Advertisement
|
ปัจจุบันแม้ประเพณีต่าง ๆ จะยังคงดำรงอยู่ในหลายท้องถิ่น แต่คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ๆ มักจะไม่ค่อยรู้ว่ามูลเหตุใดจึงมีประเพณีนั้น ๆ เกิดขึ้น เช่นเดียวกับ “ลอยกระทง” อันเป็นอีกประเพณีหนึ่งคล้ายสงกรานต์ซึ่งเป็นนักขัตฤกษ์ (งานรื่นเริงตามฤดูกาล) ที่ผู้คนทั่วประเทศทุกจังหวัดจัดกันเป็นประจำทุกปีเมื่อถึงวันเพ็ญ เดือน 12 ด้วยรูปแบบที่เกือบคล้ายคลึงกัน จะต่างกันบ้างก็คงเป็นเพียงวัสดุและรูปแบบกระทงที่นำไปลอยเท่านั้น ซึ่งนอกเหนือไปจากความสนุกสนานแล้ว ความหมายที่แท้จริงของการไป “ลอยกระทง” เป็นอย่างไร ทำไมถึงต้องลอยกัน เชื่อว่าหลายคนจะยังไม่ทราบ อีกทั้ง “นางนพมาศ” ที่สมัยนี้มีการประกวดตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงรุ่นสาว และกล่าวกันว่าเป็นสนมของพระร่วงในสมัยกรุงสุโขทัยนั้น มีตัวตนจริงหรือไม่ เพื่อเป็นการเผยแพร่และแบ่งปันความรู้สู่สาธารณชน กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จึงขอนำข้อมูลจากเอกสารเผยแพร่ชื่อ “ลอยกระทงขอขมาธรรมชาติ” ของ อ.สุจิตต์ วงษ์เทศ มาบอกกล่าวเล่าต่อเพื่อให้ทราบกัน
ลอยกระทง เป็นพิธีกรรมร่วมกันของผู้คนในชุมชนทั้งสุวรรณภูมิ หรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ เพื่อขอขมาต่อธรรมชาติ อันมีดินและน้ำที่หล่อเลี้ยง ตลอดจนพืชและสัตว์ที่เกื้อกูลให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ มนุษย์จึงมีชีวิตเจริญเติบโตขึ้นได้ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าลอยกระทงเริ่มมีมาแต่เมื่อไร แต่พิธีกรรมเกี่ยวกับ “ผี” ผู้มีอำนาจเหนือธรรมชาติ มีอยู่กับผู้คนในชุมชนสุวรรณภูมิไม่น้อยกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนรับศาสนาพุทธ-พราหมณ์จากอินเดีย
ผีสำคัญยุคแรก ๆ คือ ผีน้ำ และ ผีดิน ซึ่งต่อมาเรียกชื่อด้วยคำยกย่องว่า “แม่พระคงคา” กับ “แม่พระธรณี” มีคำพื้นเมืองนำหน้าว่า “แม่” ที่หมายถึงผู้เป็นใหญ่
ผู้คนในสุวรรณภูมิรู้ว่าที่มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะ น้ำ และ ดิน เป็นสำคัญ และ น้ำ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป็นบ่อเกิดของสิ่งมีชีวิต ดังนั้น เมื่อคนเรามีชีวิตอยู่รอดได้ปีหนึ่ง จึงทำพิธีขอขมาที่ได้ล่วงล้ำก้ำเกินโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น เหยียบย่ำ ถ่ายของเสีย หรือทำสิ่งอื่นใดที่ไม่เหมาะสมเสียครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ทำพิธีบูชาพระคุณไปพร้อมกัน ด้วยการใช้วัสดุที่ลอยน้ำได้ใส่เครื่องเซ่นไหว้ให้ลอยไปกับน้ำ อาทิ ต้นกล้วย กระบอกไม้ไผ่ กะลามะพร้าว ฯลฯ และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่คนเราเรียนรู้จากประสบการณ์ธรรมชาติ คือ สิ้นปีนักษัตรเก่า ขึ้นปีนักษัตรใหม่ ตามจันทรคติที่มีดวงจันทร์เป็นศูนย์กลาง เพราะเป็นสิ่งที่มีอำนาจทำให้เกิดน้ำขึ้น น้ำลง ซึ่งวันสิ้นปีนักษัตรเก่า ก็คือ วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 เพราะเป็นช่วงที่น้ำขึ้นสูงสุด และเมื่อพ้นไปจากนี้ก็เริ่มขึ้น ปีนักษัตรใหม่ เรียกเดือนอ้าย แปลว่าเดือนหนึ่ง ตามคำโบราณนับหนึ่ง สอง สาม ฯลฯ ว่า อ้าย ยี่ สาม เป็นต้น และเมื่อเทียบช่วงเวลากับปฏิทินตามสุริยคติที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางก็จะตกราวเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี
ช่วงเวลาต่อเนื่องกันนี้เองที่ทำให้ชุมชนโบราณมีพิธีกรรมเกี่ยวกับน้ำหลายอย่าง เพื่อวิงวอนขอ “แม่” ของน้ำอย่าให้นองหลากมากล้น จนท่วมข้าวที่กำลังออกรวงเต็มที่ มิฉะนั้นข้าวจะจมน้ำตายหมด อดกินไปทั้งปี ดังมีกลอนเพลงเก่า ๆ ว่า “เดือนสิบเอ็ดน้ำนอง เดือนสิบสองน้ำทรง เดือนอ้ายเดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง” ทำให้มีประเพณีแข่งเรือเสี่ยงทาย และการร้องขอ ขับไล่น้ำให้ลงเร็ว ๆ อย่าให้ท่วมข้าว
และหลังจากรับศาสนาพุทธ-พราหมณ์จากอินเดียเมื่อราว 2,000 ปีมาแล้ว ราชสำนักโบราณในสุวรรณภูมิก็ได้ปรับพิธีกรรม “ผี” เพื่อขอขมาน้ำและดินให้เข้ากับศาสนาที่รับเข้ามาใหม่ ทำให้ความหมายเดิมเปลี่ยนไป กลายเป็นการลอยกระทงเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าและเทวดา ซึ่งในส่วนนี้มีพยานหลักฐานเก่าสุด คือ รูปสลักพิธีกรรมทางน้ำคล้ายลอยกระทงที่ปราสาทหินบายนในนครธม ทำขึ้นราวหลัง พ.ศ. 1700 แต่สำหรับชุมชนชาวบ้านทั่วไปก็ยังเข้าใจเหมือนเดิม คือ ขอขมาแม่พระคงคาและแม่พระธรณี ดังมีหลักฐานปรากฏอยู่ในเอกสารของลาลูแบร์ชาวฝรั่งเศส ที่บันทึกพิธีชาวบ้านในกรุงศรีอยุธยาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเอาไว้หลายตอน เช่น “ประชาชนพลเมืองจะแสดงความขอบคุณแม่คงคาด้วยการตามประทีปโคมไฟขนาดใหญ่ (ในแม่น้ำ) อยู่หลายคืน...เราจะได้เห็นทั้งลำแม่น้ำเต็มไปด้วยดวงประทีปลอยน้ำ......” เป็นต้น
สำหรับราชสำนักกรุงศรีอยุธยา ที่อยู่บริเวณที่ราบลุ่มน้ำ และมีน้ำท่วมนานหลายเดือนก็เป็นศูนย์กลางสำคัญที่จะสร้างสรรค์ประเพณีเกี่ยวกับน้ำขึ้นมาให้เป็น “ประเพณีหลวง” ของราชอาณาจักร ดังมีหลักฐานการตราเป็นกฎมนเทียรบาล ว่าพระเจ้าแผ่นดินต้องเสด็จฯ ไปประกอบพิธีกรรมทางน้ำ เพื่อความมั่นคงและมั่งคั่งทางกสิกรรมของราษฎร และยังมีกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารคเพื่อประกอบพระราชพิธีโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีเอกสารบันทึกอย่างเป็นทางการอยู่ในตำราพระราชพิธีกับวรรณคดีโบราณ เช่น โคลงทวาทศมาสที่มีการกล่าวถึงประเพณี “ไล่ชล” หรือไล่น้ำเพื่อวิงวอนให้น้ำลดเร็ว ๆ เป็นต้น ซึ่งประเพณีหลวงอย่างนี้ ไม่มีหลักฐานใด ๆ ปรากฏว่ามีอยู่ในเมืองที่อยู่เหนือกรุงศรีอยุธยาขึ้นไป เช่น สุโขทัย ที่ตั้งอยู่บนที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง จึงไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารค ส่วนตระพังหรือสระน้ำในสุโขทัยก็มีไว้เพื่อกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในการบริโภคอุปโภคของวัดและวังที่อยู่ในเมือง และมิได้มีไว้เพื่อกิจกรรมสาธารณะอย่างเช่น ลอยกระทง ฯลฯ
ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นช่วงที่บ้านเมืองมั่นคง การศึกสงครามลดลงเกือบหมด การค้าก็มั่งคั่งขึ้น โดยเฉพาะกับจีน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้ฟื้นฟูประเพณีพิธีกรรมสำคัญเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของราชอาณาจักร และด้วยความจำเป็นในด้านอื่น ๆ อีก จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ ตำราท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือ นางนพมาศ ขึ้นมา โดยสมมุติให้ฉากของเรื่องเกิดขึ้นในยุคพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย ซึ่งตำราดังกล่าวได้พูดถึงนางนพมาศว่าเป็นพระสนมเอกของพระร่วง ที่ได้คิดประดิษฐ์กระทงใบตองเป็นรูปดอกบัวกมุทขึ้น ด้วยเห็นว่าเป็นดอกบัวพิเศษที่บานในเวลากลางคืนเพียงปีละครั้ง สมควรทำเป็นกระทงแต่งประทีป ลอยไปถวายสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเมื่อพระร่วงเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นก็รับสั่งถามถึงความหมาย นางก็ได้ทูลอธิบายจนเป็นที่พอพระราชหฤทัย พระองค์จึงมีพระราชดำรัสว่า “แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าโดยลำดับ กษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์ วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน”
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดกระทง ทำด้วยใบตองแทนวัสดุ อื่น ๆ แล้วนิยมใช้ลอยกระทงมาแต่คราวนั้นตราบจนทุกวันนี้ ซึ่งตำราท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศนี้ กรมพระยาดำรงราชา นุภาพทรงเชื่อว่าเป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากสำนวนโวหารมีลักษณะร่วมกับวรรณ กรรมสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งยังมีเพราะมีข้อความหลายตอนที่แสดงให้เห็นว่าแต่งสมัยกรุงสุโขทัยไม่ได้ เช่น การอ้างถึงอเมริกัน ปืนใหญ่ เป็นต้น ดังนั้น นางนพมาศ จึงเป็นเพียง “นางในวรรณคดี” มิได้มีตัวตนอยู่จริง
นอกจากนี้ ในศิลาจารึกสมัยสุโขทัยและเอกสารร่วมสมัย ก็ไม่มีปรากฏชื่อ “ลอยกระทง” แม้แต่ในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงก็มีแต่ชื่อ “เผาเทียน เล่นไฟ” ที่มีความหมายอย่างกว้าง ๆ ว่า การทำบุญไหว้พระ โดยไม่มีคำว่า “ลอยกระทง” อยู่ในศิลาจารึกนี้เลย ส่วนเอกสารและวรรณคดีสมัย กรุงศรีอยุธยาสมัยแรก ๆ ก็มีแต่ชื่อ ชักโคม ลอยโคม แขวนโคม และลดชุดลอยโคมลงน้ำ ในพิธีพราหมณ์ของราชสำนักเท่านั้น และแม้แต่ในสมัยกรุงธนบุรีก็ไม่มีชื่อนี้ จนถึงยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์จึงมีปรากฏชัดเจนในพระราชพงศาวดารแผ่นดิน รัชกาลที่ 3 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ และเรื่องนางนพมาศ พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 3 ซึ่งก็หมายความว่า คำว่า “ลอยกระทง” เพิ่งปรากฏในต้นกรุงรัตนโกสินทร์นี้เอง
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าประเพณีลอยกระทงจะเกิดขึ้น และมีพัฒนาการมาอย่างไรก็ตาม แต่ความหมายที่มีคุณค่ามหาศาลต่อสังคมปัจจุบันอันควรเผยแพร่ให้เป็นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางก็คือ ลอยกระทงแม่พระคงคา ขอขมาธรรมชาติ อันมีดินและน้ำที่หล่อเลี้ยงเกื้อกูลความมีชีวิตให้มวลมนุษย์ตลอดจนพืชและสัตว์ ซึ่งการระลึกถึงพระคุณของธรรมชาตินี้เองจะช่วยให้เราเคารพและไม่ทำร้ายธรรมชาติ จนส่งผลให้ธรรมชาติย้อนกลับมาลงโทษมนุษย์ ดังเช่นที่เห็นในปัจจุบัน.
![](http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:QIGIQIOT9De-ZM:http://kratauy.files.wordpress.com/2009/09/00loykt.jpg) ![](http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:0LZYXx3p9gFiAM:http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/786/1786/images/01358_002.jpg) ![](http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:n0wSNbUl2BnhRM:http://www.siambig.com/resize_picture/loikrathongatsukhothai_000.jpg) ![](http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:djW46BRDtaFuPM:http://farm4.static.flickr.com/3187/3005044328_405fb492af.jpg)
ที่มา www.dailynews.co.th/
|
วันที่ 30 ต.ค. 2552
Advertisement
![ผลการใช้ชุดการเรียนรู้เกษตรลูกทุ่ง ผลการใช้ชุดการเรียนรู้เกษตรลูกทุ่ง](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,406 ครั้ง ![ฝนนี้..เชิญที่..ศรีวิไล นับขั้นบันได ที่ ภูทอก มีสวรรค์ ๗ ชั้น น้ำตก ๗ สี ฝนนี้..เชิญที่..ศรีวิไล นับขั้นบันได ที่ ภูทอก มีสวรรค์ ๗ ชั้น น้ำตก ๗ สี](news_pic/p22021531127.jpg) เปิดอ่าน 6,415 ครั้ง ![มี "บ้านเล็ก" กันเถอะ มี "บ้านเล็ก" กันเถอะ](news_pic/p51502761243.jpg) เปิดอ่าน 6,413 ครั้ง ![พีซ-สิตมน สาวผู้กุมหัวใจหนุ่ม ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ พีซ-สิตมน สาวผู้กุมหัวใจหนุ่ม ติ๊ก-เจษฎาภรณ์](news_pic/p27641010504.jpg) เปิดอ่าน 6,420 ครั้ง ![32 ข้อคิดดีๆ...ในการดำเนินชีวิต 32 ข้อคิดดีๆ...ในการดำเนินชีวิต](news_pic/p68615880624.jpg) เปิดอ่าน 6,417 ครั้ง ![สอนการจัดดอกไม้แจกันง่ายๆ .....ที่คุณก็ทำได้ สอนการจัดดอกไม้แจกันง่ายๆ .....ที่คุณก็ทำได้](news_pic/p18898550715.jpg) เปิดอ่าน 6,418 ครั้ง ![เปิดกระป๋องโซดา...ไม่ให้น้ำหกเลอะเทอะ เปิดกระป๋องโซดา...ไม่ให้น้ำหกเลอะเทอะ](news_pic/p59629141349.jpg) เปิดอ่าน 6,445 ครั้ง ![1 กันยายน ..สืบ นาคะเสถียร . 1 กันยายน ..สืบ นาคะเสถียร .](news_pic/p71196362317.jpg) เปิดอ่าน 6,411 ครั้ง ![มีอะไรดี..ในมะเขือเทศ..!! มีอะไรดี..ในมะเขือเทศ..!!](news_pic/p23417370825.jpg) เปิดอ่าน 6,424 ครั้ง ![เผยแพร่ผลงานวิชาการ เผยแพร่ผลงานวิชาการ](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,422 ครั้ง ![5 มิถุนายน...พิธีมอบรางวัลสื่อมวลชนสร้างสังคมธรรมาธิปไตย ?ฐานันดร 4 ทองคำ ปี 51 5 มิถุนายน...พิธีมอบรางวัลสื่อมวลชนสร้างสังคมธรรมาธิปไตย ?ฐานันดร 4 ทองคำ ปี 51](news_pic/p75435430521.jpg) เปิดอ่าน 6,421 ครั้ง ![ถังน้ำสองใบ...มุมมองที่แตกต่าง ถังน้ำสองใบ...มุมมองที่แตกต่าง](news_pic/p80507011357.jpg) เปิดอ่าน 6,428 ครั้ง ![อ่านแล้ว..เส้นเลือดไม่ขอด ไม่ปวดน่อง อ่านแล้ว..เส้นเลือดไม่ขอด ไม่ปวดน่อง](news_pic/p45229091843.jpg) เปิดอ่าน 6,425 ครั้ง ![รณรงค์เลิกใช้ภาษาวิบัติ.... รณรงค์เลิกใช้ภาษาวิบัติ....](news_pic/p19648830732.jpg) เปิดอ่าน 6,472 ครั้ง ![ล้างองุ่นให้ปลอดภัย...ด้วยยาสีฟัน ล้างองุ่นให้ปลอดภัย...ด้วยยาสีฟัน](news_pic/p45834061100.jpg) เปิดอ่าน 6,424 ครั้ง ![เช็คที่มาของมือถือว่ามีคุณภาพหรือเปล่า... เช็คที่มาของมือถือว่ามีคุณภาพหรือเปล่า...](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,418 ครั้ง
|
![GAT PAT คือทางออกหรือ GAT PAT คือทางออกหรือ](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,426 ☕ คลิกอ่านเลย |
![พอ..ดี พอ..ดี](news_pic/p19674171902.jpg)
เปิดอ่าน 6,416 ☕ คลิกอ่านเลย | ![เพลงพยางค์เดียว(แต่มีค่ายิ่งใหญ่).....แม่ เพลงพยางค์เดียว(แต่มีค่ายิ่งใหญ่).....แม่](news_pic/p82315811849.jpg)
เปิดอ่าน 6,454 ☕ คลิกอ่านเลย | ![....คำถามกวนๆ<>เฉลยแบบขำๆ.... ....คำถามกวนๆ<>เฉลยแบบขำๆ....](news_pic/p94695710652.jpg)
เปิดอ่าน 6,987 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัย.... ประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัย....](news_pic/p88569571335.jpg)
เปิดอ่าน 6,430 ☕ คลิกอ่านเลย | ![หอกรีนิช เปิดสุดยอด ภาพถ่ายดาราศาสตร์ 2009 หอกรีนิช เปิดสุดยอด ภาพถ่ายดาราศาสตร์ 2009](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,420 ☕ คลิกอ่านเลย | ![card.ly l นามบัตรออนไลน์ คลิกได้ อินเทรนด์ card.ly l นามบัตรออนไลน์ คลิกได้ อินเทรนด์](news_pic/p64273861834.jpg)
เปิดอ่าน 6,419 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ ![ปฏิรูปการเรียนรู้...สู่...ห้องเรียน ปฏิรูปการเรียนรู้...สู่...ห้องเรียน](news_pic/p22050590944.jpg)
เปิดอ่าน 12,064 ครั้ง | ![ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด](news_pic/p18612281237.jpg)
เปิดอ่าน 15,933 ครั้ง | ![พายุไต้ฝุ่น พายุไต้ฝุ่น](news_pic/p34461450845.jpg)
เปิดอ่าน 31,424 ครั้ง | ![การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ) การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)](news_pic/pic/p98408891016.jpg)
เปิดอ่าน 27,915 ครั้ง | ![อิทธิพลของดวงจันทร์ อิทธิพลของดวงจันทร์](news_pic/p86766601209.jpg)
เปิดอ่าน 2,184 ครั้ง |
|
|