|
Advertisement
| |
10 วิธี สวยใส ไกลเครียด
เคล็ดลับสุขภาพและความงามสำหรับสาวๆ Working Woman
|
 |
|
สดใสตลอดวัน เคล็ดลับง่ายๆ จาก ดร. เดเนียล กลัวเก็น (Daniel Gloaguen)
1. ในตอนเช้า เปิดหน้าต่างให้กว้างๆ สัก 15 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเทและรับอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้ามาบ้าง เพราะในอาคารหรือสำนักงานที่ปิดทึบมักเป็นที่สะสมของละอองเคมีและเชื้อโรคต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งไอระเหยเหล่านี้อาจจะมาจากสีทาอาคารหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งจะไปรบกวนระบบทางเดินหายใจและทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งการหายใจได้ไม่เต็มที่นี้ก็เป็นสาเหตุให้เกิดความอ่อนเพลียได้
2. ก่อนกลับบ้าน จัดของบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ จัดเอกสารให้เป็นหมวดหมู่ อะไรที่ไม่จำเป็นและรกรุงรังก็ควรเก็บทิ้งให้เรียบร้อยก่อน คงไม่ดีแน่ ถ้าคุณต้องเริ่มงานทุกเช้าด้วยโต๊ะทำงานที่มีเอกสารวางสุมกันเป็นกองพะเนินอย่างไร้ระเบียบ 3. หาเวลายืดเส้นยืดสาย การต้องนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการปวดเมื่อยและอ่อนล้า ไปจนถึงขั้นหมดเรี่ยวแรงเมื่อหมดวัน เพราะฉะนั้นจึงควรหยุดพักเป็นระยะเพื่อยืดเส้นยืดสายบ้าง และสำหรับสายตาก็เช่นกัน การใช้สายตาเป็นเวลานานติดต่อกันหรือนั่งทำงานในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอก็ทำให้สายตาเกิดอาการล้า ไปจนถึงขั้นเกิดปัญหาทางสายตาได้ในระยะยาว
4. ดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำแร่ระหว่างทำงานบ้าง เนื่องจากความเครียดทำให้ร่างกายสูญเสียแมกนีเซียมซึ่งทำให้ร่างกายยิ่งรู้สึกอ่อนล้า
โดย NATHALIE MANOUKIAN |
เติมวิตามินให้ร่างกาย
ดร. โดมินิก กูโยต์ (Dominique Guyot) นักโภชนาการที่ศึกษาผลของวิตามินและแร่ธาตุที่มีต่อการทำงานของระบบประสาทซึ่งได้แก่ วิตามิน B3, B6, B9, B12, แมกนีเซียม, เหล็กและสังกะสี วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญและจำเป็นต่อระบบการทำงานของร่างกายและระบบประสาท เมื่อร่างกายได้รับไม่เพียงพอก็ทำให้ระบบทุกอย่างแปรปรวน โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับความเครียดด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ ทางแก้ก็คือ “รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระ ไปจนถึงโอเมก้า-3 ก็เป็นตัวช่วยที่ดีและสะดวก”
โดย EMMANUELLE BLANC |
ข้อดีของความเบื่อ!
ไม่อยากได้อะไรแล้วใช่ไหม ความรู้สึกอยากได้หรือความรู้สึกอยากทำอะไรชักหดหาย คุณกำลังรู้สึกเบื่อหน่ายเหมือนอยู่ไปวันๆ บ้างหรือเปล่า ถ้าใช่ละก็ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณเกิดอาการอ่อนล้าทางใจ ซึ่งต้องแก้ไขโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้! แต่ในทางตรงข้าม สำหรับดร. แพ็ททริค เลอมวน (Patrick Lemoine) ซึ่งเป็นจิตแพทย์และเขียนหนังสือเรื่อง “S’ennuyer, quel bonheur!” กลับบอกว่าความเบื่อนี่แหละเป็นเรื่องดี - - อย่างไรน่ะหรือ จิตแพทย์ท่านนี้บอกว่าเมื่อเรารู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร จนรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ช่วงเวลานี้แหละกลับเป็นช่วงเวลามีค่าที่สุด เพราะจะทำให้เราได้มีโอกาสหยุดคิด ใคร่ครวญ เกิดไอเดียใหม่ๆ ซึ่งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเราทั้งชีวิตก็ได้!
โดย N. M. |
เติมสีสันให้หน้าสวย
เพื่อลบความโรยล้าของใบหน้าและทำให้หน้าดูสดใส เรามีวิธีแต่งหน้าและเลือกสีเมกอัพ จากแยนนิค โวดรี้ (Yannick Vaudry) ซึ่งเป็นเมกอัพอาร์ทิสต์ของ Yves Saint Laurent มาฝาก เริ่มจากกันคิ้วให้ได้รูป ทาปากด้วยลิปสติกในเฉดสีแดงหรือชมพู เพิ่มความโดดเด่นของดวงตาด้วยขนตาปลอม หรือจะเลือกปัดมาสคาร่าแทนก็ได้ ส่วนบลัชออนควรใช้เฉดสีชมพู โดยทาให้ทั่วโหนกแก้มและใบหน้าเพื่อให้หน้าดูมีสีระเรื่อ ส่วนเปลือกตาควรเลือกอายแชโดว์สีชมพูอ่อน น้ำตาล ไปจนถึงสีโทป สีที่ไม่ควรใช้ก็คือ อายแชโดว์สีม่วง เขียว รวมทั้งการแต่งตาแบบสโมกี้อายส์
โดย MARIE LÉTANG |
.jpg) .jpg)
ซ้าย-แป้งคอมแพ็คท์จาก T.Leclerc
ขวา-อายแชโดว์ 4 สี Accessor' eyes n 2 Indigo Denim จาก Givenchy |
|
.jpg)
สารสกัดจาก
ผลกัวรานา
Guaranr Tonifiant |
หลากวิธีเติมพลัง
- ดื่มน้ำขิง “เวลาที่รู้สึกเหนื่อยๆ ฉันจะชงน้ำขิงร้อนๆ ดื่ม รับรองได้ผลเกินคาด” (เคล็ดลับจาก Ines de la Fressange)
- ดื่มน้ำมะเขือเทศ “เวลาที่ต้องออกแบบคอลเลกชั่นใหม่ๆ ฉันจะดื่มน้ำมะเขือเทศคั้นสดๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้หายเพลียแล้ว ยังช่วยในเรื่องความเครียดด้วย” (เคล็ดลับจาก Vanessa Seward ดีไซเนอร์จาก Azzaro)
- มาสก์หน้า “ถ้าเหนื่อยๆ ก็จะหาเวลามาสก์หน้า ระหว่างนั้นฉันก็จะจุดเตาน้ำมันหอมระเหยและเปิดเพลงเบาๆ คลอไปด้วย” (เคล็ดลับจาก Ariane Massenet)
โดย PEGGY FREY |
|
ผ่อนคลายด้วยสมาธิ
เวลาที่เรารู้สึกเครียด จะทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายแปรปรวนไปด้วย เช่น ชีพจรเต้นเร็วขึ้น ความดันเพิ่มสูงขึ้น ฯลฯ ซึ่งในระยะยาวแล้วย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นถ้ารู้ว่าตัวเองเครียดควรรีบหาทางกำจัดโดยเร็ว ซึ่งวิธีหนึ่งที่ได้ผลและทำได้ง่ายที่สุดก็คือ เมื่อรู้สึกเครียดลองหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกให้สุด ซึ่งการหายใจวิธีนี้จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้น ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย หรือไม่เช่นนั้นลองหาเวลานั่งหลับตานิ่งๆ สัก 5-10 นาที และหายใจเข้า-ออกช้าๆ พยายามให้ใจจดจ่ออยู่ที่
ลมหายใจหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งการฝึกสมาธิจะช่วยให้คุณจิตใจสงบและผ่อนคลาย ช่วยให้หายเครียดอย่าง
ได้ผลทีเดียว
โดย S.S. |
นวดเพื่อผ่อนคลาย
ถ้าเครียดหรือรู้สึกเพลียๆ ลองหาเวลาไปนวดหรือทำสปาบ้างก็จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ แถมยังมีประโยชน์ก็คือช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนต่างๆ ของร่างกาย เช่น โลหิตและน้ำเหลือง คลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดี รวมทั้งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้นด้วย ซึ่งการนวดและทำสปานั้นก็มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ
- นวดแผนไทย การนวดแผนไทยเป็นศาสตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยมีข้อดีก็คือช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ
- นวดแบบชิอัตสึ การนวดแบบนี้เป็นการนวดแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยคำว่า ‘ชิ’ นั้นหมายถึงนิ้วมือ ส่วน ‘อัตสึ’ หมายถึง การกด ซึ่งเป็นการนวดอีกแบบที่ได้รับความนิยมมาก เพราะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดี
- นวดน้ำมัน ซึ่งเป็นการนวดที่นำเอาน้ำมันหอมระเหยมาใช้เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยคลายเครียดได้ดี ผลลัพธ์ก็คือคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย หายเครียดและยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวลขึ้นอีกด้วย
โดย S.S. |
ดวงตาสวยหวาน
ความอ่อนล้านอกจากจะฟ้องมาทางใบหน้าแล้ว ยังฟ้องออกมาทางดวงตาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นรอยคล้ำรอบดวงตา ตาลึกโหล บวม ไปจนถึงแดงช้ำ…ซึ่งวิธีบรรเทาอาการเหล่านี้ก็คือ ลองหาถุงชาอุ่นๆ มาวางบนเปลือกตา หรือใช้แตงกวาสดก็ได้ แต่หากไม่อยากยุ่งยาก ลองหาผลิตภัณฑ์หรือครีมที่ดูแลริ้วรอยรอบดวงตาโดยเฉพาะมาใช้ซึ่งทั้งง่ายและเห็นผล เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีมอยส์เจอไรเซอร์ให้ความชุ่มชื่นและช่วยบำรุงผิวอันบอบบางรอบดวงตาได้อย่างล้ำลึก จึงสามารถช่วยลดอาการบวมช้ำและลดริ้วรอยรอบดวงตาได้
โดย M. Lé. |
วัดระดับความเครียด
ความเครียดไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการที่มาจากสาเหตุบางประการที่เราต้องค้นหาและจัดการให้ถูกวิธีด้วยการ
สำรวจตนเอง เก้าในสิบของคน สามารถค้นหาสาเหตุของความเครียดได้ด้วยตนเอง โดยอาจจะลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า ที่เราเครียดนั้นเป็นปัญหามาจากอะไร จากครอบครัว จากที่ทำงาน หรือเป็นปัญหาการเงินที่แก้ไม่ตกและเมื่อค้นพบว่าสิ่งใดที่ทำให้เรากังวลและเครียด ก็จัดการกับปัญหานั้นซะให้ตรงจุด
รับคำปรึกษา การจมอยู่กับความเครียดนานๆ นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก หากคุณมีความเครียดขั้นรุนแรงจนไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้ด้วยตนเอง ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์ดู เพราะการได้พูดคุยกับใครสักคนที่พร้อมจะรับฟังและเข้าใจก็สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ และแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นก็มีวิธีบำบัดและเยียวยาที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้อย่างเห็นผล
โดย E. B. |
 |
|
Test
วัดระดับความอ่อนล้า
มีสาเหตุมากมายที่ทำให้คนเรารู้สึกเพลียและอ่อนล้า ก่อนอื่นลองมาดูซิว่าความอ่อนเพลียของคุณนั้นอยู่ในระดับไหน ลองอ่านคำถามและตอบว่า ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่ใช่’ จากนั้นนับดูซิว่าคำตอบที่ได้เป็น ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่ใช่’ มากกว่ากัน
1. เป็นเวลา 2 สัปดาห์มาแล้วที่คุณตื่นนอนด้วยความรู้สึกเพลียและไม่สดชื่น
2. แค่ได้หลับสักงีบ ก็ทำให้คุณรู้สึกหายเพลีย
3. คุณนอนเยอะมาก แต่ก็ยังรู้สึกไม่อยากตื่นเมื่อถึงเวลา
4. เวลาที่อากาศเย็นๆ คุณมักเป็นหวัด เป็นไข้หรือมีปัญหากับระบบทางเดินหายใจ
5. คุณดื่มชาเป็นประจำ โดยเฉพาะระหว่างมื้ออาหาร
6. เดินขึ้นตึกแค่สองชั้นด้วยบันได ก็ทำให้คุณเหนื่อยจนหอบแฮ่กแล้ว
7. เวลาอยู่ที่ทำงานคุณชอบปรับอุณภูมิให้สูงขึ้น
8. ความอ่อนเพลียหายเป็นปลิดทิ้ง หลังไปเที่ยวทะเลวันหยุด
9. ไม่เพียงแต่รู้สึกเพลียเท่านั้น แต่คุณยังรู้สึกอะไรๆ ก็แย่ไปหมด
10. คุณรู้สึกว่างานรัดตัวมาก จนบางทีอยากอยู่เฉยๆ บ้าง
หากมีคำตอบ ‘ใช่’ มากกว่า 5 ข้อ
- หากคำตอบของคุณคือ ‘ใช่’ มากกว่า 5 ข้อ คุณอาจต้องไปตรวจสุขภาพบ้างแล้วละ เพราะอาการอ่อนเพลียของคุณ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการผิดปกติบางอย่างของร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการอ่อนเพลียในผู้หญิงที่บ่อยครั้งเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ซีดเซียวและมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่าย หรือไม่ก็อาจมีสาเหตุมาจากต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติหรือที่เรียกว่าไฮโปไทรอยด์ ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าผู้ชายถึงแปดในสิบเท่า การที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกตินี้ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง น้ำหนักตัวจึงเพิ่มขึ้น ผิวแห้ง ผมแห้งเปราะและจิตใจหดหู่ แต่นอกจากสาเหตุดังกล่าวแล้วความอ่อนเพลีย ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้เช่นกัน
หากมีคำตอบ ‘ไม่ใช่’ มากกว่า 5 ข้อ
คุณทำงานมากเกินไปแล้ว มากจนระบบนาฬิกาชีวภาพหรือนาฬิกาในร่างกายทำงานแปรปรวน ถึงเวลานอนคุณก็ยังทำงาน เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่คุณจะต้องจัดระบบตารางชีวิตของคุณใหม่ได้แล้ว เวลานอนก็ควรนอน เพื่อจะได้ตื่นตามเวลาอย่างสดชื่น สิ่งที่จะช่วยให้คุณดีขึ้นก็คือ กฎ 2 ข้อที่ว่า พักผ่อนและปรับตัวเองใหม่ พยายามใช้ชีวิตตามเวลาปกติเหมือนคนอื่นๆ แต่หากปรับทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางแล้ว แต่ความอ่อนเพลียยังคงอยู่ละก็ ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด่วน!
โดย N. M.
|
| |
|
madame FIGARO April 2008, โดย EMMANUELLE BLANC, PEGGY FREY, MARIE LÉTANG ET NATHALIE MANOUKIAN., แปลและเรียบเรียงโดย ศิวพร ใสโต
PHOTOS : ALEXANDRE WEINBERGER ET GILBERT BENESTY (PRODUITS)
ที่มา communities.gmember.com/variety/variety_detail.php?content_id=288
|
วันที่ 2 ธ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 6,264 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,253 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,285 ครั้ง
เปิดอ่าน 6,343 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,273 ครั้ง
เปิดอ่าน 6,277 ครั้ง
เปิดอ่าน 6,267 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,323 ครั้ง
เปิดอ่าน 6,262 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,252 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,257 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,259 ครั้ง
เปิดอ่าน 6,257 ครั้ง
เปิดอ่าน 6,261 ครั้ง 
เปิดอ่าน 6,258 ครั้ง
เปิดอ่าน 6,251 ครั้ง |
เปิดอ่าน 6,304 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,247 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 6,268 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 6,247 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 6,265 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 6,275 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,251 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 15,300 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 15,772 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 24,636 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 19,538 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 14,315 ครั้ง |
|
|
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
