ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

สำคัญ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ขณิฐา ชาปู่ : การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน

และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 . 300 หน้า

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3. เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4. เพื่อประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ในประเด็นต่อไปนี้ 4.1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 4.2 เพื่อศึกษาความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 2 ห้องเรียน รวม 73 คน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 1 ห้องเรียน จำนวน 35 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีจับสลาก โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาความต้องการและข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) วิเคราะห์หลักการ สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดชั้นปี ผู้วิจัยจึงจัดให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 ชุด เวลา 17 ชั่วโมง เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามหลักการ จุดมุ่งหมาย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) โดยองค์ประกอบของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีดังนี้ 1) ชื่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) คำชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) แผนการจัดการเรียนรู้ ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA Model 5) สื่อประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 6) เครื่องมือวัดประเมินผล 7) แบบทดสอบท้ายชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 8) แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่าผู้วิจัยได้พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ขึ้นมา 6 ชุด ประกอบด้วย 1. อัตราส่วนและอัตราส่วนที่เท่ากัน 2. อัตราส่วนของจำนวนหลาย ๆ จำนวน 3. สัดส่วน 4. การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสัดส่วน 5. ร้อยละ 6. การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับร้อยละ จากนั้นผู้วิจัยหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้พบว่าขั้นทดลองแบบรายบุคคล (One–to–one Try out) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA Model เรื่อง อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 67.85/68.89 ขั้นทดลองแบบกลุ่มเล็ก (Small group Try out) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 77.96/78.15 และขั้นทดลองแบบภาคสนาม (Field Try out) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพ 81.33/81.78 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80

3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กับกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีประสิทธิภาพ 82.05/83.71 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 และเป็นไปตามสมมติฐานข้อ 1

4. ผลการประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้นำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้ กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 4.1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีผลคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อ 2 4.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจ พบว่านักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.48 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.02 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก

โพสต์โดย ิbaimon : [21 ก.ย. 2565 เวลา 06:40 น.]
อ่าน [65478] ไอพี : 110.77.180.195
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,349 ครั้ง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง

เปิดอ่าน 28,547 ครั้ง
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม

เปิดอ่าน 15,006 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)

เปิดอ่าน 43,324 ครั้ง
Verbs: Moods
Verbs: Moods

เปิดอ่าน 14,480 ครั้ง
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้

เปิดอ่าน 13,327 ครั้ง
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?

เปิดอ่าน 11,995 ครั้ง
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต

เปิดอ่าน 15,869 ครั้ง
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน

เปิดอ่าน 11,452 ครั้ง
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

เปิดอ่าน 2,991 ครั้ง
ENNXO ชวนชิม 5 ร้านอาหารเซ็นทรัลเวิลด์ Central World อร่อยถูกใจแน่นอน
ENNXO ชวนชิม 5 ร้านอาหารเซ็นทรัลเวิลด์ Central World อร่อยถูกใจแน่นอน

เปิดอ่าน 5,678 ครั้ง
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน

เปิดอ่าน 17,016 ครั้ง
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร

เปิดอ่าน 15,665 ครั้ง
เผยโฉมสาวงามทั่วโลกชิง มิสยูนิเวิร์ส 2009
เผยโฉมสาวงามทั่วโลกชิง มิสยูนิเวิร์ส 2009

เปิดอ่าน 5,621 ครั้ง
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA

เปิดอ่าน 61,075 ครั้ง
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย

เปิดอ่าน 45,542 ครั้ง
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
เปิดอ่าน 11,107 ครั้ง
LINE ขู่ หากพบส่งข้อความหลอกให้แชร์ โดนระงับบัญชีถาวรแน่
LINE ขู่ หากพบส่งข้อความหลอกให้แชร์ โดนระงับบัญชีถาวรแน่
เปิดอ่าน 18,032 ครั้ง
เดจาวู! ทฤษฎีภาพซ้อน หรือ ย้อนอดีต!
เดจาวู! ทฤษฎีภาพซ้อน หรือ ย้อนอดีต!
เปิดอ่าน 14,626 ครั้ง
การบวกเมตริก
การบวกเมตริก
เปิดอ่าน 23,877 ครั้ง
ประเพณีการทำบุญในวันสงกรานต์
ประเพณีการทำบุญในวันสงกรานต์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ