ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เรื่อง แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโต๊ะเด็ง

ภาษาไทยเป็นเครื่องมือใช้สื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและตรงตามจุดมุ่งหมาย

ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดความต้องการและความรู้สึก การใช้ภาษาเป็นทักษะที่ผู้ใช้ต้องฝึกฝน

ให้เกิดความชำนาญไม่ว่าจะเป็นการอ่านการเขียนการพูดการฟังและการดูสื่อต่าง ๆ รวมทั้งต้องใช้

ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทางภาษาเพื่อสื่อสารให้เกิดประสิทธิภาพและใช้อย่างคล่องแคล่วหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ได้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาไทยจึงกำหนดสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยออกเป็น 5 สาระ ได้แก่ สาระที่ 1 การอ่าน

สาระที่ 2 การเขียน สาระที่ 3 การฟัง สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม ซึ่งทุกสาระล้วนเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนให้เกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพื่อสื่อสาร

ให้ผู้เขียนเลือกใช้คำเรียบเรียงความคิด ความรู้ให้ชัดเจน ใช้ภาษาให้ถูกต้องตามหลักภาษา ใช้ถ้อยคำ

ให้ตรงความหมาย ถูกต้องตามฐานะและสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการเรียนสาระวรรณคดีและวรรณกรรม ผู้เรียนต้องเห็นความงดงามของถ้อยคำและคุณค่าในบทร้อยกรอง เข้าใจเรื่องราว

ในวรรณคดี ดังนั้น การอ่านบทร้อยกรองที่ไพเราะหรือการท่องบทอาขยาน ก็จะเป็นต้นทุนและพื้นฐานของการแต่งบทร้อยกรองในระดับที่สูงขึ้นและทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สังคมชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทยอีกด้วย (กระทรวงศึกษาธิการ. 2552 : 9)

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 มาตรา 22 ระบุไว้ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้ ดังนั้นถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ มาตรา 23 ระบุว่าการจัดการศึกษา

ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยต้องเน้นความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับการศึกษาในเรื่องของความรู้ ทักษะด้านภาษาไทยและเทคโนโลยี รวมทั้งความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์เรื่องการใช้ภาษาในการสื่อสารทำความเข้าใจในเนื้อหาความรู้ที่ศึกษาค้นคว้าได้อย่างถูกต้อง จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติเห็นความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สามารถอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข ด้วยความสำคัญดังกล่าว หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดให้ภาษาไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริง ภาษาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เพราะมนุษย์ในโลกล้วนใช้ภาษา

ในการติดต่อสื่อสารกัน กระทรวงศึกษาธิการ (2551:37) ได้กำหนดการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยจำเป็นต้องมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะทั้ง 5 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และเข้าใจหลักการใช้ภาษาไทยอย่างสัมพันธ์กันเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอ่านออกเสียงและอ่านในใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการอ่านได้รวดเร็วตามเวลาที่กำหนด อธิบายซักถามรายละเอียดความคิดเห็น ตลอดจนจับใจความสำคัญและนัยของข้อความและเรื่องที่อ่าน เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการอ่านมีทักษะในการอ่านในใจและอ่านออกเสียงได้ถูกต้องคล่องแคล่วรวดเร็ว สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกจากเรื่องราวที่อ่านได้ สามารถจับใจความสำคัญคิด

เชิงวิจารณ์และวิเคราะห์ใจความสำคัญปฏิบัติตนจนเป็นนิสัยที่ดีในการอ่านหนังสือและรักการอ่าน เช่นเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2551:1) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของ

การอ่านและเขียนคำควบกล้ำแท้และคำควบกล้ำไม่แท้ที่มีต่อการเรียนการสอนจึงกำหนดเรื่อง การอ่านและเขียนคำควบกล้ำแท้และคำควบกล้ำไม่แท้ไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสาระที่ 4 หลักการใช้ภาษา มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทยการเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติและกำหนดตัวชี้วัดเรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำแท้และคำควบกล้ำไม่แท้ จากความคิดเห็นของนักวิชาการที่ได้เล็งเห็นถึงการอ่านจับใจความว่ามีความสำคัญต่อการเรียนของนักเรียนเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับ กิติมา สุรสนธิ (2556:91) ได้กล่าวไว้ว่า ในด้านการสอนอ่านในโรงเรียนต่าง ๆ เท่าที่เป็นอยู่ปรากฏว่าผู้สอนจะประสบปัญหาอย่างมาก คือไม่ทราบว่าจะใช้วิธีสอนแบบใด จึงจะช่วยให้เด็กอ่านหนังสือได้อย่างคล่องแคล่วมีหลักการในการออกเสียงและสะกดคำควบกล้ำต่าง ๆ ที่ถูกต้อง

จากประสบการณ์ของผู้รายงานที่ได้จัดกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระวิชาภาษาไทยให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 2 โรงเรียนบ้านโต๊ะเด็ง จังหวัดนราธิวาส พบว่า ร้อยละ 80

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโต๊ะเด็ง จังหวัดนราธิวาส ส่วนใหญ่ยังขาดทักษะ

การอ่านออกเสียง อ่านสะกดคำ และเขียนคำควบกล้ำ ยังไม่ถูกต้องตามหลักราชบัณฑิตยสถาน

พ.ศ. 2554 ส่งผลให้จับประเด็นจากการอ่านเกิดความผิดเพี้ยน และไม่เข้าใจในสิ่งที่อ่าน ไม่สามารถเรียบเรียงเป็นภาษาของตนเองได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเรียนวิชาภาษาไทย เนื่องจาก

วิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความจำเป็นต้องใช้ทักษะกระบวนการทั้ง 4 ด้านคือ การฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งทักษะพื้นฐานสำคัญ คือ การอ่าน เมื่อนักเรียนอ่านสะกดคำและเขียนคำควบกล้ำในบทเรียน

ที่อ่านไม่ได้ จะทำให้ไม่เข้าใจในบทเรียนซึ่งนำไปสู่การมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ อีกทั้งทักษะการอ่านนี้ยังจำเป็นในทุกรายวิชาอีกด้วย จากปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้สอนแสวงหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำของนักเรียน และค้นพบวิธีการที่สามารถใช้ในการพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำได้ก็ คือ การจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำ

ซึ่งภายในเล่มเป็นเนื้อหาความรู้ และคำควบกล้ำที่ใกล้ตัวและผู้เรียนพบเจอในชีวิตประจำวัน ใช้คำคล้องจองเพื่อดึงความสนใจในการเรียนของผู้เรียน ซึ่งสามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดของเรื่องที่อ่านได้อย่างรวดเร็ว จดจำได้ดี และทบทวนเรื่องราวที่อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้รายงานจึงได้ทำการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำ

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโต๊ะเด็ง จังหวัดนราธิวาส

ผู้รายงานเลือกสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เพราะจะสามารถช่วยพัฒนาทักษะทางด้านการอ่านและเขียนคำควบกล้ำ และการใช้ภาษาของนักเรียนได้ นักเรียนสามารถจดจำเนื้อหาได้อย่างคงทน ครูผู้สอนสามารถเห็นความก้าวหน้า และข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคลได้ ช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

จากแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของผู้รายงาน ที่ต้องการพัฒนานักเรียนให้ไปถึงเป้าหมาย

ที่วางไว้ ทำให้เกิดนวัตกรรม แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชุดนี้ ขึ้นมาใช้สอนกับนักเรียนโรงเรียนบ้านโต๊ะเด็ง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งผลการวิจัยครั้งนี้จะเป็นแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอน

ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป

โพสต์โดย ครูไลลา : [6 เม.ย. 2565 เวลา 08:24 น.]
อ่าน [2348] ไอพี : 124.122.39.73
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,380 ครั้ง
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...

เปิดอ่าน 17,943 ครั้ง
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.5 โดย สสวท.
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.5 โดย สสวท.

เปิดอ่าน 21,258 ครั้ง
กุ้งเดินขบวน Unseen in Thailand มหัศจรรย์ธรรมชาติ อ.น้ำยืน
กุ้งเดินขบวน Unseen in Thailand มหัศจรรย์ธรรมชาติ อ.น้ำยืน

เปิดอ่าน 45,842 ครั้ง
ประโยชน์จาก "ส้มตำ"
ประโยชน์จาก "ส้มตำ"

เปิดอ่าน 7,311 ครั้ง
การประยุกต์สถิติในชีวิตประจำวัน
การประยุกต์สถิติในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 11,881 ครั้ง
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 2,057 ครั้ง
5 วิธีง่ายๆ! ช่วยหยุดทานอาหารด้วยความเครียด
5 วิธีง่ายๆ! ช่วยหยุดทานอาหารด้วยความเครียด

เปิดอ่าน 11,322 ครั้ง
14 สไตล์มรณะ ปัจจัยเสี่ยง "มะเร็ง‏"
14 สไตล์มรณะ ปัจจัยเสี่ยง "มะเร็ง‏"

เปิดอ่าน 11,745 ครั้ง
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เปิดอ่าน 8,327 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง

เปิดอ่าน 22,394 ครั้ง
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)

เปิดอ่าน 12,843 ครั้ง
โรคเอ็มเอส โรคร้ายของหนุ่มสาว
โรคเอ็มเอส โรคร้ายของหนุ่มสาว

เปิดอ่าน 54,431 ครั้ง
ดาวน์โหลด แนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง
ดาวน์โหลด แนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง

เปิดอ่าน 18,319 ครั้ง
10 อันดับ ปริศนาของโลก
10 อันดับ ปริศนาของโลก

เปิดอ่าน 35,711 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรปฐมวัย (ฉบับปรับปรุง2560) โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง ไฟล์เวิร์ด
ตัวอย่างหลักสูตรปฐมวัย (ฉบับปรับปรุง2560) โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง ไฟล์เวิร์ด

เปิดอ่าน 21,766 ครั้ง
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก
เปิดอ่าน 7,850 ครั้ง
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2
เปิดอ่าน 66,967 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
เปิดอ่าน 36,279 ครั้ง
การวิจัยด้วยเทคนิคเดลฟาย
การวิจัยด้วยเทคนิคเดลฟาย
เปิดอ่าน 10,617 ครั้ง
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ