มาเปลี่ยนนิสัยการกิน....แย่ๆกันเถอะ

เวลาคุณลาพักร้อนสำหรับสาวๆบางคนมันเป็นช่วงที่ทำให้นิสัยการกินของคุณดีขึ้นนะ แล้วทำไมเราไม่เอาพฤติกรรมการกินช่วงนั้นมาปรับกับชีวิตประจำวันดูบ้างล่ะ?

นิสัยแย่ที่ 1 : กินจุบกินจิบตลอดเวลา
วันธรรมดาเดี๋ยวก็มีเวลาอาหารว่าง บางทีก็มีขนมกรุบกรอบติดโต๊ะทำงาน นั่งทำงานสักพัก เดี๋ยวชวนเพื่อนลงไปหาขนมกินกันอีกแล้ว เดินตลาดนัดก็ต้องซื้อขนมติดไม้ติดมือมากินต่ออีก
ช่วงไปเที่ยว : ตอนที่ไปเที่ยวมันทำให้คุณไม่มีเวลามาหารเรื่องกินได้มากนัก ไหนจะต้องไปเดินเล่นชมเมือง ถ่ายรูปเล่น ไปดำน้ำ เล่นน้ำตกป่าเขา ไปตามเรื่องตามราวหรือแม้แต่ช็อปปิ้งอีกล่ะ มีกิจกรรมเยอะแยะขนาดนี้จะเอาเวลาไหนไปคิดเรื่องกิน
เอามาปรับ : เมื่อกลับมาชีวิตปกติ หาอะไรมาขัดขวางการกินของคุณสิ อะไรก็ได้ที่จะไม่ทำให้คุณหยิบข้าวโพดอบกรอสรสเนยแข็งมากินเล่นสองห่อ อย่างทาแฮนด์ครีมราคาแพงไง มันก็ทำให้หยิบอะไรลำบากหรือกินข้าวกลางวันเสร็จก็แปรงฟันซะเลย พอจะหยิบอะไรมากินก็จะคิดว่าเพิ่งแปรงฟันมา

นิสัยแย่ที่ 2 : กินยาก
ถ้าคุณเป็นคนประเภทไอ้นั่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็กินไม่ได้ ผักไอ้นี่ฉันกินไม่เป็น มันก็เลยทำให้คุณเป็นคนประเภทกินอะไรยาก กินแต่ เนื้อ นม ไข่ อาหารพื้นๆ บางทีมันก็ทำให้คุณได้สารอาหรไม่ครบถ้วนนะ
ช่วงไปเที่ยว : เวลาที่เราอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเรามักจะต้องยอมกินอะไรแปลกๆ ผิดนิสัยเวลาอยู่บ้านเราเอง แต่ถ้าคุณไปอยู่อิตาลี คุณอาจต้องกินมะเขือม่วงย่างกับน้ำมันมะกอก
เอามาปรับ : ลองซื้อตำราอาหารนานาชาติมาลองทำกินเอง ลองหาเมนูที่คุณไม่เคยกินมาก่อนลองทำดู อาจจะอร่อยนะ

นิสัยแย่ที่ 3 : กินเร็วเกินไป
เวลาเอาอะไรเข้าปาก คุณจะรีบเคี้ยวอย่างรวดเร็วหยับๆสักสองครั้งแล้วกลืนเลย แล้วรีบตักอีกคำเข้าปากเร็วแบบนี้ เลยทำให้สมองของคุณไม่ได้ลิ้มรสความอร่อยและความอิ่มไปด้วย ก็เลยยิ่งยัดเข้าไปอีกจนจุก
ช่วงไปเที่ยว : เวลาไปเที่ยวพักร้อนคุณมีเวลากินเหลือเฟือ ค่อยๆละเลียดความอร่อยทุกคำ รับรู้ได้ถึงรสชาติอาหาร
เอามาปรับ : คุณไม่ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงต่อมื้อก็ได้ เพียงแค่ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้นั่งลงกินเป็นเรื่องเป็นราว เดินไปกินไปเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ถ้าคุณมีสติกับสิ่งที่กิน เวลาแค่ 15 นาที สำหรับอาหารเช้า 20 นาที สำหรับอาหารเที่ยง และ 30 นาทีสำหรับดินเนอร์

ที่มา ผู้หญิงนะคะ