ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

แนะปรับแผนชาติจัดการศึกษารับกลุ่มน้ำนอกท่อ


ข่าวการศึกษา 24 ก.ค. 2562 เวลา 06:29 น. เปิดอ่าน : 5,199 ครั้ง

Advertisement

แนะปรับแผนชาติจัดการศึกษารับกลุ่มน้ำนอกท่อ

สกศ.จัดประชุมยุทธศาสตร์ชาติสู่แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา "กฤษณพงศ์" ชี้ประเทศไทยเด็กลงลด จำนวนคนสูงอายุพุ่ง แนะปรับระบบการจัดการศึกษารองรับกลุ่มน้ำนอกท่อ หรือ คนที่หารายได้ให้ประเทศ

วันนี้ ( 23 ก.ค.) ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพ ฯ ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมทางวิชาการ "ยุทธศาสตร์ชาติสู่แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา " โดยมีผู้แทนองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษา ผู้และแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้าร่วม ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงกลางของกระบวนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) และ แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และอยู่ระหว่างรอเสนอร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐบาลใหม่ ดังนั้น การขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาต้องอาศัยกลไกที่มีความหลากหลาย โดยใช้ทั้งอำนาจจากกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผล ซึ่งตนจะนำแนวคิดและข้อเสนอที่ได้จากการประชุมนี้ไปปรับปรุงพัฒนาการทำงานของ สกศ. ในะระยะเร่งด่วน 1-3 ปีต่อไป

 

ด้าน ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา อดีตประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของ กอปศ.ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบปัญหาที่มีความหลากหลาย มีความสลับซับซ้อน และมีความเชื่อมโยงกันในหลายมิติ ทั้งนี้ เมื่อสังเคราะห์ปัญหาการศึกษาไทยพบว่ามี 4 ปัญหาใหญ่ คือ 1.คุณภาพการศึกษาไทยต่ำกว่าสากล 2.ความไม่เสมอภาคทางการศึกษา โดยเฉพาะเด็กยากจนหลายคนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา 3.ความสามารถในการแข่งขันนานาชาติ และ 4.ความด้อยประสิทธิภาพและธรรมาภิบาลในการบริหารงาน เช่น การใช้งบฯในการจัดการศึกษา ซึ่งไทยมีงบฯด้านการศึกษาจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ใช้ไปกับเรื่องอื่น ๆ ไม่ได้ใช้เพื่อพัฒนาเด็ก โดย กอปศ. ได้จัดทำข้อเสนอรายงานต่อนายกรัฐมนตรี และเสนอแนะทางออกของการศึกษาด้วยการปฏิรูปการศึกษา 7 ประเด็นไปแล้ว

" กอปศ. ดำเนินการผลักดันกฎหมาย และจัดทำข้อเสนอรายงานต่อรัฐบาลเสร็จสิ้นไปแล้ว 3 ฉบับ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561 พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 รวมถึงแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ขณะเดียวกันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งเป็นเสมือนธรรมนูญทางการศึกษา ที่เป็นกลไกปรับแนวคิดค่านิยมใหม่ที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษายังอยู่ระหว่างรัฐบาลพิจารณา ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องช่วยกันขับเคลื่อนและแปลงสู่การปฏิบัติโดยส่วนราชการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีประสิทธิภาพ" อดีตประธาน กอปศ. กล่าว

 

ขณะที่ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ กล่าวว่า ขณะนี้เด็กเกิดน้อยลง จากเด็กเกิดใหม่ปีละกว่า 1 ล้านคน ปีล่าสุดเด็กเกิดใหม่มีเพียง 7.4 แสนคน แต่คนสูงอายุจะมากขึ้น โดยในอีก 10 ปี คนสูงอายุจะเป็น 1 ใน 4 ของประชากรประเทศ คนสูงอายุยุคต่อไปจะต้องทำงาน คนวัยแรงงานก็ยังไม่ตอบโจทย์ ต้องปรับการเรียนใหม่ คนวัยทำงานมีจำนวน 35 - 40 ล้านคน ดังนั้น ต้องปรับระบบการจัดการศึกษาเพื่อรองรับคนมากกว่า 40 ล้านคน ไม่ใช่รูปแบบเดิมที่มุ่งเน้นดูแลการศึกษา แค่กลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะการลงทุนจัดการศึกษาเด็กวัยเรียนมีความเสี่ยงสูง ปริมาณเด็กวัยเรียนลดลง สวนทางกับวัยทำงานและผู้สูงวัยที่มีมากขึ้น โจทย์การศึกษาต่อไปจึงต้องเปลี่ยนมโนทัศน์ใหม่ อาจจำเป็นต้องปรับให้โรงเรียนที่มีเป็นสถานเรียนรู้ของผูสูงวัย ต่อไปประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงวัยที่ต้องอาศัยความสัมพันธ์ของครอบครัว มีความเอื้ออาทร และความเผื่อแผ่ต่อกันนำมาใช้ซึมซับในระบบการศึกษามากขึ้น

"ในอีก 20 ปี ประเทศไทยต้องเร่งการพัฒนาเพื่อก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง เร่งหนีความจนให้ทัน เพราะมีแต่คนแก่ องค์ความรู้การศึกษาต้องหันมาตื่นตัวการส่งเสริมการเรียนรู้แก่ผู้สูงวัย รวมทั้งการฝึกเด็กรุ่นใหม่ให้มีความเข้าใจสังคมสูงวัย และสามารถร่วมงานกันได้ โจทย์ใหม่ คือ การให้การศึกษากับคนทุกระดับทั้งประเทศ ต้องทบทวนการลงทุนด้านการศึกษากับน้ำนอกท่อ คือ กลุ่มคนที่หารายได้ให้ประเทศ เป็นคนวัยทำงานและผู้สูงอายุที่มีมากถึง 40 ล้านคน ขณะที่น้ำในท่อ คือ กลุ่มเด็กในระบบการศึกษาที่น้อยลง และยังต้องมุ่งวางกรอบการพัฒนาคนตั้งแต่แรกเกิด โดยพัฒนาให้เป็นคนที่สมบูรณ์ มีความพร้อมทั้งสติปัญญา คุณธรรม และจริยธรรม" ดร.กฤษณพงศ์ กล่าว.


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2562

 


แนะปรับแผนชาติจัดการศึกษารับกลุ่มน้ำนอกท่อ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ด่วน! สพฐ.ประกาศสอบบรรจุ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2567 รอบทั่วไป

ด่วน! สพฐ.ประกาศสอบบรรจุ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2567 รอบทั่วไป

เปิดอ่าน 4,024 ☕ 18 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
เปิดอ่าน 4,131 ☕ 26 เม.ย. 2567

รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 644 ☕ 26 เม.ย. 2567

สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
เปิดอ่าน 1,327 ☕ 25 เม.ย. 2567

ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
เปิดอ่าน 686 ☕ 25 เม.ย. 2567

การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
เปิดอ่าน 1,473 ☕ 25 เม.ย. 2567

แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
เปิดอ่าน 1,111 ☕ 25 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
เปิดอ่าน 9,099 ครั้ง

การปฐมพยาบาลแผลถูกแมงป่องต่อย ตะขาบหรือแมงมุมกัด
การปฐมพยาบาลแผลถูกแมงป่องต่อย ตะขาบหรือแมงมุมกัด
เปิดอ่าน 96,517 ครั้ง

โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
เปิดอ่าน 55,075 ครั้ง

บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
เปิดอ่าน 119,591 ครั้ง

เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค
เปิดอ่าน 11,114 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ