ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว


ความรู้ทั่วไป 1 ก.ค. 2558 เวลา 12:20 น. เปิดอ่าน : 19,729 ครั้ง
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว

Advertisement

 

กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือแจ้งเปลี่ยนเวลาประเทศไทยช้าลง1วินาทีเริ่มมีผลแล้วตั้งแต่วันนี้

วันนี้1ก.ค.2558 กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ แจ้งว่า ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเวลามาตรฐานประเทศ

จากเวลา 07นาฬิกา 00นาที 01 วินาที เป็นเวลา 07นาฬิกา 00นาที 00วินาที

เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเวลาตามมาตรฐานสากล

Advertisement

สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ยันปรับเวลาเพิ่ม 1 วินาทีไม่มีปัญหา พร้อมแจงภาคธุรกิจและประชาชน ใช้เวลามาตรฐานเดียวกันทั่วโลก


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) เปิดเผยถึงกรณีที่จะมีการบวกเพิ่มเวลา 1 วินาที ในเวลา 7 นาฬิกาของวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 นี้ ว่า สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) ในฐานะผู้รับผิดชอบในการรักษามาตรฐานทางด้านเวลาและความถี่ของประเทศไทย และยังเป็นสมาชิกของสำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศ (Bureau International des Poids et Measure: BIPM) ประเทศฝรั่งเศส ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมรองรับการเพิ่มเวลา 1 วินาที (Leap Second) หรือ อธิกวินาที พร้อมให้ภาคธุรกิจและประชาชนรับการถ่ายทอดเวลาที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ตามมาตรฐานสากล

นับเป็นความโชคดีของประเทศไทยที่มีการเพิ่มเวลา 1 วินาทีในช่วงที่ยังไม่ใช่เวลาทำการของประเทศไทย ที่ส่วนใหญ่จะเริ่มประมาณ 08.00 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยลดความสับสนในช่วงของการปรับเปลี่ยนเวลา และหากมองในมุมของการเรียนรู้ ก็ถือเป็นโอกาสที่เด็กและเยาวชน จะได้เรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องระบบการรักษา และการคำนวนเวลามาตรฐานสากล

ปัจจุบันห้องปฏิบัติการเวลาและความถี่ ของ มว. ได้เตรียมความพร้อมเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว โดย มว.ซึ่งใช้นาฬิกาอะตอมซีเซียมทั้ง 3 เรือนในการกำหนดมาตรฐานเวลาร่วมกับนาฬิกาอะตอมอีกกว่า 400 เรือนจากทั่วโลก อีกทั้งยังทำการเปรียบเทียบเวลากับเวลามาตรฐานสากลผ่านระบบดาวเทียมนำทาง (GPS) ทั้งนี้หากภาคธุรกิจและภาคประชาชน มีความกังวล ก็สามารถที่จะทำการปรับเวลาที่ถูกต้องผ่านระบบการถ่ายทอดเวลามาตรฐานประเทศไทยผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

1. ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต Network Time Protocol (NTP) โดยสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมเวลามาตรฐานประเทศไทยได้ที่ www.nimt.or.th ซึ่งทางสถาบันมีข้อแนะนำและขั้นตอนในการปรับเทียบเวลาทางอินเตอร์เน็ตแสดงไว้ในแต่ละขั้นตอน ภายใต้หัวข้อ "วิธีการปรับเทียบเวลามาตรฐานประเทศไทยด้วยโปรแกรม Freeware"

2. ผ่านทางสถานีวิทยุระบบ FM RDS ซึ่งจะทำการส่งสัญญาณเวลามาตรฐานไปพร้อมกับคลื่นวิทยุ FM โดยอาศัยคลื่นวิทยุของสถานีวิทยุกระจายเสียง เช่น คลื่นวิทยุความถี่ 102.5 MHz ของกองทัพอากาศ หรือ คลื่นวิทยุความถี่ 95.0 MHz ของ อสมท. ซึ่งผู้ที่จะทำการรับสัญญาณจะต้องมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถรองรับสัญญาณวิทยุจากระบบ RDS ได้ ซึ่งมีมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาที่สามารถรับการควบคุมโดยสัญญาณวิทยุจากระบบ RDS, โทรศัพท์มือถือ, วิทยุ FM ระบบนำทางในรถยนต์ เป็นต้น

ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้จะรองรับการเพิ่มอธิกวินาที ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าการเพิ่มเวลา 1 วินาทีในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับการใช้เวลามาตรฐานประเทศไทยของท่าน

ดร.ปิยพัฒน์ พูลทอง นักมาตรวิทยา มว. กล่าวว่า ปัจจุบันระบบการรักษาเวลาที่ใช้ในโลกของเรา แบ่งออกได้เป็น 2 ระบบ คือ 1. ระบบเวลาสุริยะ (Universal Time: UT1) ซึ่งเป็นเวลาที่ได้จากการวัดและคำนวนทางดาราศาสตร์ เช่น การหมุนรอบตัวเองของโลก เป็นต้น โดยมีหน่วยงาน International Earth Rotation and Reference Systems Service (IERS) เป็นผู้รับผิดชอบ และ 2. ระบบเวลามาตรฐานสากลเชิงพิกัด (Coordinated Universal Time: UTC) ซึ่งได้เวลามาจากนาฬิกาอะตอมซีเซียม ที่ใช้เป็นมาตรฐานทางด้านเวลาและความถี่ที่มีความถูกต้องแม่นยำสูงมาก โดยมีสำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศ หรือ BIPM เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ เพื่อให้ระบบการรักษาเวลามาตรฐานทั้งสองระบบมีค่าสัมพันธ์กัน เมื่อความแตกต่างระหว่างระบบเวลาสุริยะ และระบบเวลามาตรฐานสากลเชิงพิกัดมีค่าใกล้กับ 0.9 วินาที จะต้องมีการปรับเวลาให้เวลาทั้ง 2 ระบบมีความสอดคล้องกัน คล้ายกับกรณีที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ซึ่งใช้เวลา 365.242 วันใน 1 ปี ทำให้ต้องมีการปรับเพิ่มวันทุกๆ 4 ปี ให้มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์

"โลกหมุนช้าลงทุกๆ วันอันเนื่องมาจาก วิถีการโคจรของดวงจันทร์ การเกิดน้ำขึ้นและน้ำลง การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือแม้กระทั่งการละลายของน้ำแข็งทั่วโลก ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยโลกจะหมุนช้าลงประมาณ 1 ใน 1,000 วินาทีในแต่ละวัน ทำให้ในแต่ละปี (365 วัน) โลกจะหมุนช้าลงประมาณ 3 ใน 10 ของวินาที โดยตามมาตรฐานสากลหากเวลาช้าลงสะสมกันใกล้เคียงกับค่า 9 ใน 10 ของวินาที จะต้องมีการปรับเพิ่มเวลาให้กับนาฬิกา 1 วินาที ซึ่งในปีนี้ มว.จะเพิ่มเวลามาตรฐานของประเทศไทยพร้อมกับนานาประเทศ โดยมีการประกาศให้เพิ่มเวลาที่วินาทีที่ 60 ในช่วงเวลาเที่ยงคืน ของวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ณ จุดอ้างอิงของเวลาสากลเชิงพิกัดที่เมืองกรีนิช ซึ่งตรงกับเวลา 7 โมงเช้าของวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ในประเทศไทย โดยในช่วง 5 วินาทีในขณะนั้นนาฬิกาของประเทศไทย จากเดิมเวลาปกติจะเดินเป็น 6:59:58, 6:59:59, 7:00:00, 7:00:01, 7:00:02 เปลี่ยนอธิกวินาทีจะเดินเป็น 6:59:58, 6:59:59, 6:59:60, 7:00:00, 7:00:01" ดร. ปิยพัฒน์ กล่าว

 

เวลาปกติ 

อธิกวินาที 

06:59:58 

06:59:58 

06:59:59 

06:59:59 

07:00:00 

 06:59:60* 

07:00:01 

07:00:00 

07:00:02 

07:00:01

 

 

ที่มา เว็บไซต์สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ 


รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้วประเทศไทยปรับเวลาช้าลง 1 วินาที

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ปราบกลิ่นเท้าให้อยู่หมัด

ปราบกลิ่นเท้าให้อยู่หมัด


เปิดอ่าน 11,091 ครั้ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง

22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง


เปิดอ่าน 12,706 ครั้ง
Advertisement


:: เรื่องปักหมุด ::

ลมมรสุม โดย นาวาเอกเจริญ เจริญรัชตภาคย์

ลมมรสุม โดย นาวาเอกเจริญ เจริญรัชตภาคย์

เปิดอ่าน 10,066 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เตือนภัยยาเสียสาวแพร่ระบาด
เตือนภัยยาเสียสาวแพร่ระบาด
เปิดอ่าน 14,583 ☕ คลิกอ่านเลย

ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้
เปิดอ่าน 9,989 ☕ คลิกอ่านเลย

ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
เปิดอ่าน 13,034 ☕ คลิกอ่านเลย

กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด
เปิดอ่าน 2,021 ☕ คลิกอ่านเลย

อาการแบบไหนที่เรียกว่ากำลังขาดวิตามินซี
อาการแบบไหนที่เรียกว่ากำลังขาดวิตามินซี
เปิดอ่าน 14,440 ☕ คลิกอ่านเลย

จำปาดะ
จำปาดะ
เปิดอ่าน 21,943 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 54,571 ครั้ง

บัญญัติ 10 ประการ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
บัญญัติ 10 ประการ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 12,621 ครั้ง

โฆษณาเด็กน่ารักที่สุด ประจำปี 2013
โฆษณาเด็กน่ารักที่สุด ประจำปี 2013
เปิดอ่าน 13,291 ครั้ง

ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ
เปิดอ่าน 13,273 ครั้ง

สอนทำ header hi5 ด้วย photoshop
สอนทำ header hi5 ด้วย photoshop
เปิดอ่าน 27,302 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ