ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคำของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5

ภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความสำคัญ และจำเป็นในการสื่อสารของมนุษย์ การสื่อสารของมนุษย์ใช้ทักษะที่สำคัญหลายทักษะที่จำเป็นได้แก่ ฟัง พูด อ่าน และเขียน

แต่ในปัจจุบันทักษะการอ่านเป็นทักษะที่มักจะประสบปัญหาและทำให้ทักษะด้านอื่น ๆ ได้รับผลกระทบด้วยอย่างต่อเนื่อง สาเหตุดังกล่าวทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่ายต่อการเรียนรู้วิชาภาษาไทย

ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคำสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 โรงเรียนอนุบาลปทุมธานี ภาคเรียนที่ 2

ปีการศึกษา 2559 โดยใช้นักเรียนจำนวนทั้งหมด 30 คน ทำแบบฝึกอ่าน และแบบฝึกหัดสะกดคำ จำนวน 5 ชุดกิจกรรม โดยบันทึกคะแนนเป็นตาราง และสรุปผลการเปรียบเทียบการอ่าน และสะกดคำเป็นความเรียง

ผลการศึกษาครั้งนี้ ปรากฏว่าการใช้แบบฝึกอ่าน และแบบสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 นักเรียนสามารถอ่าน และทำแบบสะกดคำ คิดค่าเฉลี่ยร้อยละ 90.35

ข้อเสนอแนะจากการทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การส่งเสริมทักษะการอ่าน สะกดคำ นักเรียนจะสามารถทำงานได้ดี เมื่อมีการเสริมแรงจากการใช้คำยกย่องชมเชยจากครู และทำอย่างต่อเนื่อง

เรื่อง การส่งเสริมการอ่านสะกดคำของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4

ความสำคัญ และที่มา

ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติไทยที่จำเป็นในการสื่อสารของมนุษย์ การสื่อสารของมนุษย์ใช้ทักษะที่สำคัญหลายทักษะ เช่น ฟัง พูด อ่าน เขียน

แต่ในปัจจุบันวิชาภาษาไทย จะประสบกับปัญหานักเรียนขาดทักษะการอ่าน ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสำคัญ และไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง จากการสังเกตของครูผู้สอนวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 นักเรียนบางคนยังอ่านคำที่มีสระประสมไม่ถูกต้อง สาเหตุดังกล่าวทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่ายต่อการเรียนวิชาภาษาไทยในระดับชั้นของตนเอง ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนในระดับต่อไป จึงทำให้มีการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การส่งเสริมการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 เมื่อแก้ปัญหาการอ่านที่เกิดขึ้น

จุดมุ่งหมายของการวิจัย

เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคำให้ได้มากขึ้น

ตัวแปรที่ศึกษา

จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จำนวน 30 คน

กรอบแนวคิดในการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อส่งเสริมการอ่าน สะกดคำวิชาภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จำนวน 30 คน ผู้วิจัยได้ทำแบบฝึกอ่าน สะกดคำเกี่ยวกับวิชาภาษาไทย ซึ่งมีความยากง่ายกับระดับชั้นของนักเรียนจำนวน 5 ชุด กิจกรรม และใช้การเสริมแรงโดยใช้การยกย่องชมเชย และให้คะแนนระหว่างทำกิจกรรม เพื่อพัฒนาการอ่าน สะกดคำให้สูงขึ้น

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. นักเรียนอ่านสะกดคำได้ถูกต้อง

2. มีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านสะกดคำสูงขึ้น

3. นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในเรื่องการอ่านได้

ขอบเขตการวิจัย

ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นการสร้างแบบฝึกเพื่อส่งเสริมการอ่านสะกดคำวิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก 5 ชุดกิจกรรม เพื่อพัฒนาการอ่านสะกดคำ ในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 มีขอบเขตการวิจัยครั้งนี้

1. จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จำนวน 30 คน

2. เนื้อหาวิชาภาษาไทย การอ่านสะกดคำ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 ชุด

กิจกรรม

วิธีดำเนินการวิจัย

ระยะเวลาในการดำเนินงาน การดำเนินการ

11.-13 ม.ค. 60 ศึกษาสภาพปัญหา และวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา

17-20 ม.ค. 60 ฝึกการอ่านโดยใช้ชุดกิจกรรม 1,2

23-27 ม.ค. 60 ทดสอบความสามารถในการอ่านสะกดคำ โดยใช้ชุดกิจกรรม 1, 2 (ผู้วิจัยทำการบันทึกคะแนน)

1 -6 ก.พ. 60 ฝึกการอ่านโดยใช้ชุดกิจกรรม 3,4,5

7-10 ก.พ. 60 ทดสอบความสามารถในการอ่านสะกดคำ โดยใช้ชุดกิจกรรม 3,4,5 (ผู้วิจัยทำการบันทึกคะแนน)

15-17 ก.พ. 60 สรุปวิเคราะห์ผลการวิจัย

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1. ชุดกิจกรรมฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ จำนวน 5 ชุด

2. การเสริมแรงระหว่างปฏิบัติกิจกรรมคำยกย่องชมเชยการให้คะแนน

3. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้วิจัยได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนจำนวน 30 คน จากการอ่านแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ มีจำนวนทั้งหมด 5 ชุดกิจกรรม

ชุดกิจกรรมที่ 1 ชุดทักษะการอ่านสะกดคำ และทำแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำได้คิดเป็นร้อยละ 47.56

ชุดกิจกรรมที่ 2 ชุดทักษะการอ่านสะกดคำ สระโอะ มีตัวสะกดนักเรียนสามารถอ่าน และทำแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำได้คิดเป็นร้อยละ 52.70

ชุดกิจกรรมที่ 3 ชุดทักษะการอ่านสะกดคำ สระเอะ มีตัวสะกด นักเรียนสามารถและทำแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำได้คิดเป็นร้อยละ 56.48

ชุดกิจกรรมที่ 4 ชุดทักษะการอ่านสะกดคำ สระเออ นักเรียนสามารถอ่าน และทำแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำได้คิดเป็นร้อยละ 58.37

ชุดกิจกรรมที่ 5 ชุดทักษะการอ่านสะกดคำ สระอัว นักเรียนสามารถอ่านและทำแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำได้คิดเป็นร้อยละ 61.08

สรุปผลการศึกษาวิจัย

จากการศึกษา และวิเคราะห์คะแนนที่ได้จากการทำชุดกิจกรรม เกี่ยวกับทักษะการอ่านสะกดคำของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 ในครั้งที่ 1 คิดค่าร้อยละ ได้เท่ากับ 75.68 และครั้งที่ 2 คิดได้ค่าร้อยละ 89.90 แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีพัฒนาด้านการอ่าน สะกดคำเพิ่มขึ้นจากเดิม นักเรียนสามารถทำคะแนนได้ดีตามลำดับเป็นที่น่าพอใจ และจากการวิเคราะห์ผลการทดสอบเป็นรายบุคคลยังพบว่ามีนักเรียนที่เรียนอ่อนเท่านั้นที่คะแนนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะต้องมีการวิเคราะห์เป็นรายบุคคลต่อไป

การเสริมแรงขณะปฏิบัติกิจกรรมช่วยให้นักเรียนมีกำลังใจ และทำงานได้คะแนนดีขึ้น

ข้อเสนอแนะ

1. การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ อาจใช้รูปแบบอื่นนอกจากชุดกิจกรรมชุดที่

1-5 โดยอาจจะทำได้ในรูปของการเขียนตามคำบอก หรือการจับคู่โยงภาพกับคำก็ตามความเหมาะสม

2. การให้กำลังใจ คำยกย่อง ชมเชย ช่วยให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนมากขึ้น

โพสต์โดย ครูสร้อย : [20 ก.ย. 2566 เวลา 07:25 น.]
อ่าน [63416] ไอพี : 58.8.150.9
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,090 ครั้ง
แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย

เปิดอ่าน 72,717 ครั้ง
วงจรไฟฟ้า
วงจรไฟฟ้า

เปิดอ่าน 18,066 ครั้ง
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ

เปิดอ่าน 9,199 ครั้ง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง

เปิดอ่าน 11,115 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเยาวชนสู่การเป็นนักประดิษฐ์ พ.ศ.2556
แนวทางการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเยาวชนสู่การเป็นนักประดิษฐ์ พ.ศ.2556

เปิดอ่าน 4,403 ครั้ง
ประโยชน์ของขมิ้นชัน
ประโยชน์ของขมิ้นชัน

เปิดอ่าน 11,073 ครั้ง
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ

เปิดอ่าน 105,893 ครั้ง
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)

เปิดอ่าน 47,038 ครั้ง
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม

เปิดอ่าน 123,328 ครั้ง
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!

เปิดอ่าน 14,369 ครั้ง
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม
โรคความดันโลหิตสูง รักษาได้ แค่หลีกให้ไกลจากโซเดียม

เปิดอ่าน 9,872 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 35,928 ครั้ง
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ

เปิดอ่าน 11,188 ครั้ง
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร

เปิดอ่าน 13,233 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย

เปิดอ่าน 5,678 ครั้ง
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
เปิดอ่าน 15,767 ครั้ง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง
เปิดอ่าน 14,940 ครั้ง
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!
เปิดอ่าน 14,497 ครั้ง
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว
เปิดอ่าน 16,949 ครั้ง
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ