ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กระชายดำ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,243 ครั้ง
กระชายดำ

Advertisement

สมุนไพร กระชายดำ
     ในช่วงไม่กี่ปีมานี้กระแส “สมุนไพรไทย” มาแรงสุดสุด ประกอบกับหน่วยงานราชการ ต่าง ๆ ต่างก็ส่งเสริมสนับสนุนให้นำภูมิปัญญาไทยมาเผยแพร่ทำให้ประชาชนหันมาบริโภคมากขึ้น
     สมุนไพรตัวหนึ่งที่ผู้คนกล่าวขานถึงก็คือ ” กระชายดำ “
     เพราะว่ามีสรรพคุณขึ้นชื่อลือชาในเรื่องเพิ่มพลังทางเพศ ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า ” โสมไทย ” ซึ่งที่จังหวัดเลย เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัดมักนิยมแนะนำให้เกษตรกรเพาะปลูกเพราะเป็นพืชที่มีอนาคต และราคาดี
 

     กระชายดำ มีลักษณะเหง้าหรือหัวคล้ายกับกระชายธรรมดาที่ใช้ปรุงอาหารอยู่ในครัวเรือนแต่ไม่มีรากขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “นิ้ว” เหมือนกระชายทั่ว ๆ ไป และเมื่อพิจารณาลักษณะใบจะพบว่า ใบของกระชายดำจะใหญ่และมีสีเขียวเข้มกว่า กาบใบมีสีแดงจางและหนาอวบ กระชายดำมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Boesenbergia pandurata(Roxb.) อยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE ลักษณะแตกต่างที่เด่นชัดกับกระชายธรรมดาก็คือ เนื้อในของหัวกระชายดำจะมีสีคล้ายดั่งผลหว้า คือมีสีออกม่วงอ่อน ๆ ไปจนถึงสีม่วงเข้มถึงดำ จึงได้ชื่อว่า “กระชายดำ” กระชายดำเป็นพืชล้มลุกจัดเป็นว่านชนิดหนึ่ง ลำต้นมีความสูงประมาณ 30 ซม. ส่วนกลางของลำต้นเป็นแก่นแข็ง มีกาบหรือโคนใบหุ้ม ใบมีกลิ่นหอม ก้านใบแทงขึ้นจากหัวในดิน ออกเป็นรัศมีติดผิว ขนาดใบกว้างประมาณ 7-15 ซม. ยาว 30-35 ซม. ลักษณะใบและลำต้นเหมือนกระชายเหลืองและกระชายแดง แต่ขอบใบและก้านใบของกระชายดำอาจมีสีม่วงแกมเล็กน้อย ดอกออกจากยอด ช่อละหนึ่งดอก มีใบเลี้ยงที่ช่อดอก ดอกมีสีชมพูอ่อน ๆ ริมปากดอกมีสีขาว กลีบรองกลีบดอกเชื่อมติดกันมีลักษณะเป็นรูปท่อ มีขน โคนเชื่อมติดกันเป็นช่อยาว เกสรตัวผู้จะเหมือนกับกลีบดอกอับเรณูอยู่ใกล้ปลายท่อ เกสรตัวเมียมีขนาดยาวเล็ก ยอดของมันเป็นรูปปากแตรเกลี้ยงไม่มีขน การขยายพันธุ์การปลูกกระชายดำก็เหมือนกับการปลูกกระชายธรรมดาโดยทั่วไป สามารถปลูกได้ดีในดินที่ร่วนซุย การระบายน้ำดี แต่ระวังอย่าให้น้ำท่วมขังเพราะจะทำให้หัวหรือเหง้าเน่าเสียได้ง่ายส่วนในดินเหนียวและดินลูกรังไม่ค่อยจะเหมาะสมนัก โดยธรรมชาติแล้วกระชายดำชอบขึ้นตามร่มไม้ในป่าดิบและป่าเบญจพรรณทั่วไป แต่ในที่โล่งแจ้งก็สามารถปลูกกระชายดำได้ผลดี
krachai1
 
     กระชาย มี 3 ชนิด คือ
     1.กระชายเหลืองหรือกระชายขาว 2.กระชายแดง 3.กระชายดำ
     กระชายเหลืองและกระชายแดงนิยมใช้เป็นเครื่องเทศปรุงอาหาร ส่วนกระชายดำใช้เป็นสมุนไพรเมื่อผ่าเหง้าหัวออกดูจะมีสีม่วงคล้ำ มีกลิ่นคล้ายกระชายทั่วไป(แต่ฉุนกว่า)ลักษณะใบและลำต้นเหมือนกระชายเหลืองและกระชายแดง แต่ขอบใบและก้านใบอาจมีสีม่วงแกมเล็กน้อย เดิมชาวเขาเผ่าม้งนำกระชายดำเข้ามาปลูกในอำเภอด่านซ้ายและอำเภอนาแห้ว เพื่อใช้เป็นสมุนไพรประจำบ้าน ต่อมามีการขยายพันธุ์ออกไปเรื่อยๆ จนมีพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มมากขึ้น “กระชายดำ” มีสรรพคุณทางยาดังนี้ คือ รากเหง้า เป็นยาขับปัสสาวะ, ขับลม, แก้บิด, แก้ท้องอืดเฟ้อ, แก้โรคกระเพาะอาหาร โดยใช้รากเหง้าดองกับสุราขาว หรือนำไปตากแห้งแล้วบดเป็นผงใช้ผสมน้ำสุกรับประทาน หรือผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนขนาดประมาณเม็ดพุทรารับประทานทุกวันเป็นยาอายุวัฒนะ, กระตุ้นประสาททำให้กระชุ่มกระชวย และเป็นยาบำรุงกำลัง
      เรา ๆ ท่าน ๆ ได้ยินจนชินหู พูดกันติดปาก ประกอบกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาคราชการ เอกชน ต่างให้การสนับสนุนนำข้อมูลเรื่องราวออกเผยแพร่สู่สาธารณชน จนเป็นที่รู้จักนิยมอุปโภคบริโภคสมุนไพรเพิ่มขึ้น
       ”กระชายดำ” เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องเพิ่มพลังทางเพศ หรือ “โสมไทย” เดิมเป็นสมุนไพรที่หารับประทานยาก ไม่เป็นที่นิยม แต่ยามนี้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจราคาดีขายกัน ก.ก.ละ 100-300 บาท หากอยู่ในช่วงขาดแคลนราคาสูงถึง ก.ก.ละ 500-600 บาท มีปลูกกันมากที่จังหวัดเลย เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี และนครสวรรค์ ด้วยสรรพคุณที่หลากหลาย ทั้งบำรุงกำลัง เพิ่มฮอร์โมนทำให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น แก้ปวดเมื่อย ขับปัสสาวะ ขับลม รักษาโรคความดันโลหิตสูง ขยายหลอดเลือดหัวใจ โรคเกาต์ โรคกระเพาะอาหาร สตรีประจำเดือนมาไม่ปกติ รวมถึงการขับผิวพรรณให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล เราสามารถบริโภคได้หลายวิธี เช่น นำไปผสมเหล้าดื่มเป็นยาดอง หรือจะหั่นเป็นชิ้น ๆ ตากแห้งแล้วต้มน้ำร้อนดื่มแทนน้ำหรือน้ำชา เป็นประจำก็แจ๋วครับ บางตำราบอกให้นำหัวกระชายดำไปตากแห้ง หรือใช้แบบสดดองกับน้ำผึ้งแท้ 7 วัน ดื่มวันละ 2 ครั้ง (เช้า หรือ ก่อนนอน) อาการมะเขือเผาจะค่อย ๆ ทุเลาลง หรือทำเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนก็ได้เช่นกัน
       ด้วยสรรพคุณเหล่านี้ ทำให้บรรดาคุณผู้ชายที่เริ่มรู้ตัวว่าอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่ซู่ซ่าเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ พอรู้ว่ากินแล้วเพิ่มพลังอย่างว่าเลยขวนขวายซื้อกันใหญ่ เพราะราคาไม่แพง ทั้งหาซื้อได้ง่ายในตลาด ครั้นจะซื้อไวอะกร้าคงสู้ราคาไม่ไหว กระชายดำนี่แหละซู่ซ่าได้เหมือนกัน เผลอ ๆ จะดีกว่าด้วยซ้ำครับ
        
     “วิธีปลูก”
     ปลูกพื้นที่ดินร่วนปนทราย อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 630 เมตร
     ใช้เหง้าแก่เป็นท่อนพันธุ์ ควรปลูกระยะห่างประมาณ 30 ซม. ก่อนปลูกควรใส่น้ำยาเร่งราก และควรปลูกต้นฤดูฝน (พฤษภาคม)
     เก็บเกี่ยวภายในเดือนธันวาคม ควรเก็บหลังต้นแห้งตายประมาณ 1 เดือน จึงจะได้เหง้าที่มีคุณภาพ ส่วนที่ใช้เป็นยาเหง้าสด และแห้ง
     สรรพคุณยาไทย ตามตำรายาไทย เหง้ากระชายดำตองเหล้าใช้เป็นยาบำรุงกำลัง เสริมสร้างสุขภาพทางเพศของท่านชาย ช่วยให้อารมณ์ทางเพศ ของผู้ชายมีความสมบูรณ์ขึ้น มีปริมาณน้ำเชื้อมากขึ้น ความเป็นชายแข็งตัวทนทานขึ้น ปรับสมดุลฮอร์โมนทางเพศของท่านสุภาพสตรี สร้างความสมดุลความดันโลหิต ทำให้การหมุนเวียนของโลหิตดีช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร แก้ลำไส้อักเสบ ตกขาวในสตรี ทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง และยังช่วยบำรุงร่างกาย แก้อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหน็บชา ปวดหลังหัวเข่า ช่วยบำบัดอาการของ โรคเกาต์รูมารติซั่ม รูมาตอยต์เรื้อรัง บำบัดอาการโลหิตจาง มึนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม
       

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1602 วันที่ 21 ก.ค. 2552


กระชายดำ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ฉลาดนั้นสำคัญไฉน  ????

ฉลาดนั้นสำคัญไฉน ????


เปิดอ่าน 6,240 ครั้ง
ดอกราตรี

ดอกราตรี


เปิดอ่าน 6,242 ครั้ง
รูปเป็นข่าว

รูปเป็นข่าว


เปิดอ่าน 6,241 ครั้ง
เสียงเพลง@สมาธิ

เสียงเพลง@สมาธิ


เปิดอ่าน 6,238 ครั้ง
คำคมเก็บไว้สอนเด็กครับผม

คำคมเก็บไว้สอนเด็กครับผม


เปิดอ่าน 6,244 ครั้ง
ภาพปริศนา : Hunter

ภาพปริศนา : Hunter


เปิดอ่าน 6,242 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

        อาหาร  3  อย่าง สร้างเด็กไทย  เก่ง...ดี.. .มีสุข....

อาหาร 3 อย่าง สร้างเด็กไทย เก่ง...ดี.. .มีสุข....

เปิดอ่าน 6,243 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
 หัวใจมักง่าย
หัวใจมักง่าย
เปิดอ่าน 6,239 ☕ คลิกอ่านเลย

##...วิธีแก้เมาง่ายๆที่ได้ผล?##
##...วิธีแก้เมาง่ายๆที่ได้ผล?##
เปิดอ่าน 6,238 ☕ คลิกอ่านเลย

กินตับไก่ ....อาจเป็นไมเกรน
กินตับไก่ ....อาจเป็นไมเกรน
เปิดอ่าน 6,243 ☕ คลิกอ่านเลย

คลิปทารกเล่นสเก็ตช์กำลังฮิตในอินเตอร์เน็ต(น่ารักมากๆ) !!!!!!
คลิปทารกเล่นสเก็ตช์กำลังฮิตในอินเตอร์เน็ต(น่ารักมากๆ) !!!!!!
เปิดอ่าน 6,241 ☕ คลิกอ่านเลย

สมุดโน้ต สำหรับ คนรักกีฬา
สมุดโน้ต สำหรับ คนรักกีฬา
เปิดอ่าน 6,241 ☕ คลิกอ่านเลย

ยิ้มในใจ....
ยิ้มในใจ....
เปิดอ่าน 6,241 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560
เปิดอ่าน 99,313 ครั้ง

เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป
เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป
เปิดอ่าน 1,367 ครั้ง

ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข
ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข
เปิดอ่าน 11,376 ครั้ง

ปัญหาและการแก้ปัญหา
ปัญหาและการแก้ปัญหา
เปิดอ่าน 21,850 ครั้ง

ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
เปิดอ่าน 11,752 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ