ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมภาษาต่างประเทศ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การฝึกทักษะการพูดและฟังภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ


ภาษาต่างประเทศ

24,407

views
Advertisement

การฝึกทักษะการพูดและฟังภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนอื่นผมอยากให้ลองสังเกตดูนะครับว่าเด็กไทยเรานั้นจะเก่งภาษาอังกฤษทางด้าน Gramma หรือไวยากรณ์  ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้ศึกษาในชั้นเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากโอกาสที่เราจะได้ใช้ภาษาอังกฤษมีจำกัด เพราะเราคงไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับฝรั่งหรือชาวต่างชาติทุกวัน สิ่งนี้จึงเป็นเหตุที่อาจจะทำให้เรามีปัญหาในการสื่อสารหรือพูดคุยกับชาวต่างชาติ

ก่อนอื่นต้องบอกท่านผู้อ่านก่อนว่า โดยพี้นฐานแล้วผมเป็นคนที่เรียนอังกฤษอยู่ในระดับปานกลาง และผมได้มีโอกาสไปศึกษายังประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งในการไปเรียนในต่างประเทศในช่วงแรกนั้นผมก็ได้ประสบปํญหาเป็นอย่างมากในการสื่อสาร

1. เตรียมอาวุธ 


จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ผมได้พยายามหาทางที่จะหาวิธีสื่อสารให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งก็ได้แนวความคิดมาว่า การที่เราจะสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เราต้องฟังสิ่งที่ผู้พูดให้เข้าใจเสียก่อนจึงจะสามารถตอบโต้ได้ดี การฟังก็คงจะเปรียบเสมือนอาวุธ ถ้าไม่มีอาวุธก็คงจะต่อสู้อย่างไร้ชัยชนะ ดังนั้นในช่วงสามเดือนแรก ผมจึงใช้เวลาอยู่หน้าจอทีวีเป็นเวลากว่าสามชั่วโมง ผมพยายามดูทุกรายการให้หลากหลาย ทั้งเกมส์โชว์ หนัง และละคร ซึ่งการดูโทรทัศน์ทำให้ผมได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้รับฟังสำเนียงภาษาอังกฤษแล้วเรายังสามารถเดาเรื่องราวต่างๆจากภาษากายอีกด้วย 

ในช่วงแรกของการดูโทรทัศน์นั้น ต้องยอมรับว่าดูไม่รู้เรื่องจริงๆครับ คำที่สามารถจับได้บางคำคือ I, he, she, has, have และคำง่ายๆที่เราได้เรียนมา แต่จากการที่เราได้ฟังบ่อยๆแล้วล่ะก็ เราก็จะเริ่มคุ้นเคยและสามารถฟังและสามารถจับศัพท์ได้มากยิ่งขึ้น  คุณอาจจะจับใจความยังไม่ค่อยได้  ในช่วงแรกผมได้ทดลองดูละครซีรี่ดังเรื่อง “Friends” กับเพื่อนฝรั่ง ละครเรื่องนี้เป็นละครแนวตลก แต่ในสองคนที่นั่งดู คงมีแต่เพื่อนผมเท่านั้นที่นั่งหัวเราะ มีแต่เพียงผมซึ่งนั่งงงว่าเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้จึงอาจจะเป็นจุดที่ทำให้คนหลายๆคนยกเลิกการฝึกพูดและฟังภาษาอังกฤษ เพราะท้อ เนื่องจากไม่เข้าใจสิ่งที่ฟัง และอึดอัดที่ไม่รู้เรื่อง แต่โชคดีที่สถานการณ์บังคับ(เนื่องจากที่นั่นคงไม่มีทีวีเป็นภาษาไทยเป็นแน่) จึงทำให้ผมได้ฝึกทำต่อ 

และแล้วมันก็ได้ผลจริงๆครับ ช่วงเวลาในสามสี่เดือน เราก็จะเริ่มฟังรู้เรื่องขึ้น เข้าใจมากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายครั้งที่ฟังไม่เข้าใจ แต่ก็อาศัยการเดาเนื้อเรื่องซึ่งก็ถูกบ้างผิดบ้าง ในช่วงเวลานี้และหลังจากนี้เราก็อาจจะได้รับบางสิ่งเพิ่มเติมเช่น สำนวน การเรียงคำในประโยค อาธิเช่น ผมดูบาสเกตบอลบ่อยๆจนสามารถจับได้ว่า การชู๊ตลูกบาส “จากเส้นสามแต้ม” ฝรั่งเขาเรียกว่า  from downtown หรือ beyond NewYork  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะเปรียบเสมือนอาวุธเพิ่มเติมซึ่งสามารถเก็บไว้ใช้ต่อสู้ หรือเก็บเอาไว้ใช้เวลาที่เราจะพูดเพื่อทำให้ภาษาเราดูมีสีสันมากขึ้นนอกจากประโยชน์เรียบๆ

2. ใช้อาวุธ 


ในช่วงเวลาที่ผมฝึกฟังนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมได้เรียนภาษาที่โรงเรียนสอนภาษาไปด้วย เพราะฉะนั้นการฝึกพูดของผมก็จะเป็นการพูดหน้าชั้น พูดกับอาจารย์ และการพูดในหัวข้อที่ถูกกำหนดมา ซึ่งมีส่วนช่วยผมในเรื่องความกล้าพูดได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งความกล้าที่จะพูดนี้ก็เป็นอีกอุปสรรคสำคัญของการฝึกพูด ถ้าเราไม่กล้าพูดกับชาวต่างชาติแน่นอนครับบทสนทนาก็จะไม่เกิด บางทีอาจจะมาจากกลัวพูดไม่รู้เรื่อง หรือ กลัวพูดผิด หรือกลัวว่าสำเนียงจะไม่ดี  แต่ผมอยากบอกว่าต้องกล้าครับ พูดไปเลยไม่ต้องกลัว ฝรั่งเค้าจะไม่สนใจไวยากรณ์มากนัก

หลังจากที่ผมฝึกฟังจนคล่องและประจวบกับพอดีกับคอร์สของการเรียนภาษาได้จบลง คราวนี้ก็ถึงคราวที่ผมต้องเผชิญกับโลกภายนอกด้วยตัวเองแล้ว ช่วงนั้นยอมรับว่ากลัวเหมือนกันครับ แต่ก็อีกเหมือนเดิมว่าสถานการณ์บังคับอีก เพราะฉะนั้นต้องพูด

การพูดในช่วงแรกของผมนั้น ผมจะชอบการพูดตัวต่อตัวมากที่สุด ถามว่าทำไม
เนื่องจากการพูดตัวต่อตัวนั้นแน่นอนครับ ถ้าเราพูดคุยกันไม่รู้เรื่องก็สามารถที่จะถามหรือใช้ภาษากายแทนได้ ช่วงแรกๆ บางทีภาษากายของผมนั้นจะถูกใช้มากกว่าการพูดอีก เนื่องจากไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ช่วงนี้ก็เป็นช่วงตะกุกตะกักพอสมควร 
ในช่วงนี้ผมว่าทุกคนอาจจะประสบปัญหานี้เป็นแน่แท้ นั่นคือส่วนใหญ่มักจะคิดเป็นภาษาไทยก่อน แล้วค่อยพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ แน่นอนครับผมก็คือหนึ่งในคนกลุ่มนี้ เมื่อผู้พูดพูดผมก็มักจะต้องแปลออกมาเป็นภาษาไทยก่อน แล้วค่อยคิดการโต้ตอบออกมาเป็นภาษาไทย แล้วค่อยแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วพูดออกไป

ในบางครั้งที่ผมจะไปพบกับฝรั่งบางคนก็อุตส่าห์เตรียมคำถามล่วงหน้าของเรื่องที่จะพูด แต่พอถึงเหตุการณ์จริงๆ กลับไม่ได้ใช้เลย เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน แต่ปัญหาเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นมาถ้าเราพูดบ่อยๆขึ้น การโต้ตอบก็จะดีขึ้น ในบางครั้งอาจจะไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย เวลาและความอดทนครับที่จะทำให้การพูดนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อคล่องดีแล้ว ขั้นต่อไปขอแนะนำให้ทดลองพูดทางโทรศัพท์ครับ เพราะการพูดทางโทรศัพท์นั้นแน่นอน เราก็ไม่สามารถใช้ภาษากายได้ คงต้องเป็นการฟังและการพูดอย่างเดียวเท่านั้น ผมจำได้กับประสบการณ์แรกๆที่ลองพูดทางโทรศัพท์ ก็เล่นทำให้ผมหมดความมั่นใจไประยะหนึ่ง เรื่องก็มีอยู่ว่า ตอนย้ายจากโรงเรียนสอนภาษาใหม่ๆ เพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ผมต้องหาที่พักด้วยตัวเอง และ apartment ที่ต่างประเทศต้องบอกว่า เป็น apartment โล่งๆ ไม่มีอะไรเลยแม้กระทั่งไฟฟ้า เราต้องโทรไปติดต่อให้เค้าต่อไฟฟ้ามาที่ apartment เราเอง (สายไฟต่อมาที่ apartment เราเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีไฟมา) นั่นจึงต้องเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องโทรไปบริษัทไฟฟ้า การพูดคุยในครั้งนั้นตะกุกตะกักมาก เพราะผมฟังไม่รู้เรื่องเลย เป็นศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับไฟฟ้า ผมจึงต้องคอยขอร้องให้เขาได้อธิบายสิ่งที่เขาพูดมาใหม่ตลอดเวลา โดยใช้คำพูดว่า Excuse me ? และ I am sorry (พูดคล้ายประโยคคำถาม)  และ Could you repeat that again? 

ชาวอเมริกันเป็นประเทศที่เวลานั้นเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อผมถามเค้าบ่อยๆ เขาเลยตัดปัญหาด้วยการโอนสายผมไปอีกบริษัทหนึ่งที่ช่วยแปลสิ่งที่ผมพูดเป็นภาษาไทยให้เป็นภาษาอังกฤษให้กับพนักงานบริษัทไฟฟ้าฟัง และช่วยแปลภาษาอังกฤษของพนักงานไฟฟ้าให้เป็นภาษาไทย หลังจากนั้นผมจึงสามารถทำให้ไฟที่ apartment ของผมติดได้ แต่นั่นก็ทำให้ความมั่นใจของผมลดฮวบเลยทีเดียว เพราะทางบริษัทโอนสายไปให้บริษัทแปลช่วย นั่นแสดงว่าผมยังคงพูดไม่รู้เรื่อง แต่ผมก็ไม่ท้อก็พยายามพูดเรื่อยๆมาจนตอนนี้ก็จัดว่าพอใช้ได้ในระดับหนึ่ง

มีเทคนิคในการพูดที่ผมอยากจะแนะนำเป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆเพิ่มเติม นั่นก็คือในบางครั้งเราอาจจะคิดศัพท์ไม่ออก เราก็อาจจะเลี่ยงโดยการพูดอ้อมๆ อาธิเช่น เราจำคำว่า Monkey ไม่ได้ ก็อาจจะเลี่ยงโดยพูดว่า an animal that likes banana. และท้ายที่สุดก็คือ อย่างกังวลเกี่ยวกับไวยากรณ์เวลาพูดนะครับ เพราะจะทำให้เรากังวล มีหลายครั้งในช่วงแรกที่ผม ใช้ I does หรือ I go to the supermarket yesterday(ผิด tense).

ในบทความต่อไปผมอาจจะขอแนะนำการฝึกภาษาอังกฤษในเมืองไทยนะครับ โปรดติดตาม

_________________
http://sdiff99.hi5.com

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


การฝึกทักษะการพูดและฟังภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เทคนิคเก่งอังกฤษ

เทคนิคเก่งอังกฤษ


เปิดอ่าน 51,624 ครั้ง
คำน่ารู้ในการสมัครงาน

คำน่ารู้ในการสมัครงาน


เปิดอ่าน 45,370 ครั้ง
ประวัติ วัน คริสต์มาส

ประวัติ วัน คริสต์มาส


เปิดอ่าน 34,133 ครั้ง
Uncountable Nouns

Uncountable Nouns


เปิดอ่าน 234,429 ครั้ง
ภาษาฝรั่งเศส

ภาษาฝรั่งเศส


เปิดอ่าน 31,645 ครั้ง
Verb Tenses (Past Tenses )

Verb Tenses (Past Tenses )


เปิดอ่าน 55,867 ครั้ง
หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense

หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense


เปิดอ่าน 21,484 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เทคนิคเพิ่มความเร็วในการอ่านภาษาอังกฤษ

เทคนิคเพิ่มความเร็วในการอ่านภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 32,607 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
TOEFL คืออะไร
TOEFL คืออะไร
เปิดอ่าน 38,774 ☕ คลิกอ่านเลย

6 เทคนิคเตรียมสอบ IELTS ให้ได้คะแนนสูง!
6 เทคนิคเตรียมสอบ IELTS ให้ได้คะแนนสูง!
เปิดอ่าน 8,209 ☕ คลิกอ่านเลย

ประวัติ วัน คริสต์มาส
ประวัติ วัน คริสต์มาส
เปิดอ่าน 34,133 ☕ คลิกอ่านเลย

การทักทาย (Response) การตอบ
การทักทาย (Response) การตอบ
เปิดอ่าน 55,741 ☕ คลิกอ่านเลย

เทคนิคเก่งอังกฤษ
เทคนิคเก่งอังกฤษ
เปิดอ่าน 51,624 ☕ คลิกอ่านเลย

Verb Tenses (Present Tenses )
Verb Tenses (Present Tenses )
เปิดอ่าน 66,403 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

การันตีได้เงินคืนภาษีรถคันแรก "กิตตรัตน์"ลงนามใช้เงินคงคลัง 3.1หมื่นล้าน เมษาฯจ่ายก่อน3.4พันล้าน
การันตีได้เงินคืนภาษีรถคันแรก "กิตตรัตน์"ลงนามใช้เงินคงคลัง 3.1หมื่นล้าน เมษาฯจ่ายก่อน3.4พันล้าน
เปิดอ่าน 11,425 ครั้ง

แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน
แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน
เปิดอ่าน 54,680 ครั้ง

การปลูกและการดูแลรักษามะเขือเปราะ
การปลูกและการดูแลรักษามะเขือเปราะ
เปิดอ่าน 14,263 ครั้ง

เอกสาร/แนวทางเตรียมรับการประเมินวิทยฐานะ
เอกสาร/แนวทางเตรียมรับการประเมินวิทยฐานะ
เปิดอ่าน 437,370 ครั้ง

รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา
รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา
เปิดอ่าน 16,524 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ