ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานชาดก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

รายงานผลการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานชาดก

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

กรมวิชาการ ได้สำรวจการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนพบว่าปัญหาที่สำคัญในการอ่านของผู้เรียนคือ อ่านแล้วจับใจความสำคัญไม่ได้ ไม่สามารถสรุปประเด็นได้ ไม่สามารถแยกความรู้ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ไม่สามารถแยกใจความสำคัญกับใจความรองได้ ทำให้ไม่ได้รับประโยชน์จากการอ่านเท่าที่ควร ทั้งยังเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการเรียนรู้ และการศึกษาวิชาต่าง ๆ ด้วย (กรมวิชาการ, 2546, หน้า 188) เช่นเดียวกับการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านสาด-ผึ้งนาเกลือ อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปางสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ที่พบว่านักเรียนขาดทักษะในการอ่าน โดยอ่านได้แต่ไม่เข้าใจความหมาย อ่านแล้วไม่สามารถสรุปใจความ สรุปประเด็นสำคัญ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นได้และไม่สามารถอ่านโดยวิเคราะห์ได้ ส่งผลให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ จำนวน ๖ คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน ๗ คน ซึ่งมีผลการประเมินทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ ในหน่วยการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีผลการประเมินทักษะการอ่านจับใจความ ต่ำกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนได้ตั้งไว้ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คือ ร้อยละ ๗๐ และมีระดับคุณภาพในระดับปรับปรุง

จากผลการประเมินข้างต้นแสดงให้เห็นว่าสาระการอ่านเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยโดยเฉพาะทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจที่ถือเป็นทักษะเบื้องต้นของการอ่าน

ดังนั้นเพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านสาด-ผึ้งนาเกลือ อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง จึงสร้างกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจด้วยนิทานชาดก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมุ่งหวังจะพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และให้ส่งผลต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาอื่นๆ ให้สูงขึ้นต่อไป

วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

1. ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) เพื่อนำมาวิเคราะห์เชื่อมโยงกับกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจด้วยนิทานชาดก

๒. ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๑ การอ่าน เพื่อนำมาออกแบบกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจด้วยนิทานชาดก

๓. ศึกษาเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจด้วยนิทานชาดก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

๔. ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับนิทานชาดก

๕. ดำเนินการออกแบบกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจด้วยนิทานชาดก จากนิทานชาดกที่คัดเลือกไว้ จำนวน ๑๐ เรื่อง เพื่อนำมาสร้างกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจ จำนวน ๑๐ กิจกรรม

๖. ดำเนินกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจด้วยนิทานชาดก จากนิทานชาดกที่คัดเลือกไว้ จำนวน ๑๐ เรื่อง เพื่อนำมาสร้างกิจกรรมพัฒนาการอ่านเพื่อ

๗. นำสื่อไปทดลองใช้และนำผลที่ได้มาปรับปรุง พัฒนาสื่อการสอน ให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง

๘. นำผลสะท้อนในการใช้สื่อ พัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจ บันทึกข้อมูลคะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อประเมินการเรียนรู้ นำเสนอข้อมูลที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

ผลลัพธ์การพัฒนา

๑. เชิงปริมาณ

๑.๑ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ จำนวน ๖ คน

๑.๒ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน ๗ คน

๒. เชิงคุณภาพ

๒.๑ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีผลคะแนนเฉลี่ยการประเมินทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ เท่ากับ 22.83 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 76.11 ซึ่งอยู่ในระดับดี และสูงกว่าผ่านเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนกำหนด คือ ร้อยละ ๗๐.๐

๒.๒ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มีผลคะแนนเฉลี่ยการประเมินทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ เท่ากับ 22.0 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 73.33 ซึ่งอยู่ในระดับดี และสูงกว่าผ่านเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนกำหนด คือ ร้อยละ ๗๐.๐

โพสต์โดย อัญ : [14 ก.ย. 2565 เวลา 13:58 น.]
อ่าน [62183] ไอพี : 125.27.255.85
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 43,986 ครั้ง
6 ขั้นตอนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานและความผูกพันในองค์กร เพื่อรักษาคนเก่งขององค์กร
6 ขั้นตอนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานและความผูกพันในองค์กร เพื่อรักษาคนเก่งขององค์กร

เปิดอ่าน 14,022 ครั้ง
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี

เปิดอ่าน 10,297 ครั้ง
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค

เปิดอ่าน 13,981 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี

เปิดอ่าน 34,728 ครั้ง
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?

เปิดอ่าน 10,910 ครั้ง
หมดยุคหลอดไฟของ"โทมัส เอดิสัน"แล้ว
หมดยุคหลอดไฟของ"โทมัส เอดิสัน"แล้ว

เปิดอ่าน 18,533 ครั้ง
มะละกอ กินเท่าไหร่ไม่เคยพอ
มะละกอ กินเท่าไหร่ไม่เคยพอ

เปิดอ่าน 24,879 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง

เปิดอ่าน 4,073 ครั้ง
ประโยชน์ของน้ำขิง
ประโยชน์ของน้ำขิง

เปิดอ่าน 12,687 ครั้ง
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน

เปิดอ่าน 31,200 ครั้ง
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ

เปิดอ่าน 12,567 ครั้ง
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก

เปิดอ่าน 934 ครั้ง
Radiesse คืออะไร? รู้จักนวัตกรรมฉีดผิวช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
Radiesse คืออะไร? รู้จักนวัตกรรมฉีดผิวช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

เปิดอ่าน 57,923 ครั้ง
เคยสงสัยไหมว่า เขาลักลอบตัด"ไม้พะยูง"ไปทำอะไรกัน??
เคยสงสัยไหมว่า เขาลักลอบตัด"ไม้พะยูง"ไปทำอะไรกัน??

เปิดอ่าน 46,691 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 15 การเตะโทษ ณ จุดโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 15 การเตะโทษ ณ จุดโทษ

เปิดอ่าน 22,316 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
เปิดอ่าน 13,972 ครั้ง
หักดิบเลิกบุหรี่.. แพทย์ยืนยันได้ผลดีกว่าลด
หักดิบเลิกบุหรี่.. แพทย์ยืนยันได้ผลดีกว่าลด
เปิดอ่าน 10,623 ครั้ง
ทำยังไงถึงจะยังหนุ่มสาว
ทำยังไงถึงจะยังหนุ่มสาว
เปิดอ่าน 23,649 ครั้ง
บอกเล่า"ปาฏิหาริย์" สมเด็จพระสังฆราช
บอกเล่า"ปาฏิหาริย์" สมเด็จพระสังฆราช
เปิดอ่าน 18,715 ครั้ง
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ