ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สังข์ทอง


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,283 ครั้ง
สังข์ทอง

Advertisement

 

                                 สังข์ทอง

สังข์ทอง

เรื่องย่อทั้งหมด

******

 

กาลปางก่อน มีพระเจ้าพรหมทัต(ท้าวยศวิมล) ครองเมืองพรหมนคร

(เมืองยศวิมล)  พระเจ้าพรหมทัตมีมเหสีสององค์  มเหสีฝ่ายขวา ชื่อพระนางจันทราเทวี  (นางจันเทวี)    มเหสีฝ่ายซ้าย  ชื่อพระนางสุวรรณจัมปากะ (นางจันทา)    พระเจ้าพรหมทัตโปรดมเหสีฝ่ายซ้ายมาก  ต่อมามเหสีทั้งสองทรงครรภ์ โหรทำนายว่าบุตร  ของมเหสีฝ่ายขวาเป็นชาย  ส่วนมเหสีฝ่ายซ้ายเป็นหญิง   พระนางสุวรรณจัมปากะ  รู้สึกเสียใจที่จะได้ธิดาแทนจะเป็น โอรส และเกรงว่าพระนางจันทราเทวีจะได้ดีกว่า จึงใส่ร้ายพระนางจันทราเทวีจนพระเจ้าพรหมทัตหลงเชื่อขับไล่พระนางจันทราเทวีออกจากพระราชวัง  พระนางจันทราเทวีเดินทางด้วยความยากลำบาก   เมื่อถึงชายป่านอกเมือง  ยายตาสองคนสงสาร จึงชวนให้พักอยู่
                        ด้วยโอรสในครรภ์ของพระนางจันทราเทวีเห็นความยากลำบากของ

พระมารดาจึงแปลงกายเป็นหอยสังข์เพื่อไม่ให้พระมารดาต้องลำบากเลี้ยงดู เมื่อครบกำหนดคลอด    พระนางจันทราเทวีก็คลอดโอรสออกมาเป็นหอยสังข์ ซึ่งพระนางก็รักใคร่ เลี้ยงดูเหมือนลูกมนุษย์

                   วันหนึ่งพระนางจันทราเทวี  ออกจากบ้านไปช่วยตายายเก็บผักหักฟืน       

ลูกน้อยในหอยสังข์ก็ออกจากรูปหอยสังข์ช่วยปัดกวาดบ้านเรือน และหุงหาอาหารไว้ 

พอเสร็จก็กลับเข้าไปในรูปหอยสังข์ตามเดิม   พระนางจันทราเทวี  เมื่อกลับมาก็แปลกใจ  

ว่าใครมาช่วยทำงานและเมื่อนางจันทราเทวีออกจากบ้านไป   ลูกน้อยในหอยสังข์ก็จะออกมาทำงานบ้านให้เรียบร้อยทุกครั้ง พระนางจันทราเทวีอยากรู้ว่าเป็นใคร  วันหนึ่งจึงทำทีออกจากบ้านไปป่าเช่นเคย แต่แล้วก็ย้อยกลับมาที่บ้าน   โอรสในหอยสังข์ก็ออกมาทำงานบ้าน      

พระนางจันทราเทวีเห็นโอรสเป็นมนุษย์ก็ดีใจ   จึงทุบหอยสังข์เสีย    

และกอดโอรสด้วยความยินดี  และตั้งชื่อให้ว่า " สังข์ทอง "

                       เมื่อพระเจ้าพรหมทัต รู้ข่าวว่าพระนางจันทราเทวี ประสูติพระโอรส  ก็ยินดีจะรับพระนางจันทราเทวีกลับ  พระนางสุวรรณจัมปากะเทวี  ริษยาจึงได้เท็จทูล  ว่าพระโอรสเดิมเป็นหอยสังข์   พระเจ้าพรหมทัตก็หลงเชื่อเกรงจะเป็นกาลกิณีต่อ                                               บ้านเมือง  จึงให้อำมาตย์จับพระนางจันทราเทวีและลูกน้อยสังข์ทองใส่แพลอยไป    

เมื่อแพลอนออกทะเลเกิดพายุใหญ่แพแตก พระนางจันทราเทวีถูกคลื่นซัดลอยไปติดที่ชายหาดเมืองมัทราษฎร์
                      พระนางก็เดินทางซัดเซพเนจรไปอาศัยบ้านเศรษฐีเมืองมัทราษฎร์ชื่อ  

ธนัญชัยเศรษฐีและทำหน้าที่เป็นแม่ครัว

                     ฝ่ายพระสังข์ทอง   นั้นจมน้ำลงไปยังนาคพิภพ  พระยานาคมีจิตสงสารจึงเนรมิตเรือทอง แล้วอุ้มพระสังข์ทองใส่ไว้ในเรือ เรือทองลอยไปถึงเมืองยักษ์ซึ่งนางยักษ์พันธุรัตปกครองอยู่  นางยักษ์เห็นพระสังข์ทองในเรือทอง   เกิดความรักใคร่เอ็นดู       

จึงนำพระสังข์ทองมาเลี้ยงดูในปราสาท   และให้พี่เลี้ยงนางนม  แปลงร่างเป็นคน      

เพื่อมิให้พระสังข์ทองหวาดกลัว พระสังข์ทองก็เติบโตอยู่กับนางยักษ์พันธุรัต

                  นางยักษ์พันธุรัตปกติจะต้องออกไปหาสัตว์ป่ากินเป็นอาหาร  เมื่อนางออกไปป่าก็จะไปครั้งละสามวันหรือเจ็ดวัน  ทุกครั้งที่ไป   ก็จะสั่งพระสังข์ทองว่าอย่าขึ้นไปเล่นบนปราสาทชั้นบน  และ ในสวน   พระสังข์ทองก็เชื่อฟัง    แต่เมื่อโตขึ้นก็เกิดความสงสัยอยากรู้  วันหนึ่งเมื่อนางยักษ์พันธุรัตไปป่า   พระสังข์ทองก็แอบไปในสวนส่วนที่ห้ามไว้      เห็นกระดูกสัตว์และคน   เป็นจำนวนมาก    ที่นางยักษ์กินเนื้อแล้วทิ้งกระดูกไว้เป็นจำนวนมาก
                     พระสังข์ทองเห็นเช่นนั้นก็ตกใจ นึกรู้ว่ามารดาเลี้ยงเป็นยักษ์ก็รู้สึกหวาดกลัว  และเมื่อเดินต่อไปเห็นบ่อเงินบ่อทองสวยงาม  พอพระสังข์ทองเอานิ้วก้อยจุ่มลงไปนิ้วก็กลายเป็นสีทอง  พระสังข์ทอง  จึงลงไปอาบทั้งตัวร่างกาย  ก็กลายเป็นสีทองงดงาม     แล้วพระสังข์ทองก็ขึ้นไปบนปราสาทชั้นบน  เห็นเกราะรูปเงาะป่า  เกือกทอง และพระขรรค์ พระสังข์ทองเอาเกราะเงาะป่ามาสวม ก็กลายร่างเป็นเงาะป่า  พอใส่เกือกทองก็รู้สึกว่าลอยได้        

                       พระสังข์ทองจึงหยิบพระขรรค์  แล้วเหาะหนีออกจากเมืองยักษ์      และข้ามแม่น้ำไปยังเมืองตักศิลาตกเย็นจึงพักอยู่ที่ศาลาริมน้ำ

                   ฝ่ายนางยักษ์กลับมาไม่เห็นลูก  และขึ้นไปที่ปราสาทชั้นบน   เห็นเกราะรูปเงาะป่า เกือกทองและพระขรรค์หายไป   ก็รู้ทันทีว่าพระสังข์ทองรู้ว่าตนเป็นยักษ์แล้วหลบหนีไปนางจึงเหาะตามไป เมื่อถึงฝั่งน้ำเห็นพระสังข์ทองพักอยู่   นางไม่สามารถเหาะข้ามไปได้   จึงร้องไห้  อ้อนวอนให้พระสังข์ทองกลับไป     พระสังข์ทองยังหวาดกลัวจึงไม่ยอมกลับ  นางพันธุรัตเสียใจจนหัวใจแตกสลาย แต่ก่อนตายนางก็สอนมนต์หาเนื้อหาปลาให้ พระสังข์ทองแล้วนางก็สิ้นใจตาย  พระสังข์ทองรู้สึกเสียใจมากหลังจากได้จัดเผาศพนางยักษ์   แล้ว พระสังข์ทองก็เหาะเดินทางไปเมืองพาราณสี   และได้ไปอาศัยชาวบ้านช่วยเลี้ยงโค
                    พระสังข์ทองตอนนี้รูปร่างเป็นเงาะป่าพวกเด็กเลี้ยงโคก็มาเล่นสนิทสนมกับพระสังข์ทอง ที่เมืองพาราณสีนี้เจ้าเมืองมีธิดา 7 องค์ เจ้าเมืองคิดจะให้พระธิดาทั้ง  7  องค์ได้ อภิเษกสมรส จึงมีรับสั่งให้ประกาศแก่เจ้าผู้ครองนครต่าง ๆ  ให้ส่งโอรสมาให้พระธิดาเลือกพระธิดาทั้ง 6 องค์ ก็เลือกได้เจ้าชายที่เหมาะสม  แต่พระธิดาองค์สุดท้อง         ชื่อรจนาไม่ยอมเลือกเจ้าชายองค์ใด   เจ้าเมืองพาราณสีทรงกริ้วมากจึงประชดโดยให้อำมาตย์ไปประกาศให้ชายทุกคนในเมือง  ให้เข้ามาในวังให้พระราชธิดาเลือก  พระสังข์ทองในรูปเงาะป่าก็ถูกเกณฑ์เข้ามาด้วย  เมื่อนางรจนาออกมาเลือกคู่ ่ บุญบันดาลให้เห็นรูปทองของพระสังข์ทองแทนที่จะเป็นเงาะป่า นางจึงเลือกเงาะป่า  เจ้าเมืองพาราณสีกริ้วมากขับไล่นางรจนาออกไปอยู่นอกเมือง

                   เจ้าเมืองพาราณสีมีความแค้นเคืองเงาะป่าคิดจะกำจัด  จึงออกคำสั่งให้เขย

ทั้งหกและเงาะป่าไปหาเนื้อมาคนละตัว  ใครหามาไม่ได้จะถูกประหารชีวิตเงาะป่าเข้าไปในป่าถอดรูปเงาะออกแล้วร่ายมนต์เรียกเนื้อ   เนื้อทั้งหลายก็มาอยู่ที่พระสังข์ทอง    

หกเขยหาเนื้อทั้งวันก็ไม่ได ้ จนกระทั่งมาพบพระสังข์ทอง   ซึ่งหกเขยคิดว่าเป็นเทวดา

หกเขยขอเนื้อจากพระสังข์ทอง      พระสังข์ทองให้โดยขอตัดใบหูคนละหน่อย        

หกเขยก็ยอมทั้งหมดก็นำเนื้อไปให้เจ้าเมืองพาราณสี

                   เจ้าเมืองพาราณสียังทำร้ายเงาะป่าไม่ได้ก็แค้นใจ  จึงมีคำสั่งให้เขยทุกคน

หาปลาไปถวาย พระสังข์ทองก็ถอดรูปเงาะป่าแล้วร่ายมนต์เรียกปลา       ปลาก็มาออคับคั่งอยู่ที่พระสังข์ทอง  หกเขยหาปลามาไม่ได้ทั้งวัน   และเมื่อพบปลามาอออยู่ที่พระสังข์

ก็ กราบไหว้อ้อนวอนขอปลา  พระสังข์ทองยกให้โดยขอตัดปลายจมูกหกเขยคนละหน่อยแล้วหกเขยกับเงาะป่านำปลาไปถวายเจ้าเมืองพาราณสี

                   เจ้าเมืองพาราณสีขัดแค้นใจที่ทำอันตรายเงาะป่าไม่ได้  ก็เฝ้าคิดหาวิธีการอื่นที่จะกำจัดเงาะป่า  พระอินทร์บนสวรรค์ทราบถึงการคิดร้ายของเจ้าเมืองพาราณสีต่อเงาะป่า
จึงลงมาช่วย โดยเหาะลงมาลอยอยู่หน้าพระที่นั่งของเจ้าเมืองพาราณสีและกล่าวท้าทาย
ว่าให้เจ้าเมืองพาราณสีหาคนดีมีฝีมือเหาะขึ้นมาตีคลีกับพระอินทร์บนอากาศ ภายในเจ็ด
วันถ้าหาไม่ได้ก็จะฆ่าเจ้าเมืองพาราณสี

                   เจ้าเมืองพาราณสีตกใจมาก  ให้หกเขยและบรรดาเสนาอำมาตย์ช่วยกันหาผู้อาสาเหาะไปตีคลี ทุกคนก็จนปัญญา     เจ้าเมืองพาราณสีจึงให้ป่าวประกาศว่าผู้ใดที่สามารถเหาะไปตีคลี  กับพระอินทร์บนอากาศได้จะยกราชสมบัติให้      แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดมาอาสา นางมณฑาเทวีพระมเหสีของเจ้าเมืองพาราณสี  จึงแอบไปหานางรจนา         และขอให้นางรจนาอ้อนวอนให้เงาะป่าช่วย   เงาะป่าสงสารทั้งสองนางจึงรับปาก และในวันที่เจ็ด เงาะป่าก็ถอดรูปเป็นพระสังข์ทอง ใส่เกือกแก้วเหาะขึ้นไปตีคลีกับพระอินทร์ จนชนะ
พระอินทร์ก็กลับไปบนสวรรค์

                   เจ้าเมืองพาราณสีดีพระทัยมากได้ขอโทษพระสังข์ทองและยกราชสมบัติให้ตามสัญญา พระสังข์ทองขอลาไปตามหาพระนางจันทราเทวีก่อนพระสังข์ทองเดินทางไป
ตามเมืองต่างๆจนกระทั่งมาถึงเมืองมัทราษฎร์จึงไปสืบถามที่บ้านธนัญชัยเศรษฐีว่ารู้จัก
หญิงที่ชื่อ จันทราเทวีหรือไม่ ธนัญชัยเศรษฐีบอกว่าไม่รู้จัก    แต่ก็เชิญพระสังข์ทองอยู่
รับประทานอาหาร  พระสังข์ทองสังเกตว่าอาหารมีรสปราณีต ซึ่งผู้ทำจะต้องเป็นผู้ทำ
อาหารถวายพระเจ้าแผ่นดิน   จึงขอพบแม่ครัวและซักถามประวัติ           ก็ทราบว่าเป็น
พระนางจันทราเทวีจึงดีใจมาก และขอธนัญชัยเศรษฐีที่จะรับพระมารดากลับไป

 

                พระสังข์ทองนำพระมารดากลับไปอยู่ที่เมืองพาราณสี   พระสังข์ทอง

ปกครองเมืองพาราณสีจนเจริญรุ่งเรือง กิติศัพท์แพร่ไปยังนครอื่นๆ จนถึงเมืองพรหมนคร

                ชาวเมืองพรหมนครก็อพยพมาอยู่เมืองพาราณสี    เสนาอำมาตย์เมืองพรหมนคร  จึงทูลเสนอพระเจ้าพรหมทัตว่า พระสังข์ทองพระราชโอรสครองเมืองพาราณสี มีความ
สามารถทำให้รุ่งเรือง   จึงเห็นสมควรที่จะอัญเชิญพระสังข์ทอง มาครองเมืองพรหมนคร เพื่อสร้างความเจริญพระเจ้าพรหมทัตเมื่อทรงทราบว่าพระโอรสยังมีชีวิตอยู่และมีความสามารถก็ยินดี    และสำนึกผิดให้อำมาตย์ผู้ใหญ่ไปเมืองพาราณสีและทูล  เชิญ

พระสังข์ทอง  และพระนางจันทราเทวีกลับเมืองพรหมนคร  พระสังข์ทองสงสาร
                 พระบิดา   จึงอ้อนวอนพระมารดาให้อภัยพระเจ้าพรหมทัต        และเดินทางกลับเมืองพรหมนคร  พระเจ้าพรหมทัตก็มอบราชสมบัติให้พระสังข์ทอง ปกครองบ้านเมืองเป็นสุขสืบมา

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1218 วันที่ 10 ก.ค. 2552


สังข์ทอง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

น้ำอะไรก็ได้

น้ำอะไรก็ได้


เปิดอ่าน 6,237 ครั้ง
การใช้  ศ  ษ  ส

การใช้ ศ ษ ส


เปิดอ่าน 6,278 ครั้ง
มนุษย์เงินเดือน...อ่านเร้ว

มนุษย์เงินเดือน...อ่านเร้ว


เปิดอ่าน 6,239 ครั้ง
เพลงไทยเดิม

เพลงไทยเดิม


เปิดอ่าน 6,245 ครั้ง
ขอโทษนะที่รัก

ขอโทษนะที่รัก


เปิดอ่าน 6,239 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

การใช้  ศ  ษ  ส

การใช้ ศ ษ ส

เปิดอ่าน 6,278 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ชีวิตครูของผม ตอนเป็นครูว่ายากแล้ว แต่โอนย้ายมารับราชการครูยากกว่า
ชีวิตครูของผม ตอนเป็นครูว่ายากแล้ว แต่โอนย้ายมารับราชการครูยากกว่า
เปิดอ่าน 6,238 ☕ คลิกอ่านเลย

อยากรู้ไหม.....ทำไมลำไส้ต้องมีแบคทีเรีย?
อยากรู้ไหม.....ทำไมลำไส้ต้องมีแบคทีเรีย?
เปิดอ่าน 6,241 ☕ คลิกอ่านเลย

ผักไฮโดรโพนิคส์ .....นำปลูกบนไม้ไผ่
ผักไฮโดรโพนิคส์ .....นำปลูกบนไม้ไผ่
เปิดอ่าน 6,245 ☕ คลิกอ่านเลย

 ความสำเร็จสูงสุด....คุณมีแค่ไหน?
ความสำเร็จสูงสุด....คุณมีแค่ไหน?
เปิดอ่าน 6,240 ☕ คลิกอ่านเลย

บทร้อยกรอง เรื่อง เด็กชายช้างเชี่ยวชาญ ฝึกอ่าน ช
บทร้อยกรอง เรื่อง เด็กชายช้างเชี่ยวชาญ ฝึกอ่าน ช
เปิดอ่าน 6,266 ☕ คลิกอ่านเลย

เก็บมาฝาก...จากธรรมชาติ
เก็บมาฝาก...จากธรรมชาติ
เปิดอ่าน 6,238 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

การซ่อมแซมเสื้อผ้า
การซ่อมแซมเสื้อผ้า
เปิดอ่าน 10,311 ครั้ง

ลดความอ้วนด้วยตะเกียบ ช่วยถ่วงให้กินได้ช้าลงและคำเล็กลง
ลดความอ้วนด้วยตะเกียบ ช่วยถ่วงให้กินได้ช้าลงและคำเล็กลง
เปิดอ่าน 9,130 ครั้ง

สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
เปิดอ่าน 28,990 ครั้ง

ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
เปิดอ่าน 11,476 ครั้ง

10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
เปิดอ่าน 18,433 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ