|
❝ วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต (Herbart Method)
________________________________________
วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ตเป็นไปตามแนวคิดของแฮร์บาร์ต ที่ว่า การที่นักเรียนจะเรียนรู้สิ่งไดนั้นนักเรียนจะต้องสนใจเป็นเบื้องแรก ครูผู้สอนจำเป็นต้องเร้าความสนใจของนักเรียนก่อนเข้าสู่ขั้นของการสอนเพื่อให้เกิดเรียนรู้
ความมุ่งหมายของวิธีการสอนแบบแฮร์บาร์ต
1. เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้จากการสนใจ
2. เพื่อฝึกในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เก่าและความรู้ใหม่ที่ได้รับ
3.เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถจัดลำดับความรู้จากง่ายไปหายากปละจากความจริงทั่วไปไปสู่หลักเกณฑ์หรือข้อสรุป
ขั้นตอนของการวิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต
1. ขั้นเตรียม เป็นขั้นตอนของการเร้าให้นักเรียนเกิดความสนใจที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ครูจะต้องทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนให้ประสานกับความรู้ใหม่
2. ขั้นสอน เป็นขั้นตอนที่ครูดำเนินการสอนเพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ตามบทเรียน
3. ขั้นสัมพันธ์หรือขั้นทบทวนและเปรียบเทียบ เป็นขั้นตอนต่อจากการสอนของครูเมื่อครู
สอนจบบทเรียนแล้ว ครูต้องทบทวนความรู้ที่นักเรียนเรียนไปแล้ว และนำความรู้ใหม่ไปสัมพันธ์กับความรู้เดิมด้วยการวิเคราะห์และเปรียบเทียบความแตกต่างและคล้ายคลึงกันระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่
4. ขั้นตั้งกฎหรือข้อสรุป เป็นขั้นที่นักเรียนเข้าใจบทเรียนกว้างขึ้น ครูและนักเรียนจะต้องช่วยกันรวบรวมความรู้จากขั้นตอนที่ 1-4 ตามลำดับจากง่ายไปหายากอย่างเป็นระบบ และจดบันทึกไว้
5.ขั้นการนำไปใช้ เป็นขั้นตอนที่นักเรียนนำเอาความรู้ความเข้าใจที่ได้เรียนมาแล้วไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือใช้ในสถานการณ์อื่น
ข้อดีของวิธีสอนแฮร์บาร์ต
1.นักเรียนได้เรียนรู้จากความสนใจ
2.การเรียนรู้ดำเนินไปจากง่ายไปหายากตามลำดับ
3.การสร้างกฏเกณฑ์หรือข้อสรุปกระทำโดยนักเรียนและครู
ข้อสังเกตของวิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต
1.ในขั้นของการสัมพันธ์หรือทบทวนและเปรียบเทียบ ครูต้องให้โอกาสนักเรียนในการวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างและคล้ายคลึงกันระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ด้วยตนเองมิใช่เกิดจากการแนะนำของครู
2.ครูควรเน้นย้ำให้นักเรียนจดบันทึกความรู้ตามลำดับขั้นตอนจากง่ายไปหายาก
ที่มา : http://www.neric-club.com/data.php?page=17&menu_id=76 ❞
วันที่ 16 ก.ค. 2552
ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง
฿1,790https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6
Advertisement
 เปิดอ่าน 8,309 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,327 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,305 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,304 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,309 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,301 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,293 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,304 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,303 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,303 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,299 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,298 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 8,294 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 8,311 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,292 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,302 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,300 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,304 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,299 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 12,951 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 33,739 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 871 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 210,117 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 18,016 ครั้ง |
|
|