ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน ทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน

ทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน

ชั้นอนุบาลปีที่ 3

ผู้วิจัย นางทองระ สุขสันต์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านทรายทอง) สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก

จังหวัดนราธิวาส

ปีที่วิจัย พ.ศ. 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาล ปีที่ 3 สรุปสาระที่ได้จากการวิจัย โดยมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ (1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ (4) เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยมีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 (Implement : l) และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 (Evaluation : E) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบไปด้วย ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t – test (Independent Sample t – test)

ผลการวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้

1.1 ขั้นจุดประกายแนวคิด (Stimulation) เป็นขั้นที่เด็กได้รับการกระตุ้นให้สนใจ ด้วยสื่อที่เป็นของจริง ภาพ นิทานที่เหมาะสมกับวัย โดยให้ใช้คำถามให้ค้นหาคำตอบเพื่อกระตุ้นให้เด็กใช้เหตุผลและสืบค้น แสวงหาความรู้เพื่อให้ได้คำตอบนั้น

1.2 ขั้นร่วมด้วยช่วยกันคิด (Cooperation) เป็นขั้นที่ให้เด็กทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก กลุ่มละ 4-5 คน เพื่อร่วมกันค้นหาคำตอบของกลุ่มจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พิจารณา ข้อมูลที่ได้รับโดยใช้ประสาทสัมผัสในการสำรวจ สังเกต หรือทดลองและสรุปข้อมูล ซึ่งครูจะเข้าไปช่วยเหลือแนะนำเมื่อเด็กเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ

1.3 ขั้นนำเสนอแนวความคิด (Presentation) เป็นขั้นที่เด็กนำเสนอผลการเรียนรู้ จากสิ่งที่ค้นพบโดยการออกมาเล่าหน้าชั้นเรียนจัดแสดงผลงานของกลุ่มบนป้ายนิเทศหรือ มุมแสดงผลงาน แลกเปลี่ยน เรียนรู้กับเพื่อนกลุ่มอื่น

1.4 ขั้นประยุกต์แนวคิดและนำไปใช้ (Application) เป็นขั้นที่เด็กนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ โดยครูใช้คำถามให้เด็กหาคำตอบจากเหตุการณ์ใหม่ที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์เดิมซึ่งเด็กตอบได้ หลากหลายวิธี เช่น การเล่าหรือสร้างผลงานใหม่ ครูสังเกตการให้เหตุผลของเด็ก ในการนำ ความรู้หรือประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ในสถานการณ์ใหม่

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00- 4.80) และความคิดเห็นของครูปฐมวัยต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีผลประเมินโดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 2.70, S.D. = 0.47)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของรูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทำให้นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาเพิ่มขึ้น

4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้

1) นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความสามารถในทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์หลังใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ถือว่าผ่านเกณฑ์

2) นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ถือว่าผ่านเกณฑ์

3) นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ถือว่าผ่านเกณฑ์

โพสต์โดย ศิริ : [5 ก.พ. 2562 เวลา 17:10 น.]
อ่าน [4959] ไอพี : 223.206.251.50
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,400 ครั้ง
พนักงานล้างจาน ระดับเทพ ล้างจานเร็ว
พนักงานล้างจาน ระดับเทพ ล้างจานเร็ว

เปิดอ่าน 4,603 ครั้ง
เงินเฟ้อ คืออะไร
เงินเฟ้อ คืออะไร

เปิดอ่าน 10,915 ครั้ง
เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย "10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง"
เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย "10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง"

เปิดอ่าน 2,449 ครั้ง
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด

เปิดอ่าน 31,130 ครั้ง
เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นที่ 1
เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นที่ 1

เปิดอ่าน 17,406 ครั้ง
คลิปฮือฮา-ชื่นชม "เณรน้อย" เทศนาสอนเรื่องแม่
คลิปฮือฮา-ชื่นชม "เณรน้อย" เทศนาสอนเรื่องแม่

เปิดอ่าน 215,774 ครั้ง
สรุปสูตรพาราโบลา
สรุปสูตรพาราโบลา

เปิดอ่าน 39,113 ครั้ง
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC

เปิดอ่าน 3,717 ครั้ง
เลือก "เคาน์เตอร์ครัว" ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำครัว
เลือก "เคาน์เตอร์ครัว" ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำครัว

เปิดอ่าน 23,449 ครั้ง
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น

เปิดอ่าน 11,934 ครั้ง
ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง
ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง

เปิดอ่าน 387,885 ครั้ง
Adverbs ( กริยาวิเศษณ์ ) Types (ชนิดของกริยาวิเศษณ์ )
Adverbs ( กริยาวิเศษณ์ ) Types (ชนิดของกริยาวิเศษณ์ )

เปิดอ่าน 49,224 ครั้ง
ความหมายของคำว่า แม่
ความหมายของคำว่า แม่

เปิดอ่าน 14,493 ครั้ง
เจ๋ง! วิธีทำหน้าจอคอมฯ ให้มีแต่คนที่ใส่แว่นเท่านั้นที่เห็น
เจ๋ง! วิธีทำหน้าจอคอมฯ ให้มีแต่คนที่ใส่แว่นเท่านั้นที่เห็น

เปิดอ่าน 20,405 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู

เปิดอ่าน 80,093 ครั้ง
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร
เปิดอ่าน 11,968 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เปิดอ่าน 29,442 ครั้ง
กฎระเบียบการเดินทางไปต่างประเทศ
กฎระเบียบการเดินทางไปต่างประเทศ
เปิดอ่าน 38,812 ครั้ง
ความหมายยันต์
ความหมายยันต์
เปิดอ่าน 9,540 ครั้ง
รู้หรือยัง? เจ้าของเสียงประกาศบน BTS คือใคร
รู้หรือยัง? เจ้าของเสียงประกาศบน BTS คือใคร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ