอาการป่วย <เหงือกอักเสบ> เก็บสิ่งดีๆ มาฝากครับ
เปิดอ่าน 6,246 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
เปิดอ่าน 13,713 ครั้ง

ประติมากรรม
ประติมากรรม
เปิดอ่าน 66,204 ครั้ง

"แกรนด์ แคนยอน" ฟ้าผ่าปีละหลายหมื่นครั้ง! อยู่ที่แจ้ง รู้เอาตัวรอด
"แกรนด์ แคนยอน" ฟ้าผ่าปีละหลายหมื่นครั้ง! อยู่ที่แจ้ง รู้เอาตัวรอด
เปิดอ่าน 22,738 ครั้ง

ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
เปิดอ่าน 23,763 ครั้ง

"ราชบัณฑิตฯ" แจงชื่อเมืองหลวงใหม่ ใช้ได้ทั้ง Krung Thep Maha Nakhon และ Bangkok
"ราชบัณฑิตฯ" แจงชื่อเมืองหลวงใหม่ ใช้ได้ทั้ง Krung Thep Maha Nakhon และ Bangkok
เปิดอ่าน 11,506 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ