|
|
ผู้วิจัย นางสาวพาตีเมาะ หะยี
จากผลการศึกษาที่พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านต้นทุเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มีคะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนของนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 13.82 คิดเป็นร้อยละ 46.07 และคะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนคะแนนเฉลี่ย 25.11 คิดเป็นร้อยละ 83.69 โดยคะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนผลการศึกษาที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากเหตุผล สำคัญดังนี้ 1) ในแบบฝึกที่สร้างขึ้นมีคำแนะนำในการใช้แบบฝึก มีเนื้อหาใบความรู้ที่มีเนื้อหาเข้าใจ ง่าย และแบบฝึกที่สอดคล้องกับเนื้อหา เห็นภาพชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุพรรษาทิพย์เที่ยงแท้ (2557) ที่พบว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังจากใช้แบบฝึกสูงกว่าก่อนใช้ เนื่องจากแบบฝึกมีเนื้อหาความรู้ที่ทำให้นักเรียนเกิดความเข้าใจสามารถสื่อสารด้วยการอังกฤษได้เป็นอย่างดี 2) การใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนมีความเพลิดเพลินในการเรียน ทำให้มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น สอดคล้องกับการศึกษาของ สยามรัฐ ลอยพิมาย และชัยวัฒน์ วารี (2558) และ รัชดาวัลย์ ศรีวรกุล (2558) ที่พบว่า นักเรียนมีผลการทดสอบหลังเรียนด้วยแบบฝึกที่พัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนเรียน เนื่องจากการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนเรียนด้วยความสนุกสนาน เพิ่มความสนใจในเนื้อหา อันส่งผลทำให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้แบบฝึกสูงขึ้น 3) แบบฝึกเสริมทักษะที่พัฒนาขึ้น ได้ผ่านการตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหา และภาษาที่ใช้ โดยผู้เชี่ยวชาญ ทาให้นักเรียน เรียนรู้อย่างมีความหมาย สอดคล้องกับ นิตยภัทร์ ธาราสุข (2558) และ รัชดาวัลย์ ศรีวรกุล (2558) ที่พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังจากใช้แบบฝึกสูงกว่าก่อนใช้ เนื่องจากแบบฝึกที่สร้างขึ้นผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญทำให้นักเรียนสามารถเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้อาจเป็นเพราะผู้รายงานได้มีการทดลองใช้แบบฝึกที่สร้างขึ้นก่อนการนำมาใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ รัชดาวัลย์ ศรีวรกุล (2558) ที่พบว่าการทดลองใช้แบบฝึกที่พัฒนาขึ้นก่อนการใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่างทำให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่างสามารถเรียนรู้ได้เข้าใจง่าย นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิดการสอนโดยเน้นเนื้อหาสาระที่เน้นว่าการเรียนไม่ได้มุ่งหมายไปที่ภาษาอย่างเดียว แต่ยังเน้นถึงเนื้อหาที่เรียนด้วย นักเรียนต้องสามารถเรียนรู้ภาษาไปพร้อมกับการเรียนรู้เนื้อหา จึงจะทาให้การเรียนเป็นไปอย่างมีความหมายต่อนักเรียน (กรมวิชาการ, 2545)
|
โพสต์โดย ครูมีร่า : [18 ม.ค. 2565 เวลา 17:40 น.] อ่าน [959] ไอพี : 124.122.41.75
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 48,367 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,137 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,462 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 29,646 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,215 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,196 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,958 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,164 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,271 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 6,445 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 41,515 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,597 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 89,194 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 38,294 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,310 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 9,552 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,997 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,065 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,652 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 197,102 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|