ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

9 ปรากฏการณ์รั้งปฏิรูปการเรียนรู้


ข่าวการศึกษา 6 ธ.ค. 2560 เวลา 13:07 น.

8,279

views
Advertisement


9 ปรากฏการณ์รั้งปฏิรูปการเรียนรู้

พว.วิเคราะห์เรียนสอบมากกว่าเรียนรู้ - ชู Active Learning เต็มรูปแบบ

ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหารสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ(พว.) กล่าวว่า การศึกษาเป็นรากฐานและเครื่องมือที่สำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาประเทศทุก ๆ ด้าน ซึ่งจะเห็นได้จากการกำหนดวิสัยทัศน์และทิศทางการพัฒนาประเทศให้ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 โดยเป็นยุคที่ต้องขับเคลื่อนด้วยศักยภาพของคนที่มีความสามารถในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศและการแข่งขันในเวทีโลก ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้การศึกษามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยการจัดการศึกษาจะต้องปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้น

โดยเริ่มจากการปฏิรูปการเรียนรู้ระดับห้องเรียนที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าการท่องจำ การเรียนรู้ที่เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียนหรือ Active Learning มากกว่าการเรียนที่ให้ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับ Passive Learning เพราะกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning สอดคล้องกับการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับความจำ ผู้เรียนจะสามารถเก็บและจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ระยะยาว เพราะได้ลงมือปฏิบัติจริง เป็นการสร้างรากฐานสำคัญในการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต อันจะนำไปสู่การมีความสุขในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ

ดร.ศักดิ์สิน กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เมื่อวิเคราะห์ถึงการยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทยที่ผ่านมา พบว่ายังไม่ตรงเป้าหมายของรัฐบาล เนื่องจากมีจุดอ่อนของการจัดการศึกษา ที่สำคัญเปรียบเสมือนเป็นกำแพงกั้นไม่ให้ผลการพัฒนาทะลุผ่านไปได้ ประกอบด้วย 9 ปรากฎการณ์ ได้แก่

1.การเน้นผลการสอบมากกว่าผลการเรียนรู้ ทำให้พบว่าผู้เรียนที่สอบได้คะแนนสูง ๆ จำนวนหนึ่งเมื่อถูกถามถึงผลงานที่เกิดจากการเรียนรู้ที่มีการคิดอย่างสร้างสรรค์ มีคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงามต่อสังคม ผลการตัดสินใจที่มีค่านิยมต่อสังคม ผลผลิตที่เป็นชิ้นงานจริง ๆ กลับไม่มีให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ทำให้คะแนนที่สอบได้เป็นคะแนนที่ไม่มีความหมาย

2.การให้ความสำคัญกับระบบการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในสภาวะปกติ น้อยกว่าการประเมินภายนอก คือ การบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอนมักนำสถานภาพของตนไปผูกติดกับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต และการทดสอบระดับนานาชาติ หรือ พิซ่า เมื่อเห็นผลการทดสอบที่น่าเป็นห่วงจึงต้องหาวิธีทำให้ผลการสอบมีคะแนนสูงขึ้นในทันทีและรวดเร็วจนกลายเป็นที่มาของการนำข้อสอบมาสอนให้ผู้เรียนวิเคราะห์หาคำตอบของข้อสอบที่าผ่านมา และเพื่อเตรียมการสอบครั้งต่อไป ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ

ดร.ศักดิ์สิน ยังกล่าวต่อไปว่า

3.การอยากได้คะแนนสูง ๆ ทั้งที่ไม่มีความพร้อม ทำให้เกิดแรงจูงใจในการเรียนเพื่อสอบมากขึ้น

4.การละเลยที่จะใช้โอกาสพัฒนาผู้เรียนกลุ่มเก่งให้มีความสามารถในการสร้างผลผลิตและนวัตกรรม โดยโรงเรียนที่เป็นแหล่งรวมผู้เรียนที่มีระดับสติปัญญาสูง ๆ ถ้าจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning อย่างเต็มรูปแบบ ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจะสามารถไปถึงระดับสร้างผลผลิตและนวัตกรรมให้แก่ประเทศได้ แต่เรามักจะเน้นเพียงว่าผู้เรียนสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยได้เท่าไหร่ สอบชิงทุนได้เท่าไหร่ ยังไปไม่ถึงการสร้างผลผลิตและนวัตกรรม ซึ่งสะท้อนว่าผู้เรียนเรียนแล้วไม่เกิดความรู้ระดับหลักการใหญ่หรือเกิดองค์ความรู้ที่จะไปสร้างนวัตกรรมได้

5.มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดตามหลักสูตร บรรลุได้ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning แต่เรายังจัดการเรียนรู้แบบ Passive Learning ทำให้ไม่เกิดการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์จริงในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6.วัฒนธรรมการสอนแบบนามธรรม Passive Learning ยังฝังลึกในทุกระดับ ครูผู้สอนยังใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบเดิม ๆ หรือการบรรยายมาสอนอยู่ซึ่งหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนก็เป็นไปได้ยากที่จะเกิดผลแบบใหม่ตามเป้าหมายที่ประเทศต้องการได้

7.พหุปัญญายังไม่ถูกนำมาใช้ในห้องเรียน

8.คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า หลักสูตร คือ หนังสือเรียน ปรับหลักสูตร คือ ปรับหนังสือเรียน และสอนหนังสือเรียนจบ คือ จบหลักสูตร และ

9.นักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ เพราะไม่ได้สอนการอ่านควบคู่กับการคิดวิเคราะห์

ทั้งนี้ หากสามารถแก้ปัญหาปรากฎการณ์ทั้ง 9 ข้อ ได้อย่างเร็ว มั่นใจได้ว่าการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้จะสำเร็จเป็นรูปธรรมได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก สยามรัฐออนไลน์ 6 ธันวาคม 2560

 

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


9 ปรากฏการณ์รั้งปฏิรูปการเรียนรู้9ปรากฏการณ์รั้งปฏิรูปการเรียนรู้

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 25/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา

ว 25/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา

เปิดอ่าน 689 ☕ 24 พ.ย. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คุรุสภา เตรียมพร้อมจัดงานวันครู ครั้งที่ 70 พ.ศ.2569 "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน"
คุรุสภา เตรียมพร้อมจัดงานวันครู ครั้งที่ 70 พ.ศ.2569 "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน"
เปิดอ่าน 304 ☕ 4 ธ.ค. 2568

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 8 ราย (26 พฤศจิกายน 2568)
เปิดอ่าน 17,062 ☕ 3 ธ.ค. 2568

การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
เปิดอ่าน 857 ☕ 29 พ.ย. 2568

มาตรการและแนวปฏิบัติการดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 (ว49633)
มาตรการและแนวปฏิบัติการดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 (ว49633)
เปิดอ่าน 2,618 ☕ 27 พ.ย. 2568

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
เปิดอ่าน 18,972 ☕ 27 พ.ย. 2568

"อรรถพล" เรียกร้องทุกพรรคการเมืองปฏิรูปอาชีพครู ถ้าไม่ทำการศึกษาไทยจะถอยหลังอีกเป็นสิบปี
"อรรถพล" เรียกร้องทุกพรรคการเมืองปฏิรูปอาชีพครู ถ้าไม่ทำการศึกษาไทยจะถอยหลังอีกเป็นสิบปี
เปิดอ่าน 931 ☕ 27 พ.ย. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !
โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !
เปิดอ่าน 15,842 ครั้ง

โกจิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ชะลอความแก่
โกจิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ชะลอความแก่
เปิดอ่าน 10,027 ครั้ง

ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ
เปิดอ่าน 44,337 ครั้ง

DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่
เปิดอ่าน 77,336 ครั้ง

ละครสังคีต
ละครสังคีต
เปิดอ่าน 109,539 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ