ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ตะลึง!ผลวิจัยชี้ ระวัง!!! ควันธูปมีสาร ก่อ มะเร็ง ...เพียบ..


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,268 ครั้ง
ตะลึง!ผลวิจัยชี้ ระวัง!!! ควันธูปมีสาร ก่อ มะเร็ง ...เพียบ..

Advertisement

 

ระวัง ควันธูป ก่อ มะเร็ง

Text Size
A A A

     ธรรมะธรรมโม ไหว้พระไหว้เจ้าเป็นนิจศีล กลับเสี่ยงมะเร็งปอด กลิ่นหอมจากควันธูปอันตรายไม่น้อย
     แม้ในคนที่กลัวมะเร็งจากบุหรี่ ไม่แตะไม่ต้อง เจอที่ไหน พยายามหนีให้ไกล แต่ควันธูปมีผลร้ายไม่แตกต่างจากควันบุหรี่

    คุณหมอ ดร.Jeppe T. Friborg  หัวหน้าคณะวิจัยในโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก บอกว่า การที่มีโอกาสสูดดมกลิ่นควันธูปเป็นประจำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ปอด แม้คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่สูบหรือไม่สูบบุหรี่ก็ตาม

ควันธูปกลิ่นหอมซ่อนพิษร้าย

    คนเราส่วนใหญ่มักจะไม่รังเกียจกลิ่นหรือควันของธูป โดยเฉพาะคนไทยและคนในภูมิภาคเอเชีย เราจะเห็นศาสนสถานที่อบอวลไปด้วยควันธูปในเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา

 

    เรามักจะไม่หนี ไม่รังเกียจเหมือนกับเจอกลิ่นหรือควันบุหรี่ แต่ผลลัพธ์ของสองสิ่งกลับก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบหายใจของเรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอดได้
    ธูป ทำมาจากส่วนผสมของพืชหลายชนิดเติมกับสารแต่งกลิ่นหอม แต่เมื่อจุดให้ติดไฟเพื่อบูชา ส่วนผสมหลากหลายนี้จะก่อให้เกิดสารคาร์ซิโนเจน ( Carcinogens)  ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการก่อมะเร็งให้กับร่างกายของเราเหมือนกับสารที่ประกอบอยู่ในควันบุหรี่


    ในช่วงก่อนหน้านี้ยังไม่มีผลสรุปอะไรที่บอกได้ว่าควันธูปมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปอด
แต่นักวิจัยก็ไม่วายสงสัยติดตามดูว่า ถ้าเราสูดเอาควันธูปเข้าไปในปอดบ่อย ๆ ครั้ง จะมีผลอย่างไรกับปอด แหล่งฟอกเลือดสำคัญในร่างกายของเรา

     การวิจัยอีกชิ้นหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ โดยติดตามสอบถามคนจีนในสิงคโปร์ 60,000 คน ให้ทำแบบสอบถามถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การกิน การอยู่ พร้อมถึงความถี่ที่ไหว้พระไหว้เจ้าที่สัมผัสกับควันธูป (เราจะไม่แปลกใจเลยที่เวลาเราไปที่เมืองลอดช่องแห่งนี้มักจะเห็นชาวสิงคโปร์กำธูปเต็มกำมือสวดมนต์ไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป)
     ทั้ง 60,000 คน เริ่มตอบแบสอบถามตั้งแต่ปี 1993 ทุกคนไม่มีใครเป็นมะเร็ง แต่ใน 60,000 คนนี้มี 75% ที่บอกว่าไหว้เจ้าเป็นประจำ เจอกับควันธูปบ่อย ๆ เมื่อจบการติดตามในปี 2005 ผลปรากฏว่ามีคนเป็นมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ 328 คน และอีก 821 คนที่เป็นมะเร็งปอด

 

    ทำให้มีข้อสรุปได้ว่า ยิ่งไหว้มากยิ่งเป็นมะเร็ง ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า หากสูบดมควันธูปอยู่เป็นประจำและเป็นระยะเวลายาวนาน จะยิ่งเพิ่มการเป็นมะเร็งปอด เป็นข้อเตือนภัยให้รับรู้ถึงพิษร้ายที่เข้ามาหาเราในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง     ในอดีตธูปไม่ได้ประกอบด้วยสารสังเคราะห์ที่แสนพิสดารแต่งกลิ่นกันหลากหลาย ยิ่งจุด ยิ่งหอม ยิ่งถูกมะเร็งถามหา  กลิ่นธูปหอมที่ถูกใจ นาน ๆเจอกันที ไม่สามารถทำอะไรเราได้มากนัก แต่ถ้าทุกวัน หรือประจำทุกอาทิตย์ แม้จะเป็นกิจกรรมที่สบายใจเป็นบุญแต่ต้องระมัดระวังการใช้ให้ดี

 


    เดี๋ยวจะมานั่งสงสัยว่าไหว้พระไหว้เจ้ามาตลอดชีวิต ทำไมเป็นมะเร็งได้ ส่วนคนอื่น
ที่ไม่เคยเข้าวัดเข้าวาเลย ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะเราประมาทไป กับการสูดสารเคมีก่อมะเร็งทุกวัน ๆ แล้วหลงไปว่ากำลังดื่มด่ำสร้างบารมีกับบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์
ท่ามกลางควัน (พิษของ) ธูป

ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ

ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ


ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ

ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) โดย นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าไอซียู รพ.วิชัยยุทธ แถลงข่าวผลงานวิจัยเรื่อง “สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป” ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยร่วมกับ น.ส. พนิดา นวสัมฤทธิ์ นักวิจัยห้องปฏิบัติการพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ 

โดยทำการศึกษาถึงอันตรายของควันธูป ที่ประชาชนชาวพุทธนิยมใช้จุดเพื่อบูชาพระ ทั้งนี้ เนื่องจาก จากสถิติการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดในเพศหญิงพบว่ากว่าร้อยละ 50 ไม่พบประวัติสูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ และยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง

แม้ว่าร้อยละ 80 - 90 ของผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาวิจัยในครั้ง ได้ผลสรุปที่น่าตกใจว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง กลับมีสาเหตุมาจากภัยที่เพิ่งค้นพบคือ สารพิษก่อมะเร็งจากควันธูป ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

 
 นพ.มนูญ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาควันธูปมีสารก่อมะเร็ง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน มีส่วนประกอบมาจากกาว ขี้เลื่อย น้ำมันหอม และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม เป็นต้น โดยสารก่อมะเร็งเกิดจากการเผาไหม้ของกาวและน้ำหอม เป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ในการศึกษาวิจัย ทีมวิจัยได้ออกทำการสำรวจหาสารก่อมะเร็งในบริเวณวัดชื่อดังในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งเป็นวัดที่มีคนเข้าไปบูชากราบไหว้พระกันมาก โดยเริ่มดำเนินการสำรวจพร้อมตรวจสุขภาพคนงานที่ปฏิบัติงานในวัดจำนวน 40 คน เปรียบเทียบกับคนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวน 25 คน

โดยการตรวจเลือดและปัสสาวะ พบว่า คนงานที่ทำงานในวัดทั้งหมดมีสารก่อมะเร็งผสมอยู่ในเลือดและปัสสาวะสูงกว่าคน ที่ไม่ทำงานในวัดถึง 4 เท่า  โดยในวัดมีสารดังกล่าวสูงกว่าสถานที่ที่ไม่จุดธูปถึง 63 เท่า ที่สำคัญจากการตรวจร่างกายในคนงานในวัด 40 คนยังพบการแตกหักของรหัสพันธุกรรมสูงกว่าคนปกติถึง 2 เท่าอีกด้วย


 “นอกจากนี้สำหรับการจุดธูปในบ้านตามความเชื่อและ ประเพณีที่ทำกันมาของคนไทย ที่ต้องการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดควันธูปในบ้านมาก ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะ ธูป 3 ดอกสามารถปล่อยมลพิษและสารก่อมะเร็งได้เทียบเท่าสี่แยกไฟแดงที่มีการจราจร คับคั่ง” นพ.มนูญ กล่าว และว่า

ผลการวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Chemico –biological/ interactions ของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือน ก.พ.2551 ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นหนึ่งในทีมวิจัยด้วย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของธูปที่ไร้ควัน หรือธูปอโรมา มีสารก่อมะเร็งหรือไม่ นพ.มนูญ กล่าวว่า ธูปทุกชนิดล้วนมีสารก่อมะเร็งทั้งสิ้น ธูปไร้ควันและธูปอโรมา เคยมีงานวิจัยออกมาพบว่า มีการปล่อยสารเบนซินมากกว่าธูปธรรมดาด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรมีการรณรงค์เรื่องนี้ให้ระมัดระวังกันถ้วนหน้า และต้องมีการรณรงค์ดับควันธูป โดยหลังจากจุดธูปแล้วควรมีการจุ่มธูปลงในน้ำหรือทรายก่อนปักลงในกระถางจะ ช่วยลดควันธูปได้ และในอนาคตภาคอุตสาหกรรมควรมีการผลิตธูปที่เมื่อจุดแล้วดับได้ทันทีภายในไม่ กี่วินาที

ที่มาจากหนังสือพิมพ์
รูปส่วนตัว aof1234

อ่านเรื่องอื่นๆหรือแวะทักทายที่

http://อาจารย์เข่.kroobannok.com

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 25 ต.ค. 2552


ตะลึง!ผลวิจัยชี้ ระวัง!!! ควันธูปมีสาร ก่อ มะเร็ง ...เพียบ.. ตะลึง!ผลวิจัยชี้ระวัง!!!ควันธูปมีสารก่อมะเร็ง...เพียบ..

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เมื่อโดนสุนัขบ้ากัด..

เมื่อโดนสุนัขบ้ากัด..


เปิดอ่าน 6,257 ครั้ง
น้ำผลไม้....สูตรชาววัง

น้ำผลไม้....สูตรชาววัง


เปิดอ่าน 6,250 ครั้ง
สูตรลดน้ำหนักคนไทยไร้พุง

สูตรลดน้ำหนักคนไทยไร้พุง


เปิดอ่าน 6,247 ครั้ง
รับจ้างฆ่า...!! โหดมาก!!

รับจ้างฆ่า...!! โหดมาก!!


เปิดอ่าน 6,254 ครั้ง
รามเกียรติ์  ตอนที่  ๒

รามเกียรติ์ ตอนที่ ๒


เปิดอ่าน 6,248 ครั้ง
ความรู้พื้นบ้าน

ความรู้พื้นบ้าน


เปิดอ่าน 6,251 ครั้ง
เส้นขนาน อ่านนะ  น่ารักดี

เส้นขนาน อ่านนะ น่ารักดี


เปิดอ่าน 6,254 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เยาวชนรุ่นใหม่..ใส่ใจ...สิ่งแวดล้อม...

เยาวชนรุ่นใหม่..ใส่ใจ...สิ่งแวดล้อม...

เปิดอ่าน 6,254 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ความลับ...ที่อยากบอก
ความลับ...ที่อยากบอก
เปิดอ่าน 6,255 ☕ คลิกอ่านเลย

ปิดปากปิดหูปิดตา
ปิดปากปิดหูปิดตา
เปิดอ่าน 6,309 ☕ คลิกอ่านเลย

ดวงปีระกา  2553
ดวงปีระกา 2553
เปิดอ่าน 6,248 ☕ คลิกอ่านเลย

ไม้ประดับ....ช่วยดูดสารพิษ (1)
ไม้ประดับ....ช่วยดูดสารพิษ (1)
เปิดอ่าน 6,259 ☕ คลิกอ่านเลย

,รู้จักอันดับประชากร...ที่หน้าตาดีที่สุดในโลก
,รู้จักอันดับประชากร...ที่หน้าตาดีที่สุดในโลก
เปิดอ่าน 6,343 ☕ คลิกอ่านเลย

>>>***สายฝนสวยซึ้ง..ตรึงใจด้วยเสียงเพลง***กลับมาอีกครั้งครับ
>>>***สายฝนสวยซึ้ง..ตรึงใจด้วยเสียงเพลง***กลับมาอีกครั้งครับ
เปิดอ่าน 6,249 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น
การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น
เปิดอ่าน 17,012 ครั้ง

เปิด 4 เคล็ด (ไม่) ลับ บริหารคนยุค New Normal ความท้าทายของ HR ทุกองค์กร
เปิด 4 เคล็ด (ไม่) ลับ บริหารคนยุค New Normal ความท้าทายของ HR ทุกองค์กร
เปิดอ่าน 2,572 ครั้ง

รักต้องเปิด (แน่นอก ) เวอร์ชั่นนี้ ฮาระเบิดระเบ้อ!
รักต้องเปิด (แน่นอก ) เวอร์ชั่นนี้ ฮาระเบิดระเบ้อ!
เปิดอ่าน 11,643 ครั้ง

เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?
เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?
เปิดอ่าน 82,909 ครั้ง

10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น
10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น
เปิดอ่าน 18,057 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ