ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ติด...เทคโนโลยี


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,562 ครั้ง
Advertisement

ติด...เทคโนโลยี

Advertisement

ติด...เทคโนโลยี
 

ผมมีโอกาสได้ชมเทปรายการทีวี ชื่อไอทีสแน็กย้อนหลัง เล่าถึงโรคล่ามาแรงยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง ได้ความว่า โรคร้ายสำหรับคนไอทียามนี้มาเยือนคุณถึงโต๊ะทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือองค์กรใดก็ตาม คุณอาจเป็นโรคติดประเภทนี้อย่างไม่รู้ชะตา เพราะทุกวันนี้เราพึ่งพาเทคโนโลยีจำนวนมาก ลองนับนิ้วเล่นๆ สิครับว่าแต่ละวันเราใช้เวลากับคอมพ์กี่ชั่วโมง บางทีรู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้า ปวดข้อ ฯลฯ ไม่รู้สาเหตุ



โรคร้ายอันดับแรกที่อยากเล่าสู่กันฟัง คือ ความเครียดจากเทคโนโลยี (Techno Stress) เชื่อว่ามีหลายล้านคนในโลกกำลังเผชิญกับมัน และส่วนใหญ่คงไม่รู้ตัว สังเกตง่ายครับ โรคนี้ทำให้คุณขี้โมโห โกรธง่าย มองคนในแง่ลบ รู้สึกว่าชีวิตเหนื่อยล้า มักจะเกิดกับคนที่ต้องทำงานกับคอมพ์ตลอดเวลา พฤติกรรมที่เห็นได้ชัดคือ ยามที่คุณพูดคุยกับใคร มักต้องการการตอบสนองกลับที่รวดเร็วทันใจ ถามปุ๊บอยากให้เขาตอบปั๊บ เหมือนกดรีโมตสั่งได้ อยากให้รอบข้างเร็วเหมือนเทคโนโลยี

ปัญหาความเครียดจากเทคโนโลยี ที่ว่าจะสัมพันธ์กับการเปลี่ยนงานในวงการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ มีหลายคนเกษียณตัวเองก่อนวัยสมควร หรือมีเปลี่ยนงานบ่อย และมีส่วนทำให้คนที่เป็นโรคนี้หันไปพึ่งพาเหล้า และบุหรี่มากขึ้น นั่นหมายความว่า อาจจะทำให้คุณติ๊ด...ติด อย่างอื่นเพิ่มมาอีก

ความเครียดเกิดจากหลายสาเหตุ เวลา...คือสาเหตุหลัก จากงานวิจัยเมื่อต้นปี 2549 ของ กลอเรีย มาร์ก และวิคเตอร์ กอนซาเลซ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียบอกว่า โดยทั่วไปคนในออฟฟิศมีเวลาจัดการงานส่วนตัวแต่ละคนแค่ 11 นาที ก่อนจะถูกรบกวนโดยสภาวะแวดล้อมรอบข้าง อย่างมีเพื่อนมาติดต่องาน โทรศัพท์เข้า ฯลฯ และตลอดทั้งวันคุณจะสูญเสียเวลาเฉลี่ยกว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่ได้ทำงาน นั่นทำให้หลายคนมีงานค้างเยอะขึ้นอีก และยิ่งหันไปพึ่งพาเทคโนโลยี ต้นเหตุความเครียดมากขึ้นอีก โหย...ฟังดูแย่ครับ

ถ้าใครสงสัยตัวเองว่าเป็นหรือเปล่า ดร.มิเชล เอ็ม. เวล ให้แนวทางสังเกต เช็กตัวเองดังนี้
1.ตัวคุณนอนหลับพักผ่อนน้อยกว่าปกติ ยอมนอนดึกหรือว่าตื่นเช้าเพื่อมานั่งขลุกหน้าคอมพิวเตอร์

2.ชอบอยู่บ้านเล่นคอมพ์มากกว่าออกไปข้างนอก หรือเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับคอมพ์ และเน็ตมากในแต่ละเดือน

3.คุยกับเพื่อนออนไลน์ได้เป็นวันๆ แม้จะไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนก็ตาม หรือพยายามหลบหลีกซ่อนเร้นไม่ให้ใครเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ยามใช้งาน

4.คนที่รับอีเมลมากมายในแต่ละวัน บางคนไปเที่ยวพักผ่อน ต้องพกโน้ตบุ๊ก หรือเทคโนโลยีเยอะไปด้วย อยากจะเช็กอีเมลตลอดเวลา

ถ้าคุณเป็นอย่าง 4 ข้อที่ว่า โอ้ย...โดนตั้งแต่โรคแรกเลย คงต้องห่างๆ จากกิจกรรมหน้าคอมพ์บ้างแล้วครับ

โรคต่อมา โรคติดทำหลายสิ่งพร้อมกัน (Multitasking Madness) เช่น มือหนึ่งคุยโทรศัพท์ อีกมือคลิกเมาส์ หูอีกข้างฟังไอพอด โว้ว...ใช่คุณหรือเปล่า เพราะกำลังเกิดขึ้นกับคนไอทียุคนี้

จากการวิจัยของกลุ่มฟอร์จูนวันเธาซัน (Fortune 1000) พนักงานในองค์กรต่างๆ ระดับโลก เฉลี่ยแล้วได้รับอีเมลวันละ 178 ฉบับ คิดดูสิครับ...เขาจะเหลือเวลาไปจัดการงานในแต่ละวันสักกี่มากน้อย ยิ่งกว่านั้น หลายคนไม่ได้ทำงานแค่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นครับ หอบงานใส่ทัมป์ไดรฟ์ หรือโน้ตบุ๊กกลับไปบ้าน เอาเวลาครอบครัวมาจัดการงานออฟฟิศอีกต่างหาก แถมการจัดการงานในเวลาจำกัด ทำให้หลายคนทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เลยเป็น มัลติทาสกิง แมดเนส (Multi-Tasking Madness) ไงครับท่าน

งานวิจัยของศาสตราจารย์ เดวิด เมเยอร์ จาก มหาวิทยาลัยมิชิแกน ทดลองให้นักศึกษาจำนวนหนึ่งหาคำตอบจากสูตรคณิตศาสตร์โดยมีการสับเปลี่ยนปัญหาแบบกะทันหัน เช่น จากการคูณเป็นหารทันที ผลปรากฏว่านักศึกษาใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะหาคำตอบได้ นั่นพิสูจน์ว่ามนุษย์เรามีข้อจำกัดในการทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในงานต่อหนึ่งอย่างลดลง แม้จะสามารถฝึกและทำให้เกิดประโยชน์ได้ก็จริง แต่ก็มีข้อจำกัด เมื่อถึงขีดสุดระดับหนึ่ง ฉะนั้นลดการทำอะไรพร้อมกันยามใช้เทคโนโลยีเถิดครับ

โรคสุดท้ายของพวกติด...เทคโนโลยี คือ คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต แอดดิกชัน (Computer And Internet Addiction)

เกม ห้องแชต เว็บบอร์ด และอีเมล ทำให้เราใกล้ชิดโลกไซเบอร์อยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ห่างเหินจากสังคมปกติ และยากจะปรับตัวเข้ากับคนอื่น บ่อยครั้งที่มีความคิดที่จะพึ่งพาเทคโนโลยีตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดใจถ้าจะต้องหยุดใช้งาน นั่นเป็นข้อสรุปของงานวิจัยสากลในช่วง 10 ปีมานี้ และนักวิจัย เรียกคนกลุ่มที่ติดคอมพ์และเน็ตนี้ว่า เทคโนซิส

เมื่อ 2 ปีก่อน กองทัพทหารฟินแลนด์ต้องยอมให้เลื่อนการรับบรรดาหนุ่มๆ ที่จะเข้ารับราชการทหารออกไปถึง 3 ปี เพื่อรักษาโรคติดเกมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้หายเสียก่อน ขณะที่รัฐบาลจีนเปิดคลินิกรักษาโรคติดเกมออนไลน์และแชตรูม ในปักกิ่ง เพราะเด็กวัยรุ่น และหนุ่มสาว มากมายคลั่งเทคโนโลยี

อาการและพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือ รู้สึกเครียด กังวลเมื่อไม่ได้เช็กอีเมล รู้สึกหงุดหงิดร้อนใจเวลาหาตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินไม่เจอ ทั้งๆ ที่อาจจะมีเคาน์เตอร์ในธนาคารให้บริการก็ตาม หรือรู้สึกลำบากเมื่อต้องเขียนหนังสือด้วยมือ และเหนื่อยเมื่อต้องหาข้อมูลการทำรายงาน ทั้งยังรู้สึกว่าตัวเองด้อยเทคโนโลยีกว่าเพื่อน หรือพึ่งพาเทคโนโลยีตลอด และไม่สามารถควบคุมเวลาการใช้งานคอมพ์ได้ มีกิจกรรมร่วมกับคนอื่นน้อยลง ไม่สนใจเพื่อน ครอบครัว กระทั่งละทิ้งการงาน และเรื่องส่วนตัว เพื่อเล่นเน็ต

ว้าว...ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วสิครับ






ที่มา http://www.posttoday.com

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 11 พ.ค. 2552

ไฟโซล่าเซลล์ สปอร์ตไลท์ led Solar light ไฟโซล่า ไฟ solar cell IP67 กันน้ำและป้องกันฟ้าผ่ 10000W รับประกัน30ปี

฿199 - ฿1,358

https://s.shopee.co.th/6pmJMLjlQH?share_channel_code=6


ติด...เทคโนโลยี

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เกาะส่วนตัวน้องปูแดง

เกาะส่วนตัวน้องปูแดง


เปิดอ่าน 7,542 ครั้ง
พูดคล่องเหมือนล่องน้ำ

พูดคล่องเหมือนล่องน้ำ


เปิดอ่าน 7,555 ครั้ง
"น้ำข้าวกล้องงอก"

"น้ำข้าวกล้องงอก"


เปิดอ่าน 7,534 ครั้ง
ระวังคนหลอกลวง

ระวังคนหลอกลวง


เปิดอ่าน 7,545 ครั้ง
ผู้ให้อภัยคือผู้ชนะ

ผู้ให้อภัยคือผู้ชนะ


เปิดอ่าน 7,568 ครั้ง
"นาฬิกาชีวิต"

"นาฬิกาชีวิต"


เปิดอ่าน 7,553 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

000 ชีวิตนับหนึ่งได้เสมอ 000(2)

000 ชีวิตนับหนึ่งได้เสมอ 000(2)

เปิดอ่าน 7,548 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คำขวัญวันเอดส์โลก เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531-2551 (1988-2008) ไทย-อังกฤษ
คำขวัญวันเอดส์โลก เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531-2551 (1988-2008) ไทย-อังกฤษ
เปิดอ่าน 7,573 ☕ คลิกอ่านเลย

ข่าวดีสำหรับผู้ที่ชอบกินปลาหมึก
ข่าวดีสำหรับผู้ที่ชอบกินปลาหมึก
เปิดอ่าน 7,583 ☕ คลิกอ่านเลย

บทคัดย่อ การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน
บทคัดย่อ การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน
เปิดอ่าน 7,534 ☕ คลิกอ่านเลย

สาวเปรี้ยวกับสาวเรียบร้อย
สาวเปรี้ยวกับสาวเรียบร้อย
เปิดอ่าน 7,576 ☕ คลิกอ่านเลย

แปลก!!...แต่จริง นกร้องเหมี๊ยวๆได้..มาดูความน่ารักของนกกันเถอะค่ะ
แปลก!!...แต่จริง นกร้องเหมี๊ยวๆได้..มาดูความน่ารักของนกกันเถอะค่ะ
เปิดอ่าน 7,549 ☕ คลิกอ่านเลย

คุณลักษณะของผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์
คุณลักษณะของผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์
เปิดอ่าน 7,549 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

16 กันยายน วันโอโซนโลก
16 กันยายน วันโอโซนโลก
เปิดอ่าน 15,089 ครั้ง

พ่อแม่สามารถส่งความรู้สึกให้ลูกก่อนเกิดได้
พ่อแม่สามารถส่งความรู้สึกให้ลูกก่อนเกิดได้
เปิดอ่าน 8,666 ครั้ง

ภัยจากการไม่กินผัก
ภัยจากการไม่กินผัก
เปิดอ่าน 11,423 ครั้ง

สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์
สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์
เปิดอ่าน 14,732 ครั้ง

คู่ชิดวิทย์สร้างสรรค์ คู่ขวัญ  "สงกรานต์… ดินสอพอง"
คู่ชิดวิทย์สร้างสรรค์ คู่ขวัญ "สงกรานต์… ดินสอพอง"
เปิดอ่าน 3,144 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ