ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สมศ.เผยใช้เวลาประเมินเฉลี่ย 5 ชม.ต่อปีไม่กระทบเวลาสอนครู


ข่าวการศึกษา 23 ม.ค. 2558 เวลา 09:29 น.

8,663

views
Advertisement

สมศ.เผยใช้เวลาประเมินเฉลี่ย 5 ชม.ต่อปีไม่กระทบเวลาสอนครู

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เผยในปี 2558 ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา 4 มาตรฐาน ได้แก่ ผลการจัดการศึกษา การจัดการศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารจัดการ และการประกันคุณภาพภายใน ตามกฎหมายปัจจุบัน สมศ. ทำหน้าที่การประเมินคุณภาพและมาตรฐานดังกล่าวโดยใช้เวลาในการประเมินสูงสุดเพียง 3 วัน ใน 5 ปี หรือเฉลี่ยประมาณ 5 ชั่วโมงต่อปี พร้อมแนะนำ 5 วิธีสู่การเป็นครูในบริบทของประชาคมอาเซียน

ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวว่า ในปี 2558 ประเทศไทยมีจำนวนครูอาจารย์ทุกระดับชั้นกว่า 660,000 คน จำนวนสถานศึกษาทุกประเภท 38,010 แห่ง และจำนวนนักเรียน นักศึกษาทุกระดับชั้นกว่า 13 ล้านคน โดยสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมากดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรฐานการศึกษา โดยตัวแปรสำคัญในการสร้างมาตรฐานการศึกษาคือสถานศึกษาและคณาจารย์ โดยที่ผ่านมา กฎหมายกำหนดให้มีหน่วยงานอิสระภายนอกทำการประเมินมาตรฐานการศึกษา ได้แก่ สมศ. ทำหน้าที่ในการสะท้อนคุณภาพของสถานศึกษา โดยประเมินผ่านผู้เรียน ครู และผู้บริหาร ฯลฯ ให้เห็นภาพรวมคุณภาพการจัดการศึกษาทั้ง 4 มาตรฐานตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ ผลการจัดการศึกษา การจัดการศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารจัดการ และการประกันคุณภาพภายใน ซึ่งใช้เวลาในการประเมินสูงสุดเพียง 3 วัน ในทุกๆ 5 ปี หรือเฉลี่ยประมาณ 5 ชั่วโมงต่อปี โดยกระบวนการประเมินของ สมศ. ในวันที่ 1 จะเริ่มจากการชี้แจงวัตถุประสงค์ของการประเมิน หลังจากนั้นตลอดทั้ง 3 วัน จะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเกต สัมภาษณ์ และตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารหลักฐานและระบบสารสนเทศ ในวันสุดท้ายเป็นการรายงานผลประเมินด้วยวาจาโดยบอกจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของสถานศึกษา ให้ข้อเสนอแนะ และชี้ทิศทางการพัฒนาสถานศึกษาต่อบุคลากรในสถานศึกษานั้นๆ

ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวต่อว่า จากการประเมินดังกล่าว สมศ. ตระหนักถึงความแตกต่างของความพร้อมของสถานศึกษา โดยต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่สถานศึกษาบางแห่งยังขาดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาภายใน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อการสร้างความพร้อมในระยะยาวของระบบการศึกษาไทย สถานศึกษาโดยเฉพาะคณาจารย์ ต้องให้ความสำคัญในการสร้างมาตรฐานของสถานศึกษาในทุกมิติ ซึ่งจะสะท้อนถึงศักยภาพของลูกศิษย์ อันจะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ สมศ. จึงแนะนำ 5 วิธีสู่การเป็นครูในบริบทของประชาคมอาเซียน ดังนี้

การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานการศึกษา อันได้แก่ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดเป็นระบบ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การจัดการเรียนการสอนที่ ผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารจัดการการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วมและเป็นระบบ การร่วมกันวางแผนและร่วมกันปรับปรุง ร่วมกันปฏิบัติตามแผนร่วมกันตรวจสอบประเมินผล โดยใช้ผลจากการประเมินมาปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการตนเอง การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ก้าวทันโลก และนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน

ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวสรุปว่า ปัจจุบันครูไทยนอกจากการเตรียมการสอน การพัฒนาระบบการสอน การให้คำปรึกษานักเรียนนักศึกษา การประกันคุณภาพภายใน ฯลฯ อันเป็นหน้าที่พื้นฐาน ยังต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างผลงานให้สอดคล้องกับนโยบายของสถานศึกษาเพื่อให้รางวัลพิเศษอื่นๆ อาทิ การพัฒนา 6 ด้านเพื่อรับรางวัลโรงเรียนพระราชทานของกระทรวงศึกษาธิการ การพัฒนา 63 ตัวชี้วัด เพื่อรางวัลโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ของกระทรวงสาธารณสุข รางวัลโรงเรียนศรีตำบล รางวัลโรงเรียนในฝัน และรางวัลต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สมศ. เล็งเห็นประโยชน์จากการได้รางวัลดังกล่าว โดยสถานศึกษาต้องประเมินความพร้อมตามบริบทของโรงเรียนและสถานศึกษาตนเองที่มีความสอดคล้องกับรางวัลดังกล่าว ไม่ใช่สร้างเนื้อหาให้สอดคล้องเพียงเพื่อรับการประเมิน ซึ่งจะส่งผลต่อภาระที่เพิ่มภาระให้แก่บุคลากรครู

อย่างไรก็ตาม สมศ. มุ่งหวังให้ประเทศไทยมีหน่วยงานวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพ สะท้อนความเป็นจริงของปัญหาระบบการศึกษาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยปัจจุบันประเทศไทยมีแต่งานวิจัยที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการศึกษา อันเกิดจากหัวข้อวิจัยไม่เป็นประโยชน์ การหยิบยกกลุ่มตัวอย่างที่ผิดหลักการวิจัย การออกแบบการวิจัย ฯลฯ อันจะชี้นำสังคมไปทางที่ผิด ทั้งนี้งานวิจัยที่ สมศ. มุ่งหมายให้มีเกิดขึ้น ได้แก่ การวิจัยการนำผลการประเมินของหน่วยงานประเมินไปใช้จริงในสถานศึกษา การเปรียบเทียบเรื่องการประเมินมาตรฐานการศึกษาในสถานศึกษาในอาเซียน



ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


สมศ.เผยใช้เวลาประเมินเฉลี่ย 5 ชม.ต่อปีไม่กระทบเวลาสอนครูสมศ.เผยใช้เวลาประเมินเฉลี่ย5ชม.ต่อปีไม่กระทบเวลาสอนครู

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 25/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา

ว 25/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา

เปิดอ่าน 690 ☕ 24 พ.ย. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คุรุสภา เตรียมพร้อมจัดงานวันครู ครั้งที่ 70 พ.ศ.2569 "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน"
คุรุสภา เตรียมพร้อมจัดงานวันครู ครั้งที่ 70 พ.ศ.2569 "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน"
เปิดอ่าน 325 ☕ 4 ธ.ค. 2568

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)
เปิดอ่าน 18,064 ☕ 3 ธ.ค. 2568

การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
เปิดอ่าน 860 ☕ 29 พ.ย. 2568

มาตรการและแนวปฏิบัติการดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 (ว49633)
มาตรการและแนวปฏิบัติการดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 (ว49633)
เปิดอ่าน 2,622 ☕ 27 พ.ย. 2568

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
เปิดอ่าน 18,989 ☕ 27 พ.ย. 2568

"อรรถพล" เรียกร้องทุกพรรคการเมืองปฏิรูปอาชีพครู ถ้าไม่ทำการศึกษาไทยจะถอยหลังอีกเป็นสิบปี
"อรรถพล" เรียกร้องทุกพรรคการเมืองปฏิรูปอาชีพครู ถ้าไม่ทำการศึกษาไทยจะถอยหลังอีกเป็นสิบปี
เปิดอ่าน 937 ☕ 27 พ.ย. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เปิดอ่าน 1,711 ครั้ง

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
เปิดอ่าน 15,951 ครั้ง

คนชอบนอนกลางวันสมองบรรเจิดจินตนาการ
คนชอบนอนกลางวันสมองบรรเจิดจินตนาการ
เปิดอ่าน 9,787 ครั้ง

วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
เปิดอ่าน 11,414 ครั้ง

ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT
เปิดอ่าน 5,062 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ