ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เปิดเทอมใหม่ ยังมีเด็กไปไม่ถึง...โรงเรียน


ข่าวการศึกษา 21 มิ.ย. 2565 เวลา 13:11 น.

2,498

views
Advertisement

เปิดเทอมใหม่ ยังมีเด็กไปไม่ถึง...โรงเรียน

เปิดเทอมใหม่ ยังมีเด็กไปไม่ถึง...โรงเรียน กสศ. ศธ. ปตท. ผนึกกำลังครูทั่วประเทศ ติดตามเด็กยากจนพิเศษชั้นรอยต่อที่เสี่ยงหลุดจากระบบ ปิดช่องว่างพาน้องกลับมาเรียน

เด็กทุกคนต้องได้เรียนต่อ กสศ. ศธ. ตชด. อปท. สช. สร้างกลไกช่วยเหลือและติดตามนักเรียน ในช่วงชั้นรอยต่อ ป.6 และ ม.3 ที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาให้กลับมาเรียน ภายใต้โครงการพาน้องกลับมาเรียน

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยในเวทีเสวนา “เปิดเทอมใหม่ ยังมีเด็กไปไม่ถึง...โรงเรียน” ซึ่งจัดขึ้นโดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการ ว่าในปีการศึกษา 2563-2564 พบมีเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษามากถึง 238,000 คน จึงได้ร่วมกับทุกภาคส่วนเดินหน้าติดตามพาน้องกลับมาเรียน ส่งผลให้ปัจจุบันเหลือเพียง 17,000 คนเท่านั้นที่ยังตามกลับเข้ามาไม่ได้ กระทรวงศึกษาธิการได้ตั้งศูนย์ประสานงานตามน้องกลับมาเรียน ติดตามเด็กกลุ่มนี้ให้กลับสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง

“การตามนักเรียนให้กลับมาถือว่ายากแล้ว แต่ที่สำคัญกว่าคือทำอย่างไรไม่ให้ต้องหลุดออกไปอีกครั้ง เพราะปัญหาของเด็กที่มีความซับซ้อนมากกว่าแค่ 1 เรื่อง จึงมองแต่ตัวเด็กไม่ได้ แต่ต้องมองไปถึงผู้ปกครองด้วย ทั้งเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ถ้าจะให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จทุกหน่วยงาน ทั้ง กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฯลฯ จะต้องร่วมกันดูแลอย่างเป็นระบบไปจนถึงตัวผู้ปกครอง ซึ่งโรงเรียนเองก็จะเป็นหัวใจหลักในการประสานกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่”

ในเวทีเสวนา ยังได้ยกกรณีตัวอย่างกลไกการช่วยเหลือ “น้องนนท์” (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.1 อายุ 14 ปี ซึ่งเคยเรียนอยู่ในโรงเรียนเอกชนสองภาษา มีผลการเรียนระดับดีมาก จากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้ครอบครัวเกิดปัญหาความยากจนเฉียบพลัน ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม จึง ทำให้ “น้องนนท์” ไม่มีสิทธิสอบ ไม่มีสิทธิเข้าเรียน จนในที่สุดต้องหลุดจากระบบไป 1 ปีการศึกษา เปิดเทอมปีการศึกษา 2565 มาหนึ่งเดือนแล้วยังไม่ได้กลับไปเรียน

นายปิติ ยางกลาง ผู้อำนวยการโรงเรียนไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ปัญหาและนำ “น้องนนท์” กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ด้วยการใช้ “ไทรน้อยโมเดล” โดยทำงานร่วมกันกับศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤติทางการศึกษา กสศ. ด้วยแนวทางรับเด็กเข้าเรียนทันที แม้จะเปิดเทอมมาแล้วกว่า 1 เดือน เพราะเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวันที่ยิ่งทำให้เด็กเสียโอกาส ปัญหาที่โรงเรียนเก่าค่อยมาหาทางแก้ไขกันทีหลัง ขอให้เด็กได้กลับมาเรียนก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายรายหัว ค่าหนังสือ และอื่นๆ ทางโรงเรียนไม่ได้คำนึงถึงตรงนี้ เพราะสามารถนำไปเฉลี่ยกับเด็กทั้งหมดได้

“ไทรน้อยโมเดล เป็นระบบการดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่มีปัญหา โดยไม่ใช่แค่การพาเด็กกลับเข้าระบบมาแล้วส่งเข้าห้องเรียนแค่นั้น แต่จะมีการสำรวจความพร้อม และความต้องการของเด็กหลังจากหยุดเรียนไป 1 ปี และจัดทำโปรแกรมการฟื้นฟูทุกด้าน โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายในโรงเรียน และมีการประสานนักจิตวิทยาเข้ามาดูแลเพราะการหยุดเรียนไปนานส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจพอสมควร ซึ่งโรงเรียนของเรามีความเชื่อว่าเมื่อเด็กอยากเรียนแล้วเขาก็จะมีพลังบวกในตัวเอง โดยตอนนี้ น้องนนท์ได้กลับมาเข้าเรียนต่อในระดับ ม.2 แล้ว”

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เปิดเผยว่า การพาน้องกลับมาโรงเรียนได้ จะได้รับการดูแลและสวัสดิการต่างๆ ที่รออยู่ที่โรงเรียน เช่น ทุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ทุนเสมอภาค นมโรงเรียน อาหารกลางวัน ซึ่งครอบครัวก็ได้รับประโยชน์ตรงนี้ด้วย โรงเรียนจึงเป็นพื้นที่ที่มีความหมายมากกว่าการไปเรียนหนังสือ ดังนั้นการพาเด็กกลับมาได้นับแสนคนจึงถือว่าเป็นคุณูปการต่อตัวเด็ก ครอบครัว และสังคม ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ในระยะยาว

กสศ. ร่วมกับโรงเรียน 17,432 แห่ง 4 สังกัด (สพฐ. ตชด. อปท. สช.) ซึ่งเป็นโรงเรียนเดิมที่นักเรียนยากจนพิเศษ ช่วงชั้นรอยต่อ เคยศึกษาในภาคเรียนที่ 2 /2564 เพื่อติดตามสถานะการศึกษาต่อของนักเรียน และให้กลับมารับทุนการศึกษาลมหายเพื่อน้องที่โรงเรียน เนื่องจากคุณครูมีประสบการณ์ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ติดตามนักเรียนกลุ่มดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. กล่าวว่า หลังเปิดเทอมยังมีเด็กจำนวนมากที่ไปไม่ถึงโรงเรียน หนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือปัญหาความยากจนเฉียบพลัน โดยข้อมูลจากการสำรวจพบว่าเด็กนักเรียนใน กทม.ผู้ปกครองจะมีค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมประมาณ 37,000 บาทต่อคน ต่างจังหวัดจะอยู่ที่ 17,800 บาทต่อคน ดังนั้นถ้าเราไม่ช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจให้กับผู้ปกครอง โอกาสที่เด็กกลุ่มนี้จะได้ไปต่อก็ยากขึ้น และยังพบว่าเด็กที่มีความเสี่ยงหลุดสูงนั้นจะมีปัญหามากกว่า 1 เรื่องทั้งเศรษฐกิจ ครอบครัว การหย่าร้าง และสุขภาพ โดยตัวอย่างการทำงานในหลายพื้นที่ของโครงการพาน้องกลับมาเรียนในวันนี้ทำให้เห็นว่าสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้จริง แต่หลังจากนี้จะต้องมีนโยบายเข้ามาช่วยป้องกันไม่ให้เด็กหลุดซ้ำ เพราะตอนนี้เราดึงกลับมาได้แล้วกว่า 2 แสนคน ต้องหาทางประคับประคองไม่ให้กลุ่มนี้หลุดซ้ำ สิ่งที่ช่วยได้ก็คือเรื่องของทุน การมีงานทำ และการมีครูที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กในภาวะวิกฤติ

“ทุกปัญหาในครอบครัวทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การมีงานทำ ปัญหาสังคม ผลกระทบทุกอย่างจะตกไปอยู่ที่ตัวเด็กทั้งหมด ดังนั้นการแก้ปัญหา จึงต้องเข้าไปแก้ปัญหาถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง จึงมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วนที่ต้องมีการกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ร่วมกันในการดูแล และในภาวะแบบนี้ควรจะต้องพลิกมุมมองจากการดูแลเด็กจากเด็กเก่งและดี เป็นดูให้เด็กรอด และต้องบูรณาการการทำงานของ 4 กระทรวงในทุกๆ พื้นที่ โดย กสศ.จะทำหน้าที่ป้องกันให้พ้นวิกฤติ แล้วส่งต่อให้จังหวัดดูแลต่อในระยะยาว”

“โครงการพาน้องกลับมาเรียน” เป็นการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ 14 องค์กร และเอกชน เพื่อสร้างกลไกการค้นหาและติดตามเด็กที่ประสบปัญหาความยากจน พิการซ้ำซ้อน ไม่มีค่าเดินทาง ต้องเสียสละให้น้องเรียน ไม่ได้จ่ายค่าเทอม ไม่มีวุฒิไปเรียนต่อ จนทำให้หลุดออกจากระบบการศึกษา ด้วยการร่วมกันพาน้องกลับโรงเรียน โดยมีบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ร่วมสมทบเงินบริจาค 150 ล้านบาท จากโครงการลมหายใจเพื่อน้อง เพื่อช่วยนักเรียนช่วงชั้นรอยรอยต่อที่หลุดนอกระบบ
 

 

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


เปิดเทอมใหม่ ยังมีเด็กไปไม่ถึง...โรงเรียนเปิดเทอมใหม่ยังมีเด็กไปไม่ถึง...โรงเรียน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)

เปิดอ่าน 17,389 ☕ 3 ธ.ค. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คุรุสภา เตรียมพร้อมจัดงานวันครู ครั้งที่ 70 พ.ศ.2569 "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน"
คุรุสภา เตรียมพร้อมจัดงานวันครู ครั้งที่ 70 พ.ศ.2569 "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน"
เปิดอ่าน 309 ☕ 4 ธ.ค. 2568

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)
เปิดอ่าน 17,389 ☕ 3 ธ.ค. 2568

การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
เปิดอ่าน 857 ☕ 29 พ.ย. 2568

มาตรการและแนวปฏิบัติการดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 (ว49633)
มาตรการและแนวปฏิบัติการดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 (ว49633)
เปิดอ่าน 2,619 ☕ 27 พ.ย. 2568

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
เปิดอ่าน 18,979 ☕ 27 พ.ย. 2568

"อรรถพล" เรียกร้องทุกพรรคการเมืองปฏิรูปอาชีพครู ถ้าไม่ทำการศึกษาไทยจะถอยหลังอีกเป็นสิบปี
"อรรถพล" เรียกร้องทุกพรรคการเมืองปฏิรูปอาชีพครู ถ้าไม่ทำการศึกษาไทยจะถอยหลังอีกเป็นสิบปี
เปิดอ่าน 931 ☕ 27 พ.ย. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม
เปิดอ่าน 25,862 ครั้ง

8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
เปิดอ่าน 14,890 ครั้ง

วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์
เปิดอ่าน 16,017 ครั้ง

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลของเอกชน ว 333
หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลของเอกชน ว 333
เปิดอ่าน 30,601 ครั้ง

ประวัติศาสตร์ไทย
ประวัติศาสตร์ไทย
เปิดอ่าน 44,698 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ