| กำเนิดภาษาไทย ( ลายสือไทย ) |
|
|
|
| |
|
ในอดีตนั้นภาษาและตัวหนังสือของคนไทยได้รับอิทธิพลมาจากมอญและขอม ซึ่งมีความเจริญมาจากชาติอื่นในสุวรรณภูมิ ต่อมาเมื่อพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงประกาศอิสรภาพจากขอม จึงเลิกใช้ขนบประเพณีแบบขอม และเลิกใช้ภาษาขอมในทางราชการ เปลี่ยนเป็นภาษาไทยแทน แต่ยังคงเขียนด้วยภาษาขอมหวัด
ในปีพ.ศ.๑๘๒๖พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประชุมนักปราชญ์ราชบัณฑิตร่วมกันประดิษฐ์
อักษรไทยขึ้น เรียกว่า ลายสือไทย

|
รูปแบบลายสือไทย
|
ลักษณะของลายสือไทย
มีผู้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับลายสือไทยต่างๆกัน บ้างก็ว่ามาจากอักษรปัลลวะ อักษรมอญ และอักษรขอม ซึ่งพระองค์คงจะเอาเลือกเอาลักษณะของตัวอักษรที่สะดวกแก่การเขียนมากที่สุด มาดัดแปลงเป็นอักษรไทย ดังนี้
- รูปพยัญชนะส่วนใหญ่นั้นดัดแปลงมาจากอักษรขอม บางส่วนก็มาจากปัลลวะ และมอญ
- รูปสระนั้นดัดแปลงมาจากอักษรขอม มีครบทุกเสียงในภาษาไทย
- รูปวรรณยุกต์คิดขึ้นใหม่ทั้งหมด มี ๒ รูป คือ ไม้เอก และไม้โท
- ตัวเลขนั้นดัดแปลงมาจากตัวเลขขอม
คุณลักษณะพิเศษของลายสือไทย คือ ความสูงต่ำของตัวอักษรนั้นเสมอกันและวางรูปพยัญชนะและสระทุกตัวไว้ในบรรทัดเดียวกัน ทำให้ไม่สิ้นเปลืองเนื้อที่ รูปอักษรมีมากพอ รูปอักษรส่วนมากเป็นเส้นเดียวกันตลอด ทำให้้เขียนง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องยกปากกา
การเปลี่ยนแปลงอักษรของพ่อขุนรามคำแหง
ในรัชกาลพญาลิไท ( พ.ศ. ๑๙๐๐ ) การเขียนตัวอักษรมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิหลายประการ เช่น
- รูปสระ อิ อี อื อยู่บนพยัญชนะ อุ อู อยู่ล่าง
- รูปสระ ใ ไ โ สูงขึ้นเกินพยัญชนะ
- เริ่มใช้ไม้หันอากาศบ้าง แต่ยังไม่ใช้ทั่วไป
- ตัว ญ เขียนเช่นเดียวกับปัจจุบัน
- เพิ่มตัว ฤา ฦา
ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ( พ.ศ.๒๑๙๙ – ๒๒๓๑)ได้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะอักษรและอักขระวิธี ดังนี้
- ใช้ไม้หันอากาศโดยทั่วไป
- สระเอีย ใช้เช่นเดียวกับปัจจุบัน ทั้งแบบมีตัวสะกด และไม่มีตัวสะกด
- สระอือ สระออ เมื่อไม่มีตัวสะกดใช้ อ เคียง
- สำหรับวรรณยุกต์นั้น สันนิษฐานว่ามีครบ ๔ รูป เช่นเดียวกับปัจจุบัน ดัังหลักฐานที่ปรากฏนหนังสือจินดามณีซึ่งแต่งในรัชกาลนี้
ที่มา : กุหลาบ มัลลิกามาส หนังสือวรรณกรรมไทย / ภาษาสยามดอทคอม
|
วันที่ 27 ก.ค. 2552
ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง
฿1,790https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6
Advertisement
 เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,293 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,297 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,300 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,298 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,296 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,293 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,294 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,304 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,345 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,299 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,293 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,325 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,293 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,294 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 8,296 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 8,294 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,304 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,296 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,291 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,295 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,294 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 886 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 22,847 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 20,768 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 903 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 22,661 ครั้ง |
|
|