ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ...การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,508 ครั้ง
Advertisement

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ...การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ

Advertisement

 

การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ    

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ครูจิราภรณ์  หอมกลิ่น

วัตถุประสงค์ของการวิจัย  

                   1.  เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์  80/80

                    2.  เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  

                   3.  เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  

                    4.  เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วย

แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย                      

สมมุติฐานของการวิจัย

                   นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

ความสำคัญของการวิจัย

                   1.  ได้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ที่มีประสิทธิภาพ

                   2.  เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สนใจในการพัฒนาการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ซึ่งจะส่งผลถึงประสิทธิภาพของการเรียนการสอนให้ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น

                   3.  เป็นแนวทางในการฝึกทักษะและปรับปรุงการเรียนการสอนอ่านอย่างมีวิจารณญาณ 

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

                   1.  ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้  เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ภาคเรียนที่  2  ปีการศึกษา  2549  โรงเรียนยโสธรพิทยาสรรค์  อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร  จำนวน  3  ห้องเรียน  มีนักเรียน  93  คน

                   2.  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้  เป็นนักเรียนห้อง  ม. 5/2  ภาคเรียนที่  2  ปีการศึกษา  2549  โรงเรียนยโสธรพิทยาสรรค์  อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร  จำนวน 36  คน  ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม  (Cluster  Random  Sampling)  ด้วยการจับสลากห้องเรียน  มีขั้นตอนดังนี้

                         2.1  กำหนดห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม  ได้แก่  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  โรงเรียนยโสธรพิทยาสรรค์  อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร  จำนวน  3  ห้องเรียน

                         2.2  สุ่มห้องเรียนโดยการจับสลากมา  1  ห้องเรียน  จากทั้งหมด  3  ห้องเรียน  ปรากฏว่าสุ่มได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5/2  จำนวน  36  คน  ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างในการทดลองครั้งนี้

                   3.  ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้า  คือ  ภาคเรียนที่  2  ปีการศึกษา  2549

                   4.  เนื้อหาที่ใช้ในการทดลอง  เป็นเนื้อหาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช  2544  วิชาภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ภาคเรียนที่  2  ปีการศึกษา  2549  เรื่องการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  ซึ่งประกอบด้วยเนื้อเรื่องจากข่าว  บทร้อยกรอง นิทาน  บทความ  และเพลง

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

                         1.  แผนการจัดการเรียนรู้  เรื่องการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  จำนวน  5  แผน  ใช้เวลาสอนแผนละ  3  ชั่วโมง  เนื้อหาที่นำมา         ให้เรียน  ได้แก่  ข่าว  บทร้อยกรอง  นิทาน  บทความ  และเพลง  ตามลำดับ

2.     แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  5  ชุด  ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับ

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  และแบบทดสอบท้ายแบบฝึกทักษะชุดละ  10  ข้อ  เป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ  4  ตัวเลือก 

                         3.  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  เรื่องการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ  4  ตัวเลือก จำนวน  30  ข้อ

                         4.  แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วย  แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  จำนวน  20  ข้อ  ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า  5  ระดับ

วิธีดำเนินการวิจัย

                   การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยตามลำดับขั้นตอน  ดังนี้

                         1.  ดำเนินการทดสอบก่อนเรียน  (Pretest)  เรื่องการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  จำนวน  30  ข้อ  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น  บันทึกผลการทดสอบที่ได้เป็นคะแนนก่อนเรียน

                         2.  ผู้วิจัยดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้  และใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่าง มีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ที่ผู้วิจัยออกแบบขึ้น  โดยใช้เวลาสอนสัปดาห์ละ  3  ชั่วโมง   รวมเป็น  15  ชั่วโมง  ทั้งนี้ไม่รวมทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง  การเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน

                         3.  เมื่อสิ้นสุดการทดลอง  ผู้วิจัยนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  เรื่องการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5  ไปทดสอบหลังเรียน  (Posttest)  ซึ่งเป็นแบบทดสอบฉบับเดียวกันกับการทดสอบก่อนเรียน  (Pretest)

                         4.  ตรวจผลการทดสอบแล้วนำคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการทางสถิติ

                         5.  ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง  จำนวน  36  คน  หลังจากเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ด้วยแบบวัดความพึงพอใจที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วจำนวน  20 ข้อ  

การวิเคราะห์ข้อมูล 

                         1.  วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ตามเกณฑ์  80/80  โดยใช้สถิติพื้นฐาน  คือ  ร้อยละค่าเฉลี่ย  และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

                         2.  วิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผลของฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  โดยใช้วิธีวิธีของกูดแมน,  เฟลทเชอร์  และชไนเดอร์   (Goodman,  Fletcher  and  Schneider) 

                         3.  วิเคราะห์หาความแตกต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5 โดยใช้  t-test  ( Dependent  Sample)

                        4.  วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  ที่มีต่อที่มีต่อการเรียนรู้ ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5 โดยหาค่าเฉลี่ย   และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผล    

                   การวิจัยเพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  สรุปผลได้ดังนี้

                        1.  แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5   มีประสิทธิภาพเท่ากับ  85.22/83.43 

                         2.  แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ  0.7220  แสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น  0.7220 หรือคิดเป็นร้อยละ  72.20

                         3.  นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .01

                         4.  นักเรียนมีความพึงพอใจต่อเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5  อยู่ในระดับมากที่สุด

                                                              ...................................................................

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3183 วันที่ 21 ก.พ. 2552

HY300 โปรเจคเตอร์ 1080P 4K มินิโปรเจคเตอร์ Project Android 12.0 5G WIFI บลูทูธ รองรับการมิเรอร์หน้าจอ เชื่อมต่อกับมือถือ

฿940 - ฿2,699

https://s.shopee.co.th/3LCRC5o6j5?share_channel_code=6


เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ...การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ...การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

กอดฉันไว้

กอดฉันไว้


เปิดอ่าน 7,518 ครั้ง
ข่าวด่วน!!..ไวรัสหัวใจ

ข่าวด่วน!!..ไวรัสหัวใจ


เปิดอ่าน 7,516 ครั้ง
กิมจิ (김치)

กิมจิ (김치)


เปิดอ่าน 7,578 ครั้ง
ยำวุ้นเส้น

ยำวุ้นเส้น


เปิดอ่าน 7,512 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

สาระน่ารู้"บทคัดย่อผลงานวิจัย"

สาระน่ารู้"บทคัดย่อผลงานวิจัย"

เปิดอ่าน 7,516 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เมื่อท้องว่างควรหลีกเลี่ยง.....อาหารชนิดใด
เมื่อท้องว่างควรหลีกเลี่ยง.....อาหารชนิดใด
เปิดอ่าน 7,516 ☕ คลิกอ่านเลย

สาวหลากวัย....กินอย่างไรให้ผิวสวย
สาวหลากวัย....กินอย่างไรให้ผิวสวย
เปิดอ่าน 7,517 ☕ คลิกอ่านเลย

7 ผลไม้ไทย ใช้เป็นยา
7 ผลไม้ไทย ใช้เป็นยา
เปิดอ่าน 7,524 ☕ คลิกอ่านเลย

สื่อที่(ไม่มีวัน)ล้าสมัย 2
สื่อที่(ไม่มีวัน)ล้าสมัย 2
เปิดอ่าน 7,511 ☕ คลิกอ่านเลย

ยิ้มรับปีใหม่.....ด้วย 10 กลเม็ดเด็ด
ยิ้มรับปีใหม่.....ด้วย 10 กลเม็ดเด็ด
เปิดอ่าน 7,526 ☕ คลิกอ่านเลย

มะเร็ง
มะเร็ง
เปิดอ่าน 7,520 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน
ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน
เปิดอ่าน 8,367 ครั้ง

การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน
การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน
เปิดอ่าน 39,684 ครั้ง

โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
เปิดอ่าน 46,345 ครั้ง

เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดอ่าน 8,463 ครั้ง

5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา
เปิดอ่าน 9,009 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ