บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนาการบริหารงานตามแนวทางสะเต็มศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ หนองบัวลำภู สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาครูให้มีความรู้เข้าใจด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา (2) ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ สะเต็มศึกษา (3) ประเมินการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการวิจัยเป็นพนักงานครูเทศบาล โรงเรียนเทศบาล ๑ หนองบัวลำภู สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ปีการศึกษา 2567 จำนวน 14 คน
ระยะเวลาการวิจัยระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 โดยแบ่งเป็น 2 วงรอบ ดังนี้
วงรอบที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567
วงรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567
เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย
(1) แบบทดสอบ เรื่อง การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา
(2) แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา
(3) แบบประเมินการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา
สรุปผลการวิจัย
การวิจัยดำเนินการตามกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ จำนวน 2 วงรอบ โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา แล้วดำเนินการนิเทศภายในตามกิจกรรมประเมินแผนการจัดการเรียนรู้และกิจกรรมประเมินการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา เพื่อให้การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และการจัดทำสะเต็มศึกษามีความถูกต้องสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ ข้อมูลจากแบบประเมินในการปฏิบัติการ ซึ่งผู้วิจัยได้นำมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ไขในวงจรต่อไป
วงรอบที่ 1
1.ครูมีคะแนนทดสอบความรู้เข้าใจ เรื่อง การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา ก่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษาได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 11.36
2.ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา โดยรวมทั้ง 6 ด้าน มีความถูกต้องเหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง( x̄= 2.59) ซึ่งแสดงว่าครูสามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาได้อย่างถูกต้องเหมะสมในระดับปานกลาง ซึ่งยังมีบางประเด็นที่ควรปรับปรุงแก้ไข ให้มีความถูกต้องควรดำเนินการพัฒนาปรับปรุงต่อไป
3. ผลการประเมินการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษาโดยรวมทั้ง 20 รายการ มีความถูกต้องเหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง ( x̄= 2.57) ซึ่งแสดงว่าครูสามารถจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษาได้ในระดับปานกลาง ซึ่งยังมีบางประเด็นที่ควรปรับปรุงแก้ไข
วงรอบที่ 2
1.ครูมีคะแนนทดสอบความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา หลังการอบรมเชิงปฏิบัติการสูงกว่าก่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษาได้อย่างถูกต้อง และเกิดความมั่นใจในการนำไปใช้สอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษา โดยรวมทั้ง 6 ด้าน มีความถูกต้องเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.41) ซึ่งแสดงว่าครูสามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษาได้อย่างถูกต้องสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้เหมาะสมตามระดับชั้นและวัยของนักเรียน
3.ผลการประเมินการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบสะเต็มศึกษาโดยรวมทั้ง 20 รายการ มีความถูกต้องเหมาะสมอยู่ในระดับมาก( x̄= 4.35) ซึ่งแสดงว่าครูสามารถจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตั้งชื่อเรื่องที่จะทำสะเต็ม ออกแบบสะเต็ม ลงมือทำสะเต็ม เขียนรายงานนำเสนอสะเต็ม และวัดประเมินผลสะเต็มได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างแท้จริง