ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ตัวอย่างวิจัยในชั้นเรียน


เรื่องราวจากสมาชิก

8,109

views
Advertisement

ตัวอย่างวิจัยในชั้นเรียน

เห็นสถิติเรื่องวิจัยในชั้นเรียนมีผู้สนใจเขาชมจำนวนมาก จึงพยายามนำวิจัยในชั้นเรียนมานำเสนออีกหลายๆกลุ่มสาระ เพื่อเป็นแนวทางในการทำวิจัย ในวันี้จึงขอเสนอวิจัยอีกหนึ่งกลุ่มสาระ

  วิจัยในชั้นเรียน

เรื่อง       การติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาความสนใจและผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน

              ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1

ผู้วิจัย     นายพลเอก     สว่างแจ้ง                     

สภาพปัญหา

                จากการสอนวิชา วาดเส้นแสงเงา   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1  ประจำปีการศึกษา  2546 ในการเรียนการสอนที่ผ่านมา    มีนักเรียนที่สนใจเลือกเรียนวิชา  วาดเส้นแสงเงา     จำนวน   3    ห้องเรียน มีนักเรียน  150  คน จากการสังเกตและตรวจผลงานของนักเรียนในภาคเรียนที่  1   ผู้วิจัยพบประเด็นสำคัญที่เป็นปัญหา คือ มีนักเรียน  5  คน ในจำนวน 150   คน  ไม่ส่งชิ้นงานจึงส่งผลให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำในภาคเรียนที่  1     ผู้วิจัยได้สังเกตและตรวจสอบคะแนนรายจุด  พบว่า  นักเรียนขาดความสนใจ ไม่เอาใจใส่ขณะปฏิบัติงาน     และไม่ส่งชิ้นงานที่ครูสั่งตามจุดประสงค์การเรียนรู้ของวิชา  วาดเส้นแสงเงา  ดังนี้

ตารางที่  1  แสดงการส่งชิ้นงานตามจุดประสงค์  10  ชิ้นงาน  ของภาคเรียนที่  1  พ.ค. ถึง   ก.ย.  2546

                               ชิ้นงาน

            ชื่อ

 

1

 

2

 

3

 

4

 

5

 

6

 

7

 

8

 

9

 

10

 

รวม

ร้อยละ

เด็กชาย ก

/

/

/

 

 

 

 

 

 

 

3

30

เด็กชาย ข

/

/

 

 

 

 

 

 

 

 

2

20

เด็กชาย ค

/

/

/

 

 

 

 

 

 

 

3

30

เด็กชาย ง

/

/

/

 

 

 

 

 

 

 

3

30

เด็กชาย จ

/

/

 

 

 

 

 

 

 

 

2

20

                ในภาคเรียนที่  2  มีการเรียนการสอนวิชา วาดเส้นแสงเงา  ต่อจากภาคเรียนที่  1  จากการสังเกตของผู้วิจัย พบว่า นักเรียน  5  คนเดิม  ยังมีพฤติกรรมไม่สนใจและไม่ส่งชิ้นงานเหมือนภาคเรียนที่  1  ดังนี้

ตารางที่  2  แสดงการส่งชิ้นงานตามจุดประสงค์  3  ชิ้นงานใน 10 ชิ้น ของภาคเรียนที่  2  เดือนพฤศจิกายน   2546

                               ชิ้นงาน

            ชื่อ

 

1

 

2

 

3

 

4

 

5

 

6

 

7

 

8

 

9

 

10

 

รวม

ร้อยละ

เด็กชาย ก

-

-

-

 

 

 

 

 

 

 

0

0

เด็กชาย ข

-

-

-

 

 

 

 

 

 

 

0

0

เด็กชาย ค

-

-

-

 

 

 

 

 

 

 

0

0

เด็กชาย ง

-

-

-

 

 

 

 

 

 

 

0

0

เด็กชาย จ

-

-

-

 

 

 

 

 

 

 

0

0

                จากข้อมูลในตารางที่  2  ผู้วิจัยมีความคาดหวังว่านักเรียนทั้ง  5  คน  แนวโน้มน่าจะมีปัญหา  เพราะนักเรียนไม่ให้ความสนใจการเรียนและไม่ส่งชิ้นงาน     อาจทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ  และไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินรายวิชา วาดเส้นแสงเงา ปลายปีการศึกษาได้

ปัญหาการวิจัย     ทำอย่างไรจะช่วยให้นักเรียน  5  คน  สนใจการเรียน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

เป้าหมายการวิจัย  เพื่อพัฒนาความสนใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน  ด้วยเทคนิคการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด

วิธีการวิจัย           

1. กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2546 จำนวน 5 คน

2. วิธีการ

       2.1 ประชุมนักเรียนทั้ง 5 คน เพื่อชี้แจงและตกลงร่วมกันถึงหลักการปฏิบัติงาน และทำข้อตกลงในการส่งชิ้นงาน ภายในเดือนธันวาคม 2546

       2.2 ต้นเดือนมกราคม 2547 ประชุมนักเรียนทั้ง 5 คน เพื่อตักเตือนด้วยวาจา ถึงการไม่ส่งชิ้นงานตามข้อตกลงภายในเดือนธันวาคม 2546 ที่ผ่านมา

       2.3 สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ผู้วิจัยให้แรงเสริมทางลบ ด้วยการทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมด้วยการทำความสะอาดห้องเรียน ผู้วิจัยเน้นย้ำถึงข้อตกลงอีกครั้ง

       2.4 สัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ผู้วิจัยให้การเสริมแรงทางบวกด้วยการชมเชยและให้การเสริมแรงทางลบสำหรับนักเรียนไม่ส่งชิ้นงาน ด้วยการทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์โดยการรดน้ำต้นไม้หน้าอาคารเรียน และจัดหาที่เฉพาะให้แก่นักเรียนที่ปฏิบัติงานไม่เสร็จและไม่ส่งชิ้นงาน โดยผู้วิจัยดูแลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด

       2.5 สัปดาห์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ผู้วิจัยให้ ผู้วิจัยให้การเสริมแรงทางบวกด้วยการชมเชยและให้การเสริมแรงทางลบสำหรับนักเรียนไม่ส่งชิ้นงาน ด้วยการทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์โดยการทำความสะอาดหน้าอาคารเรียน  และจัดหาที่เฉพาะให้แก่นักเรียนที่ปฏิบัติงานไม่เสร็จและไม่ส่งชิ้นงาน  โดยผู้วิจัยดูแลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด  และลงคะแนนแต่ละชิ้นงานในสมุด  ปพ.5  ให้นักเรียนทั้ง  5  คน  ได้เห็นและตระหนักถึงความรับผิดชอบในการส่งชิ้นงาน ซึ่งนักเรียนจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น

3. วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล

     3.1 การสัมภาษณ์นักเรียนทั้ง 5 คน เพื่อนที่สนิทของนักเรียนทั้ง 5 คน ผู้ปกครองของนักเรียน และครู-อาจารย์ผู้สอนในแต่ละรายวิชา นักเรียนทั้ง 5 คน ในบางรายวิชาส่งชิ้นงานครบ บางรายวิชาส่งชิ้นงานไม่ครบ

     3.2 บันทึกผลการสังเกตการปฏิบัติงานในขณะเรียน

     3.3 บันทึกผลคะแนนเป็นรายชิ้นงาน

4. วิธีวิเคราะห์ข้อมูล

     ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการพิจารณาข้อมูลต่างๆที่ได้จากการสัมภาษณ์นักเรียนทั้ง  5  คน  เพื่อนนักเรียน  ผู้ปกครอง  และครู-อาจารย์ที่สอนนักเรียนทั้ง  5  คน  นำข้อมูลที่ได้มาประมวลภาพรวมแล้ววิเคราะห์ สรุป รวมทั้งการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานของนักเรียนในขณะเรียน และดูบันทึกผลคะแนนเป็นรายชิ้นงาน     มาเปรียบเทียบกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในภาคเรียนที่  1  พบว่า

                                ภาคเรียนที่  1  ผู้วิจัยไม่ได้ใช้เทคนิคการติดตามดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด นักเรียนจึงมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน    โดยดูจากตารางที่  1    ดังนี้

เด็กชาย  ก     มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ             30

เด็กชาย  ข     มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ             20

เด็กชาย  ค     มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ             30

เด็กชาย  ง      มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ             30

เด็กชาย  จ     มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ              20

                                ภาคเรียนที่  2  ผู้วิจัยใช้เทคนิคการติดตามดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด แล้วนักเรียนจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นหรือไม่  จดบันทึกข้อมูลไว้เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบกับภารเรียนที่  1  ของนักเรียนทั้ง  5  คน   

5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

     จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ปรากฏผลผลดังนี้

การวิจัยเรื่อง  การติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาความสนใจและผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1  วิชา  วาดเส้นแสงเงา  ปรากฏผล  การติดตามดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด  ของนักเรียน  5  คน  มีผลดังนี้

ตารางที่  3  แสดงการส่งชิ้นงานตามจุดประสงค์  10  ชิ้นงาน ของภาคเรียนที่  2  เดือน ธ.ค. 46 ถึง ก.พ.  2547

                               ชิ้นงาน

            ชื่อ

 

1

 

2

 

3

 

4

 

5

 

6

 

7

 

8

 

9

 

10

 

รวม

ร้อยละ

เด็กชาย ก

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

10

100

เด็กชาย ข

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

10

100

เด็กชาย ค

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

10

100

เด็กชาย ง

/

/

/

/

-

/

/

/

/

/

9

90

เด็กชาย จ

/

/

/

/

-

/

/

/

/

-

8

80

เมื่อพิจารณาวิเคราะห์ข้อมูลจากตารางที่  3  การพัฒนาความสนใจของนักเรียนโดยการใช้เทคนิคการติดตามดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดแล้ว  พบว่า  นักเรียนทั้ง  5  คน  ได้มีการพัฒนาความสนใจและผลสัมฤทธิ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด   ดังนี้

เด็กชาย  ก    มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ             100

เด็กชาย  ข    มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ             100

เด็กชาย  ค    มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ             100

เด็กชาย  ง     มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ               90

เด็กชาย  จ    มีความสนใจและหรือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ               80

ข้อเสนอแนะ

1. เทคนิคการติดตามดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อครูผู้สอนได้ลงมือปฏิบัติจริง ต้องมีการบันทึกข้อมูลต่างๆให้เป็นปัจจุบัน มีใจรัก อดทน ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการติดตามดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด

2. นักเรียนบางกลุ่มใช้แรงเสริมทางบวกแล้วไม่ได้ผล บางกลุ่มใช้แรงเสริมทางลบแล้วไม่ได้ผล และบางกลุ่มต้องใช้แรงเสริมทั้งทางบวกและทางลบควบคู่กันไปจึงจะได้ผล บางกลุ่มอาจใช้แรงจูงใจทั้งทางบวกและทางลบไม่ได้ผล ขึ้นอยู่กับครูผู้ทำวิจัยจะต้องวิเคราะห์ตัวนักเรียนและสภาพแวดล้อมกลุ่มที่มีปัญหาว่าจะใช้วิธีการใดที่กล่าวมา เพื่อแก้ปัญหา

ภาคผนวก  ผังการดำเนินงาน

เรื่อง การติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาความสนใจ

และผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  

ขั้นตอนที่ 1

สร้างข้อตกลงร่วมกัน

- สร้างข้อตกลงร่วมกัน   เฉพาะนักเรียนที่มีปัญหา

 

 

 ผล = นักเรียนเสนอข้อตกลง            และได้ข้อตกลงร่วมกัน

ขั้นตอนที่ 2

ตักเตือน

- ตักเตือนด้วยวาจา   เฉพาะนักเรียนที่มีปัญหา

 

 

ผล = นักเรียนรับรู้รับฝัง

ขั้นตอนที่ 3

เสริมแรงทางบวกและทางลบ

- เสริมแรงทางบวกด้วยการชมเชยเฉพาะนักเรียนส่งงาน

 

 

ผล = นักเรียนมีความพึงพอใจ

ขั้นตอนที่ 4

เสริมแรงทางบวก เสริมแรงทางลบ และจัดหาที่เฉพาะให้ปฏิบัติกิจกรรม

- เสริมแรงทางลบด้วยการให้ทำกิจกรรมเฉพาะนักเรียนไม่ส่งงานผล = นักเรียนมีความพึงพอใจ

 

 

- จัดหาที่เฉพาะให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมและให้การดูแลอย่างใกล้ชิด

ขั้นตอนที่ 5

เปรียบเทียบความสนใจ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ภาคเรียนที่ 1 กับภาคเรียนที่ 2

ผล = นักเรียนปฏิบัติงานได้ชิ้นงานครบตามจุดประสงค์ การเรียนรู้

 

                                                   ไม่ได้ผล      

                                 ย้อนกลับตรวจสอบตามขั้นตอน 1-5 ใหม่

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 27 มี.ค. 2552

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


ตัวอย่างวิจัยในชั้นเรียน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

จนเงิน.....แต่อย่าจนความดี

จนเงิน.....แต่อย่าจนความดี


เปิดอ่าน 8,119 ครั้ง
YESTERDAY

YESTERDAY


เปิดอ่าน 8,120 ครั้ง
ทะเลงาม...2

ทะเลงาม...2


เปิดอ่าน 8,108 ครั้ง
10 ท่า....บริหารลดพุง

10 ท่า....บริหารลดพุง


เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง
โอวว...สุดยอด..!!

โอวว...สุดยอด..!!


เปิดอ่าน 8,111 ครั้ง
บริหารสะโพกให้ดูดี......

บริหารสะโพกให้ดูดี......


เปิดอ่าน 8,115 ครั้ง
การอ่านตัว  ฤ

การอ่านตัว ฤ


เปิดอ่าน 8,289 ครั้ง
พ่ายแพ้อย่างสง่างาม

พ่ายแพ้อย่างสง่างาม


เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง
ทะเลหมอกดอกซากุระบาน

ทะเลหมอกดอกซากุระบาน


เปิดอ่าน 8,114 ครั้ง
ยอดมิตร

ยอดมิตร


เปิดอ่าน 8,115 ครั้ง
แบบสำรวจบุคลิกนิสัยใจคอ

แบบสำรวจบุคลิกนิสัยใจคอ


เปิดอ่าน 8,109 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

13 คือเลขอาถรรพ์

13 คือเลขอาถรรพ์

เปิดอ่าน 8,114 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คุ้ม คุ้ม จริงๆ [โดยรองผู้อำนวยการฯ ปิยะลักษณ์ เอื้อกมลสุโข]
คุ้ม คุ้ม จริงๆ [โดยรองผู้อำนวยการฯ ปิยะลักษณ์ เอื้อกมลสุโข]
เปิดอ่าน 8,122 ☕ คลิกอ่านเลย

ภัยหลอดตะเกียบ
ภัยหลอดตะเกียบ
เปิดอ่าน 8,125 ☕ คลิกอ่านเลย

รักต่างวัย... ใครว่าไม่ลงตัว
รักต่างวัย... ใครว่าไม่ลงตัว
เปิดอ่าน 8,114 ☕ คลิกอ่านเลย

ฝากนักเรียนด้วย...เทคนิคอ่านหนังสือเรียนให้สนุก...
ฝากนักเรียนด้วย...เทคนิคอ่านหนังสือเรียนให้สนุก...
เปิดอ่าน 8,122 ☕ คลิกอ่านเลย

 วันสงกรานต์
วันสงกรานต์
เปิดอ่าน 8,121 ☕ คลิกอ่านเลย

>>>10 วิธี ประหยัดกระดาษ อย่างสร้างสรรค์!!!
>>>10 วิธี ประหยัดกระดาษ อย่างสร้างสรรค์!!!
เปิดอ่าน 8,166 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เครื่องกรองน้ำสำหรับออฟฟิศ ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ เลือกยังไง?
เครื่องกรองน้ำสำหรับออฟฟิศ ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ เลือกยังไง?
เปิดอ่าน 990 ครั้ง

4 อาหารอัพสมองให้ใสในยามบ่าย คิดงานอะไรก็เวิร์ก
4 อาหารอัพสมองให้ใสในยามบ่าย คิดงานอะไรก็เวิร์ก
เปิดอ่าน 17,852 ครั้ง

7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
เปิดอ่าน 12,610 ครั้ง

9 ประเภทธุรกิจที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ปี 2567
9 ประเภทธุรกิจที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ปี 2567
เปิดอ่าน 1,900 ครั้ง

ล้มต้นไม้มือเปล่า ผู้ชายคนนี้ ขวานไม่ต้อง
ล้มต้นไม้มือเปล่า ผู้ชายคนนี้ ขวานไม่ต้อง
เปิดอ่าน 11,440 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ