ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สมศ. ประเมินปี 67 เสร็จสิ้น ภาพรวมผลการประเมินสถานศึกษา น่าพอใจ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกว่า 90% พบแบบอย่างที่ดีมากกว่า 100 ตัวอย่าง


ข่าวการศึกษา 2 ต.ค. 2567 (09:18 น.) เปิดอ่าน : 496 ครั้ง
Advertisement

สมศ. ประเมินปี 67 เสร็จสิ้น ภาพรวมผลการประเมินสถานศึกษา น่าพอใจ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกว่า 90% พบแบบอย่างที่ดีมากกว่า 100 ตัวอย่าง

Advertisement

กรุงเทพฯ 1 ตุลาคม 2567 – สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาหรือ สมศ. เผยการประเมินคุณภาพภายนอกในรอบปี 2567 เสร็จสิ้นแล้ว โดยมีสถานศึกษาเข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้นกว่า 5,000 แห่ง สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เกือบ 20% สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมใจของหน่วยงานต้นสังกัดและความมุ่งมั่นตั้งใจของสถานศึกษาในการพัฒนาคุณภาพ ปลื้มผลการประเมินในภาพรวมน่าพอใจ มีสถานศึกษาเป็นไปตามมาตรฐานกว่า 90% พบแบบอย่างที่ดีมากกว่า 100 ตัวอย่าง พร้อมชี้จุดเด่น ข้อค้นพบสำหรับการพัฒนาของสถานศึกษา

ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา กล่าวว่า ขณะนี้การประเมินคุณภาพภายนอกประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งทำการประเมินในช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2567 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยสามารถประเมินคุณภาพภายนอกและรับรองผลให้แก่สถานศึกษาในระดับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) จำนวน 2,055 แห่ง และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 3,020 แห่ง สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ ประเภทโรงเรียนนานาชาติ 20 แห่ง และด้านการอาชีวศึกษา จำนวน 44 แห่ง รวมทั้งสิ้น 5,139 แห่ง ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 939 แห่ง

สำหรับการประเมินคุณภาพภายนอก ปี พ.ศ.2567 -2571 นี้ สมศ. มุ่งเน้นประเมินเพื่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพ (Quality Improvement) จึงไม่มีการตัดสินผลว่าผ่านหรือไม่ผ่าน โดยมีหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอก ดังนี้ หากสถานศึกษามีผลการดำเนินงานในแต่ละมาตรฐานเป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ถือว่า ผลการประเมินคุณภาพภายนอก “เป็นไปตามมาตรฐาน” แต่หากสถานศึกษามีผลการดำเนินงานของสถานศึกษาที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ผลการประเมินคุณภาพภายนอก ถือว่า “อยู่ระหว่างการพัฒนา” ซึ่งภายหลังจากการประเมินคุณภาพภายนอกประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พบว่าสถานศึกษาทั้ง 3 ระดับ มีข้อค้นพบที่โดดเด่นเป็นแบบอย่างที่ดี (Best Practice) สามารถเป็นแนวทางให้สถานศึกษาอื่นๆ นำไปประยุกต์ใช้ได้กว่า 100 ตัวอย่าง

นอกจากข้อค้นพบที่โดดเด่นแล้ว ยังมีข้อค้นพบที่เป็นจุดเด่นและจุดที่ควรพัฒนา 3 อันดับแรก ของแต่ละประเภทสถานศึกษา ดังนี้

การศึกษาปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็ก มีข้อค้นพบที่เป็นจุดเด่น ประกอบด้วย 1) เด็กส่วนใหญ่มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เล่นแสดงความรู้สึกควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมทั้งต่อตนเองและผู้อื่นได้ รู้จักปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้เหมาะสมตามวัย 2) สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง มีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองชุมชนและหน่วยงานภายนอก สื่อสารให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการศึกษาปฐมวัยและการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย ส่งผลให้เกิดความร่วมมือระหว่างศูนย์พัฒนาเด็กกับชุมชนเป็นอย่างดี 3) ครูหรือผู้ดูแลเด็กมีการส่งเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ปลูกฝังคุณธรรมและการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม โดยการบูรณาการผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ในกิจวัตรประจำวัน ทำให้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้มีความต่อเนื่องเป็นระบบ จุดที่ควรพัฒนา ประกอบด้วย 1) เด็กบางส่วนยังไม่สามารถคิดและตัดสินใจแก้ปัญหาได้ตามวัย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ยังไม่สามารถส่งเสริมให้เด็กส่วนใหญ่มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างต่อเนื่อง 2) สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยบางส่วนยังขาดการนิเทศและประเมินการปฏิบัติงานของครูหรือผู้ดูแลเด็ก ขาดการนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเป็นระบบ การช่วยเหลือ แนะนำ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูหรือผู้ดูแลเด็กยังไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้การปฏิบัติงานของครูยังไม่เป็นระบบและไม่ต่อเนื่อง 3) หลักสูตรของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยบางส่วนไม่สอดคล้องตามบริบท ขาดการประเมินผลการใช้หลักสูตรและแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และขาดการปรับปรุงทบทวนหลักสูตรให้เป็นปัจจุบัน ส่งผลให้การนำไปสู่การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีข้อค้นพบที่เป็นจุดเด่น ประกอบด้วย 1) สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม และมีการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ทบทวนผลการดำเนินงานที่ผ่านมา วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 2) สถานศึกษามีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามบริบทของสถานศึกษาหรือตามนโยบายที่ต้นสังกัดกำหนด มีแนวทางป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ติดตามเฝ้าระวัง ป้องกันการเกิดอุบัติภัย ภัยพิบัติ 3) สถานศึกษามีการจัดทำแผนงานพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญในการประกอบวิชาชีพและส่งเสริมให้ครูและบุคลากรได้รับการอบรมพัฒนาทางด้านวิชาชีพและการจัดการความเสี่ยงความปลอดภัย นำไปสู่การทำผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะที่สูงขึ้น ส่วน จุดที่ควรพัฒนา ประกอบด้วย 1) สถานศึกษาบางแห่งยังกำหนดนโยบาย ทิศทาง กลยุทธ์ และแผนงานไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม ขาดการบริหารงานอย่างมีส่วนร่วมและขาดการนำผลการประกันคุณภาพทั้งภายในและภายนอกมาใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม 2) ผู้บริหารสถานศึกษาบางแห่งขาดการนำผลการนิเทศไปพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครู และยังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูไม่ต่อเนื่อง 3) สถานศึกษามีความพยายามในการสร้างเสริมความสามารถนำตนเองในการเรียนรู้ของผู้เรียน แต่แหล่งเรียนรู้ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้ง สถานศึกษามีหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง แต่ยังขาดการบูรณาการแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางในการเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีสมรรถนะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์

ด้านการอาชีวศึกษา มีข้อค้นพบที่เป็นจุดเด่น ประกอบด้วย 1) ทักษะและการนำไปประยุกต์ใช้ของผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษา 2) สถานศึกษามีการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น แหล่งเรียนรู้ สถานที่ฝึกงาน 3) สถานศึกษามีการส่งเสริมสนับสนุนให้จัดทำนวัตกรรม (Innovation) สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ และงานวิจัย ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์และเผยแพร่สู่สาธารณชน จุดที่ควรพัฒนา ประกอบด้วย 1) สถานศึกษาควรจัดเก็บข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาอย่างเป็นระบบและสอดคล้องตามกระบวนการ PDCA 2) สถานศึกษาควรมีการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสถานประกอบการทุกสาขาวิชาและทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 3) สถานศึกษาควรส่งเสริมให้ครูมีการกระบวนการพัฒนา ปรับปรุงหลักสูตรหรือเนื้อหารายวิชาอย่างต่อเนื่องให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสังคม

ดร.นันทา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมผลการประเมินคุณภาพภายนอกประจำปีงบประมาณ 2567 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ สถานศึกษาส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานซึ่งมีการดำเนินการตามเป้าหมายที่แต่ละสถานศึกษากำหนดไว้ในแผนพัฒนากว่าร้อยละ 90 และมีแบบอย่างที่ดี (Best Practice) ในทุกระดับการศึกษารวมมากกว่า 100 ตัวอย่างซึ่ง สมศ. จะทำการรวบรวมและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเพื่อเผยแพร่หน้าเว็บไซต์ สมศ. www.onesqa.or.th สำหรับให้สถานศึกษาที่สนใจเข้ามาศึกษา และนำตัวอย่างที่เหมาะสมไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทสถานศึกษาของตนต่อไป

“สำหรับการประเมินคุณภาพภายนอกประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สมศ. ยังคงยึดหลักการประเมินคุณภาพภายนอกตามนโยบาย “ลดภาระ เรียนดี มีความสุข” ของพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และมุ่งเน้น 3 ประเด็นหลักเช่นเดิม คือ1) การประกันคุณภาพภายนอกเพื่อการพัฒนา และยกระดับคุณภาพ (Quality Improvement) ไม่ใช่การประเมินเพื่อตัดสินว่าผ่าน หรือ ไม่ผ่าน แต่เน้นสะท้อนภาพความเป็นจริง พร้อมให้ข้อเสนอแนะที่สอดคล้องตามบริบทของสถานศึกษา 2) มุ่งลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดการใช้เอกสาร และงดพิธีการต้อนรับต่างๆ และ 3) นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้สนับสนุนการประเมินตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอนและความซ้ำซ้อน รวมถึงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประเมิน” ดร.นันทา กล่าวทิ้งท้าย 


สมศ. ประเมินปี 67 เสร็จสิ้น ภาพรวมผลการประเมินสถานศึกษา น่าพอใจ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกว่า 90% พบแบบอย่างที่ดีมากกว่า 100 ตัวอย่างสมศ.ประเมินปี67เสร็จสิ้นภาพรวมผลการประเมินสถานศึกษาน่าพอใจอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกว่า90%พบแบบอย่างที่ดีมากกว่า100ตัวอย่าง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (จำนวน 71 ราย วันที่ 30 กันยายน 2567)

สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (จำนวน 71 ราย วันที่ 30 กันยายน 2567)

เปิดอ่าน 12,016 ☕ 30 ก.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คุรุสภาประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 3/2567 จำนวน 13,216 คน
คุรุสภาประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 3/2567 จำนวน 13,216 คน
เปิดอ่าน 662 ☕ 4 ต.ค. 2567

สพฐ.มีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 40 ราย และย้าย ผอ.สพท.เพิ่มเติม 2 ราย
สพฐ.มีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 40 ราย และย้าย ผอ.สพท.เพิ่มเติม 2 ราย
เปิดอ่าน 5,448 ☕ 3 ต.ค. 2567

ครม.ตั้ง 6 ซี 10 ศธ. ยังไม่ตั้งเลขาธิการ ก.ค.ศ.ให้ "ประวิต" รักษาการต่อจนการย้ายครูระบบใหญ่ TRS จนกว่าจะนิ่ง
ครม.ตั้ง 6 ซี 10 ศธ. ยังไม่ตั้งเลขาธิการ ก.ค.ศ.ให้ "ประวิต" รักษาการต่อจนการย้ายครูระบบใหญ่ TRS จนกว่าจะนิ่ง
เปิดอ่าน 4,287 ☕ 2 ต.ค. 2567

ประกาศผลการประกวดสื่อสร้างสรรค์ คลิปวิดีโอสั้น ภายใต้หัวข้อ "วิถีเด็กไทย น้อมนำพระบรมราโชบายสู่การปฏิบัติ ปี 2567"
ประกาศผลการประกวดสื่อสร้างสรรค์ คลิปวิดีโอสั้น ภายใต้หัวข้อ "วิถีเด็กไทย น้อมนำพระบรมราโชบายสู่การปฏิบัติ ปี 2567"
เปิดอ่าน 830 ☕ 2 ต.ค. 2567

หนังสือ ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.3/1683 ลงวันที่ 27 กันยายน 2567  เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
หนังสือ ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.3/1683 ลงวันที่ 27 กันยายน 2567 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เปิดอ่าน 1,240 ☕ 30 ก.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014
กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014
เปิดอ่าน 11,935 ครั้ง

สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ
สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ
เปิดอ่าน 9,878 ครั้ง

เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว
เปิดอ่าน 11,549 ครั้ง

รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร
รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร
เปิดอ่าน 13,488 ครั้ง

"ข้าวต้มเห็ดฟาง" ลดความดัน
"ข้าวต้มเห็ดฟาง" ลดความดัน
เปิดอ่าน 23,316 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ