ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"มหัศจรรย์ปราสาทหิน ถิ่นอีสานใต้ จากพิมายถึงพนมรุ้ง"


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,736 ครั้ง
Advertisement

"มหัศจรรย์ปราสาทหิน ถิ่นอีสานใต้ จากพิมายถึงพนมรุ้ง"

Advertisement

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  
ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
       ขอมคือใคร ? ใช่เขมรในปัจจุบันหรือไม่ ?
       
       ณ วันนี้ ยังเป็นปริศนาและเป็นประเด็นให้นักวิชาการไทยบางคนถกเถียง แลกเปลี่ยนทัศนะ แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง
       
       แต่ไม่ว่าขอมจะเป็นใคร อิทธิพลของ“อารยธรรมขอมโบราณ”เมื่อครั้งเรืองอำนาจสูงสุด ยังคงปรากฏให้เห็นในเมืองไทยมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะบรรดาปราสาทหินทั้งหลายในแถบอีสานตอนใต้ที่ถือเป็นอู่อารยธรรมขอมโบราณสำคัญของไทย ซึ่งถือเป็นมูลเหตุหลักจูงใจให้ “ตะลอนเที่ยว”ออกเดินทางไปในพื้นที่ 3 จังหวัดอีสานใต้ เพื่อย้อนรอยชื่นชมความน่าทึ่งของปราสาทหินเด่นๆในเมืองไทย

พิพิธภัณฑ์ฯพิมาย
       โคราช...
       

       “นครราชสีมา”หรือ“โคราช”เมืองหน้าด่านอีสาน ถือเป็นด่านแรกของการเดินทางครั้งนี้ โคราชมี“ปราสาทหินพิมาย”ปราสาทชื่อดังเป็นไฮไลท์ แต่เพื่อความเข้าใจในอารยธรรมขอมให้ดีขึ้น “ตะลอนเที่ยว”จึงเลือกไปศึกษาเติมเต็มองค์ความรู้เกี่ยวกับขอมก่อนที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย”แหล่งเรียนรู้สำคัญแห่งดินแดนอีสาน

รูปปั้นพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในพิพิธภัณฑ์พิมาย
       พิพิธภัณฑ์ฯพิมาย ตั้งอยู่เชิงสะพานท่าสงกรานต์ห่างจากปราสาทหินพิมายราว 300 เมตร ภายในรวบรวมหลักฐานทางโบราณคดี จัดแสดงเรื่องราววัฒนธรรมอีสานในอดีต โดยมีโบราณวัตถุ-ศิลปวัตถุของขอมอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เทวรูป ทับหลังต่างๆที่ส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ศิวลึงค์ และที่ถือว่าเป็นงานไฮไลท์ระดับมาสเตอร์พีชคือรูปปั้น พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ประทับนั่งแขนขาด 2 ข้าง มีอายุประมาณ พ.ศ. 1720-1780 นับเป็นรูปปั้นพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของจริงเพียง 3 แห่งในโลก
       
       ออกจากพิพิธภัณฑ์ฯพิมาย อารมณ์ปราสาทขอมถูกปลุกเร้าเต็มที่จากเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ทำให้การตามต่อในอารมณ์ขอมโบราณที่ปราสาทหินพิมายของ“ตะลอนเที่ยว”นั้นไหลลื่นมากขึ้น

ปรางค์ประธานปราสาทหินพิมาย
       ปราสาทหินพิมายตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พิมายในตัว อ.พิมาย เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีลักษณะพิเศษคือสร้างหันหน้าไปทางทิศใต้(ต่างจากปราสาทหินทั่วไปที่จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก) เพื่อหันรับกับเส้นทางที่ตัดมาจากเมืองยโศปุระ เมืองหลวงของอาณาจักรขอมในยุคนั้น
       
       ปราสาทหินพิมายเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนามหายานและฮินดู สันนิษฐานว่าเริ่มสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ปลายพ.ศ. 16 และต่อเติมในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ราวต้น พ.ศ. 18 ตัวปราสาทเป็นศิลปะแบบบาปวน(ยุคแรก)เจือปนนครวัด(ยุคต่อเติม)
       
       ปราสาทแห่งนี้ มีสิ่งก่อสร้างเด่นๆชวนชม เริ่มจากทางเดินเข้าไป คือ สะพานนาคราช สะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ตามคติจักรวาล สร้างเป็นรูปนาคราช 7 เศียรชูคอแผ่พังพานดูสวยงาม

พระพุทธรูปปางนาคปรกในเรือนธาตุปราสาทหินพิมาย
       ถัดเข้าไปเป็นซุ้มประตูหรือโคปุระชั้นนอกและกำแพงแก้ว จากนั้นเป็นชาลาทางเดินที่มองเห็นซุ้มประตูชั้นในสร้างรายรอบตัวปราสาท ซึ่งเมื่อผ่านพ้นโคปุระชั้นนี้เข้าไปจะพบกับความยิ่งใหญ่ของปรางค์ประธาน ที่ถูกขนาบข้างด้วย ปรางค์หินแดงและปรางค์พรมทัตที่ภายในประดิษฐ์รูปเคารพของพระเจ้าชัยวันมันที่ 7 (ปัจจุบันคือองค์จำลอง องค์จริงถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธฯภัณฑ์พิมาย) ซึ่งชาวบ้านในอดีตเชื่อว่านี่คือรูปปั้นของ“ท้าวพรหมทัต”ที่พวกเขานับถือ
       
       สำหรับองค์ปรางค์ประธานนั้น สร้างขึ้นราว พ.ศ. 16-17 ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญคือเรือนธาตุและมณฑป มีลวดลายประดับตามส่วนต่างๆมากมายทั้งภายนอก ภายใน อาทิ ภาพศิวนาฏราช พระกฤษณะ ภาพเรื่องราวรามเกียรติ์ เรื่องราวทางพุทธศาสนา ส่วนภายในเรือนธาตุเป็นห้องครรภคฤหะ ที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปรางค์นาคปรกรูปเคารพสำคัญ(พุทธมหายาน) อีกทั้งยังมีร่องรอยท่อโสมสูตรที่ใช้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาให้เห็นกันแบบพองาม
       
       และนั่นก็เป็นสิ่งน่าสนใจของปราสาทหินพิมาย ซึ่งในโคราชยังมีปราสาทขอมขนาดเล็กๆ อาทิ ปราสาทหินพนมวัน ปราสาทเมืองแขก ให้ผู้สนใจได้ศึกษาในอารยธรรมขอมโบราณกันอีก
       
       “ตะลอนเที่ยว”หลังเต็มอิ่มกับปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในไทยอย่างพิมายแล้วก็ออกเดินทางตามรอยปราสาทขอมต่อไปยัง จ.สุรินทร์ ถิ่นเมืองช้างอันลือลั่นก้องฟ้าเมืองไทย

ปราสาทศีขรภูมิ กะทัดรัด สมส่วน

       สุรินทร์...
       

       สุรินทร์นอกจากจะเป็นเมืองช้างแล้ว ยังเป็นเมืองแห่งปราสาทขอมที่น่าสนใจเมืองหนึ่งของไทย เมืองนี้มีปราสาทสำคัญขึ้นชื่ออยู่ 2 แห่งด้วยกัน ซึ่งล้วนต่างเป้าหมายของการย้อนรอยปราสาทขอมทั้งคู่
       
       สำหรับปราสาทแห่งแรกคือ“ปราสาทศีขรภูมิ” ในเขตชุมชนโบราณบ้านปราสาท ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทขนาดเล็ก เป็นศิลปะขอมแบบบาปวนผสมนครวัด สร้างขึ้นราวปลาย พ.ศ.16 ถึงต้น พ.ศ. 17 เป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย(นับถือพระศิวะเป็นเทพสูงสุด) มีอยู่ด้วยกัน 5 หลัง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันยกพื้นสูง มีบารายล้อมรอบ 3 ด้าน วัสดุก่อสร้างปราสาทมีทั้งหินทราย ศิลาแลง และอิฐ ซึ่งเป็นการแยกให้เห็นถึงยุคสมัยในการก่อสร้างและการบูรณะอย่างชัดเจน ตัวประสาทประธานองค์กลาง ถือเป็นศูนย์รวมผลงานมาสเตอร์พีชระดับสุดยอดแห่งสยามอยู่ 2 แห่งด้วยกัน

รูปสลักนางอัปสราปราสาทศีขรภูมิที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองไทย
       แห่งแรกคือภาพสลักนางอัปสราถูกยกย่องว่าสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทย ในบริเวณกรอบประตูทั้ง 2 ด้านของปราสาทประธาน เป็นภาพนางอัปสราแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสวยงามรู้ร่างสมส่วน มีทวารบาลอยู่ถือกระบองประกบอยู่ด้านข้างทั้ง 2 นาง
       
       แห่งที่สองคืออยู่ ทับหลังสลักเป็นเรื่องพระศิวะ 3 ตอนที่ได้ชื่อว่าสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย แกะสลักอย่างสวยงามประณีตอ่อนช้อย ดูแล้วได้อารมณ์ยิ่งนัก นับได้ว่าปราสาทเล็กๆอย่างศีขรภูมิ ในด้านของความงามนั้นถือว่ายิ่งใหญ่เกินตัวไม่น้อยเลย

ปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา เพียงไม่กี่ 10 เมตร
       จากศีขรภูมิเราเดินทางต่อไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อไปชมกลุ่มปราสาทตาเมือน บริเวณช่องตาเมือน บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก สร้างบนเส้นทางคมนาคมโบราณเชื่อมเมืองพระนคร(เมืองหลวงอาณาจักรขอมโบราณปัจจุบันคือเสียมราฐหรือเสียมเรียบ)และเมืองพิมาย(นครราชสีมาในปัจจุบัน) กลุ่มปราสาทแห่งนี้ประกอบด้วยปราสาทขอม 3 หลัง ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ประกอบด้วย
       
       ปราสาทตาเมือนธม เป็นปราสาทใหญ่ที่สุดในกลุ่ม อยู่ใกล้ชายแดนที่สุด คาดว่าน่าจะสร้างราว พ.ศ. 16 ประกอบด้วยปรางค์ 3 องค์ ปรางค์ประธานใหญ่สุดอยู่ตรงกลาง สร้างบนลานหินธรรมชาติ ภายในห้องครรภคฤหะของปราสาทปรางค์ประธานมีศิวลึงค์ธรรมชาติที่ปัจจุบันหักไปเหลือเพียงร่องรอยให้ชมกันพอได้จินตนาการ
       
       ปราสาทตาเมือนโต๊ด เป็นอโรคยาศาล(บ้างว่าเป็นโรงพยาบาลหรือสุขศาลา บ้างว่าเป็นศาลในโรงพยาบาล)ในสมัยพระเจ้าชัยวรมัน(พ.ศ.1721-1763) ยังคงมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์

ปราสาทตาเมือนโต๊ด
       ปราสาทตาเมือน สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่อเป็นที่พักคนเดินทาง(ธรรมศาลาหรือบ้านมีไฟ) ตามเส้นทางจากเมืองพระนครเมืองหลวงสู่เมืองพิมาย เป็นปรางค์องค์เดียวมีห้องยาวเชื่อมต่อมาทางด้านหน้า
       
       ด้วยความที่ปราสาทตาเมือนตั้งอยู่ห่างชายแดนเพียงไม่กี่ 10 เมตร นั่นจึงทำให้การเที่ยวชมต้องไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตชด.เพื่อนำชม เพราะพื้นที่แห่งนี้เพิ่งมีกรณีพิพาทเรื่องปัญหาชายแดนมาเมื่อไม่นาน ทั้งๆที่หากดูตามชัยภูมิกันสร้างปราสาทนั้นอยู่ในบ้านเราชัดเจน อีกทั้งกรมศิลป์ของเรายังขึ้นทะเบียนปราสาทตาเมือนเป็นโบราณสถานตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2478 และทำการบูรณะซ่อมแซมมาเป็นสิบปีจนเป็นรูปเป็นร่างมาจนถึงทุกวันนี้
       
       แต่อนิจจาด้วยปัญหาชายแดนและ(เกม)การเมืองระหว่างประเทศทำให้การบูรณะต้องหยุดชะงักลงทิ้งกลุ่มปราสาทตาเมือนไว้ให้เราได้ชื่นชมในความสำคัญกันเท่าที่จะสามารถบูรณะได้

ปราสาทเมืองต่ำอันสุดคลาสสิค
       บุรีรัมย์...
       
       จังหวัดสุดท้ายของการเดินทางในทริปนี้ อยู่ที่“บุรีรัมย์”หนึ่งในเมืองปราสาทหินสำคัญของเมืองไทย เมืองนี้มีปราสาทหินในระดับสุดยอดของเมืองไทยอยู่ถึง 2 ปราสาทด้วยกัน
       
       ปราสาทแรกคือ“ปราสาทเมืองต่ำ”อ.ประโคนชัย ที่สันนิษฐานว่าน่าจะเริ่มสร้างในราว พ.ศ.16 ตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายด้วยศิลปะแบบบาปวน เพื่อเป็นศาสนสถานประจำเมือง มีจุดเด่นตรงสระน้ำรอบตัวปราสาทที่มีรูปสลักพญานาคทอดยาวไปตามแนวขอบสระ เป็นนาค 5 เศียร หัวโล้นเกลี้ยงเกลาแบบบาปวน

โคปุระปราสาทเมืองต่ำ
       หลายคนเรียกสระนี้ว่า“สระหัวนาค”ที่เปรียบดังมหาสมุทรที่รายล้อมเขาพระสุเมรุศูนย์กลางจักรวาล(ตามคติจักรวาล)ที่แทนด้วยตัวปราสาทที่มีปรางค์อิฐกะทัดรัดสมส่วน 5 องค์ ตั้งตระหง่านอยู่ในนั้น ขณะที่ตามทับหลังและหน้าบันของซุ้มประตูและปรางค์ปราสาท สลักหินเป็นลวดลายสวยงามอ่อนช้อยเรื่องราวในศาสนาฮินดู อาทิ ภาพพระอินทร์ประทับบนหน้ากาล พระอิศวรและพระอุมาทรงโค
       
       และด้วยองค์ประกอบความงามของปราสาทแห่งนี้ที่ถือว่าเป็นเลิศเอกอุ จน ททท. ยกให้เป็น 1 ใน อันซีนไทยแลนด์ ในขณะที่ผู้นิยมปราสาทขอมต่างยกให้เป็นปราสาท“สุดคลาสสิค” อันทรงเสน่ห์ยิ่งนัก

เส้นทางเดินสู่ปราสาทพนมรุ้ง ทิพยวิมานบนเขาไกรลาส
       จากปราสาทเมืองต่ำเราเดินทางไปต่อยัง“ปราสาทพนมรุ้ง” อ.เฉลิมพระเกียรติ ปราสาทที่ได้รับการยอมรับว่างดงามที่สุดในเมืองไทย สร้างขึ้นบนภูเขาไฟที่ดับสนิท ราว พ.ศ. 15 โดยสันนิษฐานผู้สร้างน่าจะเป็น “พระเจ้านเรนทราทิตย์” แห่งราชวงศ์มหิทธรปุระ เพื่อให้เป็นดังทิพยวิมานของพระศิวะบนเขาไกรลาสและเป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของพระองค์หลังสิ้นชีวิต
       
       ความงดงามและเสน่ห์ของปราสาทพนมรุ้งนั้นมีมากหลาย ตั้งแต่เส้นทางเดินสู่ปราสาทที่เป็นดังสะพานเชื่อมโลกมนุษย์กับสรวงสวรรค์ ครั้นถึงยังตัวปราสาทหินทรายสีชมพูอันยิ่งใหญ่งดงาม ในพื้นที่แห่งนี้จะมีสิ่งน่าสนใจให้ชื่มชมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น องค์ปรางค์ประธาน ตัวเรือนธาตุที่ภายในมีห้องครรภคฤหะ ประดิษฐานศิวลึงค์รูปเคารพสำคัญของลัทธิไศวนิกาย โดยมีท่อโสมสูตรหรือร่องรับน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ได้จากพิธีกรรมเซ่นสังเวยองค์ศิวเทพต่อยาวมาให้เห็นอย่างชัดเจน

ภาพสลักทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ แห่งพนมรุ้ง
       สำหรับไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของพนมรุ้งที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงก็คือ ลวดลายสลักหินตามทับหลัง หน้าบัน และส่วนต่างๆที่ถือเป็นงานช่างโบราณระดับเอกอุ ฝีมือชั้นเทพ โดยภาพที่โดดเด่นที่สุด หนีไม่พ้นภาพทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์และศิวนาฏราชที่อยู่เคียงคู่กัน
       
       นับได้ว่าความงามและเสน่ห์ของปราสาทขอมที่เราเดินทางไปสัมผัสนั้น คือมรดกทางวัฒนธรรมสำคัญของบรรพบุรุษที่ตกทอดสืบต่อกันมา ด้วยเหตุนี้คนไทยจำเป็นต้องช่วยกันดูปกปักรักษา ป้องกันไม่ให้มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวของใครบางคน ดังกรณีที่เคยขึ้นมาแล้วกับปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งนับเป็นความเจ็บช้ำของคนไทยอันเกิดจากความชั่วช้าของนักการเมืองไทยเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

       *****************************************
       
       
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดเส้นทางท่องเที่ยว“ตามรอยอารยธรรมขอม เที่ยวมหัศจรรย์...แดนปราสาทหิน” ในถิ่นอีสานใต้ขึ้นรูปแบบแพ็คเกจทัวร์ขึ้น โดยให้ 4 สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งผู้สนใจสามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส.ธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ 0-2270-1505-8 ส.ไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย 0-2393-5855 ส.ส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย 0-2961-2204-5 ส.ผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย 0-2998-0744
       
       ส่วนผู้สนใจรายละเอียดของปราสาทและการเดินทางสู่ปราสาทขอมใน 3 จังหวัดอีสานใต้สามารถสอบถามข้อเพิ่มเติมได้ที่ ททท.นครราชสีมา(ปราสาทหินพิมาย) 0-4421-3666, 0- 4421-3030 ททท. สุรินทร์(ปราสาทศีขรภูมิ-ตาเมือน-พนมรุ้ง-เมืองต่ำ)0-4451-4447

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000104638



ฟังดาร์กี้ เปิดกรุอีสานใต้ จ้า

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 923 วันที่ 10 ก.ย. 2552

ไฟโซล่าเซลล์ สปอร์ตไลท์ led Solar light ไฟโซล่า ไฟ solar cell IP67 กันน้ำและป้องกันฟ้าผ่ 10000W รับประกัน30ปี

฿199 - ฿1,358

https://s.shopee.co.th/6pmJMLjlQH?share_channel_code=6


"มหัศจรรย์ปราสาทหิน ถิ่นอีสานใต้ จากพิมายถึงพนมรุ้ง"

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เมื่อดอกหญ้าบาน

เมื่อดอกหญ้าบาน


เปิดอ่าน 7,593 ครั้ง
เพื่อสุขภาพ  โอเมก้า 3

เพื่อสุขภาพ โอเมก้า 3


เปิดอ่าน 7,587 ครั้ง
แปลกดีนะ

แปลกดีนะ


เปิดอ่าน 7,623 ครั้ง
กำเนิดพระอาทิตย์

กำเนิดพระอาทิตย์


เปิดอ่าน 7,614 ครั้ง
กินคะน้า.....ตาไม่เป็นต้อ

กินคะน้า.....ตาไม่เป็นต้อ


เปิดอ่าน 7,580 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ทฤษฎีทางด้านการบริหาร (ต่อ)

ทฤษฎีทางด้านการบริหาร (ต่อ)

เปิดอ่าน 7,737 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำแ
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำแ
เปิดอ่าน 7,585 ☕ คลิกอ่านเลย

วันนี้เมื่อสี่ปีก่อน
วันนี้เมื่อสี่ปีก่อน
เปิดอ่าน 7,602 ☕ คลิกอ่านเลย

เจ้ากรรมนายเวร..
เจ้ากรรมนายเวร..
เปิดอ่าน 7,642 ☕ คลิกอ่านเลย

คุณคือต้นไม้ชนิดไหน ?ทายนิสัยคุณด้วย
คุณคือต้นไม้ชนิดไหน ?ทายนิสัยคุณด้วย
เปิดอ่าน 7,638 ☕ คลิกอ่านเลย

ของฝาก
ของฝาก
เปิดอ่าน 7,623 ☕ คลิกอ่านเลย

ทายนิสัยจากสีร่ม.... ดูดวงครับ
ทายนิสัยจากสีร่ม.... ดูดวงครับ
เปิดอ่าน 7,594 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คู่มือและแนวทางปฎิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560)
คู่มือและแนวทางปฎิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560)
เปิดอ่าน 13,753 ครั้ง

คุณหมอขอบอก: วิธีคลายเครียดจากน้ำท่วม
คุณหมอขอบอก: วิธีคลายเครียดจากน้ำท่วม
เปิดอ่าน 11,404 ครั้ง

ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น
เปิดอ่าน 15,516 ครั้ง

มารยาทในการกล่าวขอบคุณ(Thank you)
มารยาทในการกล่าวขอบคุณ(Thank you)
เปิดอ่าน 71,608 ครั้ง

กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ
เปิดอ่าน 6,418 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ